5 พฤติกรรมเสี่ยงตอนเช้าที่อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของคุณตลอดทั้งวัน

5 พฤติกรรมเสี่ยงตอนเช้าที่อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของคุณตลอดทั้งวัน
13/05/19   |   19.3k   |  

ตอนเช้าเป็นช่วงเวลาที่ดีในการเริ่มต้นทำอะไรกับชีวิตของเรา ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย ทำสมาธิ อ่านหนังสือ หรือเริ่มทำงานที่มีความสำคัญ แต่บางกิจกรรมที่เราเลือกทำ หรือเลือกที่จะไม่ทำในตอนเช้านั้นก็อาจจะจะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานของเราไปตลอดทั้งวันได้แบบไม่น่าเชื่อ

 

พฤติกรรมอะไรบ้างที่คนทำงานควรหลีกเลี่ยงในตอนเช้า เพื่อจะทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพไปตลอดทั้งวัน JobThai รวบรวมมาไว้ให้ที่นี่แล้ว

 

 

  • อย่าหลีกเลี่ยงที่จะเจอแสงแดดยามเช้า เพราะการเจอแสงจากธรรมชาติสัก 20 – 30 นาทีต่อวันจะช่วยให้ สมองปลอดโปร่ง อารมณ์แจ่มใส และร่างกายตื่นตัวพร้อมที่จะทำงาน
  • ดื่มน้ำให้มาก ๆ ตั้งแต่หลังตื่นนอน เพื่อช่วยให้ร่างกายสดชื่น และรู้สึกกระปรี้กระเปร่า ถ้ามีน้ำในร่างกายน้อยไปอาจจะทำให้ร่างกายทำงานผิดเพี้ยน เกิดอาการมึนงง อิดโรย และสมองไม่พร้อมทำงาน
  • อย่าออกกำลังกายขณะที่ท้องว่างในตอนเช้า เพราะร่างกายจะดึงพลังงานจากกล้ามเนื้อมาใช้ ทำให้สมองและร่างกายเหนื่อยล้า
  • อาหารเช้าสำคัญมาก การไม่รับประทานอาหารเช้าจะทำให้สมองทำงานไม่เต็มที่  เกิดความเครียดจนส่งผลต่ออารมณ์และการทำงาน
  • พยายามอย่าอารมณ์เสียตั้งแต่เช้าระหว่างที่เดินทางมาทำงาน เพราะการหงุดหงิดจะทำให้ส่งผลต่อสุขภาพกายและสุภาพใจจนอาจเป็นสาเหตุให้ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
     

 

1. ไม่ยอมโดนแดดตอนเช้า

การเจอแสงแดดตอนเช้าแค่ประมาณ 20 – 30 นาที ก็ช่วยให้สมองของเราปลอดโปร่ง อารมณ์แจ่มใส ระบบการทำงานของร่างกายสมดุล การเผาผลาญเป็นปกติ กระตุ้นการทำงานของเซลล์ผิวหนังและหลอดเลือด นอกจากนี้ร่างกายยังได้รับวิตามินดีซึ่งมีส่วนช่วยในการสร้างแคลเซียมในกระดูกด้วย

 

จากงานวิจัยของ Feinberg School of Medicine มหาวิทยาลัย Northwestern บอกว่าการได้รับแสงอาทิตย์มีผลต่อระบบการทำงานของร่างกาย ผ่านการใช้ดัชนีมวลรวมร่างกายหรือ BMI (Body Mass Index) ซึ่งกลุ่มตัวอย่างที่โดนแสงแดดในตอนเช้าจะมีค่าBMI น้อยกว่าคนที่ไม่ค่อยเจอแสงแดด ซึ่งถ้า BMI ยิ่งน้อยเท่าไหร่ก็ยิ่งดี 

 

ถ้าเป็นไปได้ก็ลองออกมากนั่งกินอาหารหรือจิบกาแฟยามเช้าในมุมที่ได้รับแสงแดดอ่อน ๆ ดูบ้าง เพื่อที่ร่างกายของเราจะได้ตื่นตัวพร้อมทำงานในเช้าวันใหม่

 

2. ปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำ

แค่การไม่ดื่มน้ำในตอนเช้าก็อาจส่งผลกระทบไปได้ทั้งวัน เพราะร่างกายของเราจะเสียน้ำแบบที่ไม่รู้ตัวเช่น การหายใจ การเสียเหงื่อทางผิวหนัง

 

อย่าลืมนะว่าร่างกายของเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบถึง 60% ซึ่งช่วยตั้งแต่การปรับสมดุลระบบหมุนเวียนโลหิต ปรับอุณหภูมิในร่างกาย เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับอวัยวะต่าง ๆ ช่วยพาสารอาหารและออกซิเจนไปยังเซลล์ของร่างกาย แถมยังช่วยขับของเสียผ่านการทำงานของตับและไตอีกด้วย

 

