-
การอ่านหนังสือจะเป็นการกระตุ้นการทำงานของสมอง ช่วยพัฒนาเรื่องการจำ รวมถึงชะลอและป้องกันการเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้
-
ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียดต่าง ๆ ที่กำลังเผชิญ และช่วยให้มีสมาธิจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ดีขึ้น
-
ได้รับความรู้จากเนื้อหา การมีความรู้ติดตัว แม้ว่ายังไม่ได้ใช้ในตอนนี้แต่ยังไงก็ต้องเป็นประโยชน์ในอนาคต
-
มีทักษะในการสื่อสารที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันทั่วไป
-
ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และสามารถสร้างสมาธิมากขึ้นเพียงแค่อ่านหนังสือในช่วงเช้าสัก 15-20 นาที
|
|
JobThai Mobile Application หางานง่าย ได้งานที่ใช่ โหลดเลย!
|
|
เราทุกคนต่างรู้กันอยู่แล้วว่า “หนังสือ” ให้ประโยชน์กับเราได้อย่างมากมาย ทั้งความรู้ สมาธิ รวมทั้งยังช่วยให้เราได้พักจากเรื่องต่าง ๆ บนโลกออนไลน์ แต่บางครั้งการอ่านหนังสือนั้นต้องใช้เวลาและสมาธิค่อนข้างมาก หลายคนจึงเลือกไปทำอย่างอื่นแทน ทำให้การหยิบหนังสือมาอ่านกลายเป็นตัวเลือกสุดท้าย ทั้ง ๆ ที่ประโยชน์ของการอ่านหนังสือมีมากมาย
วันนี้ JobThai เลยได้รวบรวมประโยชน์ต่าง ๆ ที่ได้จากการอ่านหนังสือ เพื่อย้ำให้ทุกคนเห็นว่าการอ่านหนังสือนั้นสำคัญแค่ไหน และอาจทำให้คุณต้องหันมาเลือกหยิบหนังสือสักเล่มขึ้นมาอ่าน
1. ช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง
สมองของมนุษย์ก็เหมือนมวลกล้ามเนื้อที่ต้องการการขยับ การออกกำลังกาย เพื่อให้แข็งแรงขึ้น ซึ่งการอ่านหนังสือก็เหมือนเป็นการออกกำลังสมอง ที่ทำให้สมองของเราได้คิดและได้ทำงานตลอดเวลา และจากการศึกษาพบว่า การกระตุ้นการทำงานของสมอง (Mental Stimulation) อย่างสม่ำเสมอจะช่วยชะลอและป้องกันการเป็นโรคอัลไซเมอร์ นอกจากนี้ก็ยังเป็นการช่วยพัฒนาความจำได้อีกด้วย ยิ่งอ่านหนังสือมาก สมองที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการจดจำก็จะได้ทำงานมาก
2. ความเครียดลดลงและจิตใจสงบมากขึ้น
ความเครียดเกิดขึ้นเมื่อเราจมอยู่กับเรื่องเรื่องหนึ่งที่คิดไม่ตกและยังไม่สามารถหาวิธีแก้ได้ แต่การอ่านหนังสือที่ต้องใช้สมาธิในระดับหนึ่ง ความเครียดจากงานหรือปัญหาที่เราเจอมาจะถูกลืมไปทันที เพราะการอ่านนิยายสนุก ๆ บทความดี ๆ จะทำให้เราจดจ่ออยู่กับเวลาในขณะนั้นและลืมความกังวลต่าง ๆ ไป นอกจากนี้เราอาจได้แง่คิดหรือทัศนคติดี ๆ ผ่านการอ่านเรื่องราวต่าง ๆ ที่ทำให้เราได้เปลี่ยนมุมมองต่อปัญหาที่เราเผชิญอยู่ก็ได้
3. ได้รับความรู้
