เชื่อว่าคนทำงานหลายคนต้องเคยเกิดอาการ “เตียงดูด” ในทุก ๆ เช้าก่อนลุกขึ้นมาล้างหน้าแปรงฟัน โดยเฉพาะวันทำงานวันแรกหลังจากที่ผ่านวันหยุด หรือบางครั้งไปถึงที่ทำงานได้แล้ว แต่ความง่วงก็ยังไม่หายไป แถมยังรู้สึกหม่นหมอง เฉื่อยชา ไม่กระตือรือร้นที่จะทำอะไรด้วย และอาจส่งผลให้วันนั้นทั้งวันของเราไม่สดใส ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นก็คงจะไม่ค่อยดีซักเท่าไหร่

JobThai เลยไม่รอช้า รีบหาคำแนะนำที่จะทำให้คนทำงานอย่างเราเริ่มต้นเช้าวันใหม่ได้อย่างสดใส และทำงานตลอดทั้งวันได้อย่างมีประสิทธิภาพมาฝาก

1. เปิดไฟให้สว่างทันทีที่ตื่นนอน

ไม่ว่าจะง่วงขนาดไหน แต่หากเสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นแล้วก็ไม่ควรนอนต่อเพราะอาจทำให้งัวเงียมากขึ้น และสิ่งสำคัญไม่ควรตั้งนาฬิกาปลุกซ้ำกันหลายครั้งเพราะจะทำให้เรานอนไม่สนิทและรู้สึกเหนื่อยกว่าเดิม ดังนั้นเมื่อตื่นนอนแล้วควรลุกจากเตียงทันที ซึ่งนาฬิกาชีวิตของร่างกายคนเราจะสามารถปรับจูนได้ตามปริมาณของแสงสว่าง เพราะฉะนั้นทันทีที่ตื่นนอนเราควรเปิดไฟในห้องให้สว่างหรือเปิดผ้าม่านรับแสงอาทิตย์ เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายของเรารู้สึกว่าเป็นเวลาที่ควรจะต้องลุกจากเตียงและตื่นได้แล้ว

2. ออกกำลังกายเรียกเหงื่อยามเช้า

ทุกคนคงรู้อยู่แล้วว่าประโยชน์ของการออกกำลังกายนี้นอกจากจะสร้างกล้ามเนื้อให้แก่ร่างกาย ยังทำให้ระบบภูมิคุ้มกัน และระบบทางเดินหายใจของเราดีขึ้นด้วย ซึ่งการเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการออกกำลังกายในตอนเช้ามีข้อดีมากมาย มันจะช่วยให้เราสลัดความง่วงให้หายไปเพราะหัวใจของเราถูกกระตุ้น และส่งผลให้สมองปลอดโปร่ง พร้อมปลุกให้เรากระฉับกระเฉงเพื่อเริ่มต้นวันใหม่อย่างสดชื่น

3. อย่าพลาดอาหารเช้าเด็ดขาด

ในปัจจุบันมีหลายสาเหตุที่ทำให้คนทำงานมักจะไม่รับประทานอาหารมื้อเช้า ซึ่งอาจเกิดเพราะความเร่งรีบ หรือตั้งใจอดอาหารเช้าเพื่อลดความอ้วน ทั้ง ๆ ที่อาหารเช้าเป็นมื้อที่สำคัญมากต่อร่างกาย นอกจากนี้มันยังเป็นการเติมพลังงานหลังจากนอนหลับมาทั้งคืนอีกด้วย ซึ่งการไม่กินมื้อเช้าจะทำให้ระบบการเผาผลาญสูญเสียความสมดุล ไม่ได้รับพลังงานอย่างที่ควรจะเป็น และที่หลาย ๆ คนยังไม่รู้การอดอาหารเช้าอาจทำให้เราอ้วนง่ายขึ้นด้วยเนื่องจากระบบเผาผลาญทำงานได้ไม่เต็มที่ นอกจากนั้นระดับน้ำตาลในเลือดจะลดลง ซึ่งทำให้พลังและความกระตือรือร้นของเราลดลงเช่นกัน

4 หาเพลงหรือ Podcast ดี ๆ ฟัง

การหาอะไรฟังในตอนเช้าจะช่วยให้เรารู้สึกตื่นตัวมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระหว่างอาบน้ำ รับประทานอาหารเช้า หรือระหว่างการเดินทางไปทำงาน แทนที่จะนั่งมองทางไปเรื่อย ๆ แล้วปล่อยให้สมองว่างเปล่าหรือนอนบนรถสาธารณะ ลองหาเพลงหรือ Podcast ที่น่าสนใจฟังดู แล้วอาจจะเพิ่มระดับเสียงและเร่งจังหวะสักนิดก็ได้ ซึ่งปัจจุบันมีรายการ Podcast ดี ๆ เกิดขึ้นมากมาย ซึ่งมีเนื้อหาคอนเทนต์รายการที่แตกต่างกันไป

5. เริ่มต้นการทำงานด้วยงานที่ต้องใช้ความคิดมาก ๆ ก่อน

งานชิ้นแรก ๆ ที่ทำในตอนเช้าควรจะเป็นงานที่ทำให้เราต้องใช้สมาธิหรืองานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ เช่น งานเขียน งานออกแบบ หรือ Programming เพราะมันจะช่วยให้สมองของเราจดจ่ออยู่กับงานที่ทำ กระตุ้นสมองและทำให้เราอยากทำงานมากขึ้น กลับกันถ้าเราเริ่มต้นการทำงานของวันด้วยงานที่น่าเบื่อ มันก็จะทำให้เราเบื่อหน่าย เฉื่อยชา และไม่หลุดพ้นจากอาการง่วงนอนสักที ซึ่งการทำงานที่สำคัญในตอนเช้าของวันก็จะทำให้สมองเราทำงานได้มีประสิทธิภาพมากกว่าตอนบ่ายที่สมองเริ่มล้าแล้ว

6. จัดการเวลาเข้านอนให้ดี

ไม่มีวิธีไหนที่จะแก้ปัญหาอาการง่วงนอนและความรู้สึกไม่สดชื่นในตอนเช้าได้ตรงจุดเท่าการจัดการกับการนอนของเราอีกแล้ว ซึ่งข้อดีของการพักผ่อนให้เพียงพอยังทำให้ร่ายกายสามารถซ่อมแซมตัวเองและทำให้ระบบเผาผลาญในร่างกายดีขึ้นอีกด้วย เราจึงควรจัดเวลาเข้านอนของตัวเองให้มากพอที่เราจะพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ ซึ่งหลายคนชอบคิดว่าอดนอนนิด ๆ หน่อย ๆ ในวันธรรมดา แล้วไปนอนยาวแทนในช่วงวันหยุดแทนก็ได้ แต่จริง ๆ แล้วมันเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เราควรจะพยายามนอนให้พอในทุก ๆ วันจนติดเป็นนิสัยจะดีกว่า

บทความเดิมได้ถูกเผยแพร่ในวันที่ 29 มิถุนายน 2016 และได้รับการอัปเดตโดยทีมงาน JobThai