คำถามสุดคลาสสิกที่ทุกคนเจอเสมอเวลาไปสัมภาษณ์งาน แต่คำถามง่าย ๆ นี่แหละที่ทำให้ผู้สมัครหลายคนหนักใจ เพราะไม่รู้ว่าควรตอบแบบไหนถึงดีต่อตำแหน่งที่เราสมัคร

อีกหนึ่งคำถามที่หลายคนละเลยเพราะคิดว่าไม่ใช่คำถามสำคัญ จนทำให้เสียโอกาสในการทำความรู้จักบริษัทและงานให้มากขึ้น

คำถามนี้เปิดโอกาสให้คุณได้แสดงความสามารถในการทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งการตอบคำถามนี้จะไม่ตอบแค่เขาจะได้อะไรเท่านั้น แต่คุณจะทำสิ่งนั้นๆ ให้เขาได้อย่างไรด้วย

คำตอบนี้เป็นการสรุปของข้อดีที่มีและสอดคล้องกับตำแหน่ง พร้อมยกตัวอย่างให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรม

เป็นคำถามที่นอกจากจะเป็นโอกาสให้เราแสดงจุดแข็งออกมาเพื่อให้โดดเด่นกว่าผู้สมัครงานคนอื่นๆ แล้ว ยังนำเสนอได้ว่าเราเข้าใจตัวเองดีแค่ไหนด้วย

นอกจากจะทำให้ผู้สัมภาษณ์รู้เป้าหมายของคุณแล้ว ยังทำให้เขาเห็นด้วยว่าคุณเป็นคนที่มีการวางแผนอนาคตของตัวเอง

คำถามที่เราจะมัดใจผู้สัมภาษณ์ได้ เพราะเปิดโอกาสให้เรานำเสนอทักษะ และความสนใจที่มีต่อองค์กรและงาน

ผู้สัมภาษณ์ไม่ได้อยากรู้เพียงว่าคุณต้องการความท้าทายอะไรเท่านั้น แต่เขาอยากรู้ว่าจะจัดการมันได้อย่างไรด้วย

การแนะนำตัวเองเป็นคำถามพื้นฐาน คำถามแรกที่ต้องเจอทุกคน เพื่อให้ผู้สัมภาษณ์ทำความรู้จักกับผู้สมัครมากขึ้น ซึ่งอาจฟังดูง่ายแต่หลายคนก็ตกม้าตายตอนแนะนำตัวกันมามากแล้ว

คำถามสัมภาษณ์งานที่เกือบทุกคนต้องโดนถาม เพราะเป็นคำถามที่ผู้สัมภาษณ์งานจะได้ตรวจสอบดูว่าเรามีเป้าหมายในการทำงานเป็นอย่างไร เหมาะกับเขาไหม

5 วิธีที่จะช่วยให้เราพัฒนาความคิดทางบวก ส่งเสริมทัศนคติที่ดีที่จะนำมาใช้ในการแก้ไขปัญหาในโลกของการทำงานและชีวิตประจำวันเพื่อให้ประสบความสำเร็จอย่างมีความสุข

การวางแผนอาชีพอาจจะดูยาก ต้องมีการวางแผนที่ละเอียดซับซ้อน แต่ถ้าเรามองว่ามันก็เหมือนการวางแผนการท่องเที่ยว เราจะวางแผนได้สนุก และทำได้ง่ายขึ้น

การทำงานในรูปแบบ “ฟรีแลนซ์” เริ่มมีคนให้ความสนใจมากขึ้น เพราะรูปแบบในการทำงานดูเหมือนจะตรงใจคนทำงาน Generation ใหม่อย่างไรก็ตามฟรีแลนซ์ก็อาจไม่ใช่สิ่งที่ใครหลายคนต้องการ