แน่นอนอยู่แล้วว่าเมื่อเราอ่านหนังสือเราต้องได้ความรู้กลับมา และการมีความรู้ติดตัว แม้ว่ายังไม่ได้ใช้ในตอนนี้แต่ยังไงก็ต้องเป็นประโยชน์ในอนาคตแน่ ๆ ซึ่งเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าจะต้องนำความรู้เหล่านั้นออกมาใช้เมื่อไหร่ แต่ยิ่งมีความรู้มากแค่ไหน ก็จะยิ่งทำให้เราได้เปรียบมากขึ้น เมื่อต้องเผชิญกับปัญหาและความท้าทายต่าง ๆ นอกจากนี้สิ่งของหรือเงินทองอาจถูกขโมยไปได้ แต่ความรู้เป็นสิ่งที่ไม่มีใครสามารถเอาไปจากเราได้อย่างแน่นอน
4. มีคลังคำศัพท์ที่มากขึ้น มีทักษะการสื่อสารที่ดีขึ้น
ทักษะในการสื่อสารเป็นเรื่องที่ทุกวัยควรมีอยู่แล้ว ทั้งนักศึกษาที่ต้องใช้ทักษะการเขียนในการทำวิทยานิพนธ์ คนหางานที่ต้องใช้ทักษะการพูดเวลาสัมภาษณ์งาน หรือทำงานที่ต้องใช้การสื่อสารเวลาพรีเซนต์งาน ขายงาน ไปจนถึงการติดต่อทั้งภายในและภายนอกองค์กร ซึ่งถ้าเราอ่านหนังสือมากเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งมีคลังคำศัพท์เพิ่มมากเท่านั้น และคำศัพท์มากมายเหล่านั้น จะทำให้เราสามารถสื่อสารได้อย่างมืออาชีพมากขึ้น นอกจากนี้การอ่านหนังสือภาษาต่างประเทศก็จะช่วยในการเรียนรู้ภาษาใหม่ ๆ ได้ดี และจะทำให้การพูดและการเขียนของเราคล่องขึ้น
5. มีสมาธิจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้มากขึ้น
โลกออนไลน์เข้ามามีอิทธิพลต่อชีวิตประจำวันของเราทุกคนมากขึ้น จนอาจกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเราโดยที่เราไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ มีเรื่องต่าง ๆ มากมายที่ดึงดูดความสนใจของเราพร้อมกันในเวลาเดียว หลายคนสามารถทำงาน เช็กอีเมล แชทกับเพื่อน อ่านสเตตัส และดูโทรศัพท์มือถือ ได้ภายในเวลาเพียงแค่ 5 นาที ซึ่งการทำแบบนี้จะทำให้สมาธิและประสิทธิภาพในการทำงานของเราลดลง แต่ถ้าเราได้ลองหันมาอ่านหนังสือ เราก็จะให้ความสนใจและโฟกัสไปที่เรื่องราวในหนังสือเพียงอย่างเดียว ก่อนเริ่มทำงาน ลองหาเวลาอ่านหนังสือ สัก 15–20 นาที แล้วจะพบว่ามันสามารถช่วยให้เรามีสมาธิมากขึ้นเมื่อถึงเวลาทำงาน
นอกจากนี้อีกหนึ่งประโยชน์ที่เราจะได้รับจากการอ่านหนังสือก็คือ “ความบันเทิง” ผ่านเรื่องราว และเนื้อหาต่าง ๆ ในหนังสือแต่ละเล่ม ซึ่งในปัจจุบันหากเราไม่สะดวกในการไปห้องสมุดหรือร้านขายหนังสือตามที่ต่าง ๆ เราก็ยังสามารถอ่านหนังสือผ่านทางอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ อย่าง Tablet, Smartphone หรือ Kindle ที่เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับอ่านหนังสือโดยเฉพาะ เพราะทุกวันนี้หนังสือหลายเล่มมีการทำออกมาในรูปแบบของ e-book หรือ PDF ที่สามารถดาวน์โหลดได้ฟรี
JobThai Official Group เพื่อการหางาน หาคน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำงาน
บทความเดิมได้ถูกเผยแพร่ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2016 และได้รับการอัปเดตโดยทีมงาน JobThai