ถ้าเรารู้สึกมึนงง อิดโรย และสมองไม่พร้อมทำงาน นั่นเป็นเพราะว่าร่างกายของเราขาดน้ำในตอนเช้าแล้วล่ะ เพียงแค่ดื่มน้ำทันทีหลังจากตื่นนอนร่างกายก็จะตื่นตัว และรู้สึกกระปรี้กระเปร่าแล้ว

 

3. ไม่รองท้องก่อนออกกำลังกาย

การออกกำลังกายในตอนเช้าเป็นสิ่งดีที่ควรทำ แต่ถ้าเราไม่รองท้องก่อนออกกำลังกาย นอกจากจะไม่ได้เผาผลาญไขมันอย่างที่ตั้งใจแล้ว ร่างกายของเราจะดึงพลังงานจากกล้ามเนื้อมาใช้แทนอีกต่างหาก ผลก็คือสมองและร่างกายของเราจะเหนื่อยล้าเพราะไม่มีพลังงานเพียงพอสำหรับการดึงไปใช้

 

วิธีง่าย ๆ ก็คือพยายามหาอะไรรองท้องโดยเฉพาะกลุ่มโปรตีนและคาร์โบไฮเดรต ไม่ว่าจะเป็น ไข่ต้มสักฟองหรือขนมปังสักแผ่นก็ได้เช่นกัน และถ้าออกกำลังกายเสร็จแล้วก็ควรรีบเติมพลังด้วยมื้อเช้าเพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟูพลังงานที่เสียไป

 

4. ไม่กินอาหารเช้า

ไม่ว่าจะตั้งใจข้ามมื้อเช้าหรือลืมก็ตาม การไม่กินอาหารเช้าที่เป็นมื้อแรกของวันจะทำให้ร่างกายทำงานได้ไม่เต็มที่ ขาดสารอาหาร เกิดความเครียดและอาจส่งผลกระทบต่ออารมณ์ 

 

เคล็ดลับของการกินอาหารเช้าก็คือ พยายามเลือกกินให้ได้สารอาหารประเภทโปรตีนอย่างเนื้อสัตว์และถั่วชนิดต่าง ๆ เสริมไปกับอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต เช่น ข้าว กล้วยหอม หรือขนมปัง เพราะโปรตีนจะช่วยให้เราไม่หิวง่ายระหว่างมื้อ ทำให้ไม่ต้องกินจุบจิบ ถ้าเรากินได้ครบทั้ง 3 มื้อในแต่ละวันก็จะส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวมด้วย

 

5. หงุดหงิดกับการเดินทาง

ต้องยอมรับว่าสภาพการจราจรที่ติดขัดทุกเช้าและเย็น ไม่ว่าเราจะขับรถไปทำงานหรือโหนรถเมล์ ก็คงมีอารมณ์หงุดหงิดกันบ้าง เหตุการณ์เหล่านี้ส่งผลโดยตรงกับสุขภาพด้านต่าง ๆ ของเราทั้งอาการเหนื่อยล้า ไม่มีสมาธิ และความเครียดสะสม

 

งานวิจัยกรณีศึกษาในประเทศสวีเดนพบว่า การเดินทางที่ใช้เวลานานในตอนเช้าก่อให้เกิดความเครียด ที่กระทบความสุขในการทำงานของเราได้ทั้งวัน พูดง่าย ๆ ก็คือ ถ้าไม่ต้องเจอเรื่องหัวเสียในตอนเช้าแล้วล่ะก็ เราจะสามารถเต็มงานได้เต็มที่มากขึ้นนั่นเอง

 

วิธีแก้ง่าย ๆ คือ ลองตื่นนอนให้เร็วขึ้น ออกจากบ้านให้เร็วขึ้น วางแผนเส้นทางให้ดีก่อนนอน หรือถ้าออกมาแล้วยังเจอรถติด ลองหาเพลงเบา ๆ สบาย ๆ ฟังเพื่อช่วยให้อารมณ์ดีขึ้นก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียว

 

JobThai มี Line แล้วนะคะ

ติดตามสาระความรู้สำหรับคนทำงาน ที่ย่อยง่าย อ่านสนุก และพูดคุยทุกแง่มุมเกี่ยวกับการทำงานอย่างใกล้ชิดที่

เพิ่มเพื่อน


ที่มา:

menshealth.com
organicbook.com
mensfitness.com

tags : ไลฟ์สไตล์, work life balance, ทำงาน, สุขภาพ, คนทำงาน, เคล็ดลับสำหรับคนทำงาน, เทคนิคสำหรับคนทำงาน, ทำงานอย่างมีความสุข, ความสุขในการทำงาน, เคล็ดลับความสำเร็จ, เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ, ทำงานให้มีความสุข, แนวคิดในการทำงาน



ติดตามข่าวสารและเรื่องราวดีๆ ทาง Email

ขอบคุณสำหรับการติดตาม