“มาดูรูปวันรับปริญญากันค่ะ”
หญิงสาวที่เพิ่งจะเป็นบัณฑิตหมาด ๆ ตะโกนบอกคนในบ้านอย่างตื่นเต้นทันทีที่เห็นว่าช่างภาพที่เธอว่าจ้างให้มาถ่ายรูปในวันรับปริญญาเมื่อเดือนก่อน ได้ส่งลิงก์ที่เก็บรวบรวมไฟล์รูปในวันรับปริญญามาให้แล้ว
การสำเร็จการศึกษาเปรียบเสมือนการที่เราจะได้ก้าวสู่บทบาทใหม่ในชีวิต บางคนอาจจะก้าวไปในหนทางที่สวยงามแต่อีกหลาย ๆ คนก็อาจจะพลัดหลงไปในหนทางที่ยากเข็ญ ช่วงเวลานี้จึงถือเป็นช่วงสำคัญที่อาจส่งผลถึงทั้งชีวิต หลาย ๆ มหาวิทยาลัยจึงมีการเชิญบุคคลที่ประสบความสำเร็จมาถ่ายทอดประสบการณ์ชีวิต รวมถึงข้อคิดสำคัญที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับบัณฑิต JobThai จึงได้นำสุนทรพจน์ของ 4 คนดังที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับชีวิต และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริงทั้งนักศึกษาจบใหม่และคนทำงาน
- สตีฟ จ็อบส์: กล้าที่จะทำในสิ่งที่เรารักและต้องการจะทำจริง ๆ อย่าพยายามเป็นคนอื่น และอย่าปล่อยให้ความคิดของคนอื่นมามีอิทธิพลเหนือความต้องการของเรา
- อาโนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์: อย่ากลัวความล้มเหลว หาเป้าหมายให้เจอ เชื่อมั่นในตนเองและทำมันให้เต็มที่
- ไมเคิล เดลล์: อย่ามัวแต่รอเวลาที่ทุกอย่างพร้อม เพราะมันอาจจะทำให้พลาดโอกาสที่สำคัญไป ความล้มเหลวเป็นสิ่งที่ต้องเจอ จงเรียนรู้จากมัน
- เจ เค โรว์ลิ่ง: อย่าใช้ชีวิตในแบบที่ต้องคอยระแวดระวังทุกอย่าง เนื่องจากกลัวความล้มเหลว เพราะการใช้ชีวิตแบบนั้น ก็คือการล้มเหลวโดยอัตโนมัตินั่นเอง
|
|
สตีฟ จ็อบส์: มหาวิทยาลัยแสตนฟอร์ด
สตีฟ ได้กล่าวถึงเหตุการ์สำคัญที่เป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตทั้งหมด 3 เรื่อง ตั้งแต่เรื่องการออกจากมหาวิทยาลัยเนื่องจากค่าเทอมที่แพงที่เกินไป เรื่องที่สองคือเรื่องที่เขาถูกไล่ออกโดยผู้บริหารที่เขาแต่งตั้งขึ้นมาเอง และเรื่องสุดท้ายคือการตรวจเจอมะเร็งระยะสุดท้ายที่หมอวินิจฉัยว่าเขาจะอยู่ได้เพียง 3-6 เดือน ซึ่งทุกเหตุการณ์ล้วนก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่สำคัญในชีวิต แต่สิ่งที่เขาพยายามเน้นย้ำมากที่สุดในสุนทรพจน์ครั้งนี้คือ ความศรัทธาในสิ่งที่รักและทำมันอย่างเต็มที่
“เวลาของเราทุกคนมีจำกัด อย่ามัวเสียเวลาอยู่กับการพยายามที่จะเป็นคนอื่น หรือติดกับดักความคิดสวยหรูที่คนพูดกัน อย่าปล่อยให้ความคิดเห็นของคนอื่นมีอิทธิพลเหนือความต้องการที่แท้จริงของตัวเราเอง และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ความกล้าหาญที่จะทำตามสัญชาตญาณ และเสียงหัวใจของตัวเอง เพราะว่าจริง ๆ ในใจเรารู้อยู่แล้วว่าเราต้องการจะทำอะไร เรื่องอื่น ๆ ถือเป็นเรื่องรอง”
อาโนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์: มหาวิทยาลัยเอมโมรี
นักเพาะกาย นักแสดง และนักการเมือง คือ 3 บทบาทสำคัญที่เขาได้แสดงในชีวิตจริง อาโนลด์เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าคนเราสามารถก้าวข้ามขีดจำกัดหลายอย่างในชีวิต ด้วยการยึดมั่นในเป้าหมาย และทำสุดความสามารถโดยไม่หวั่นต่อคำสบประมาท สังเกตได้จากการเปลี่ยนบทบาทจากนักเพาะกายที่ได้แชมป์มานับไม่ถ้วน มาเป็นนักแสดงที่สร้างความจดจำให้คนบนโลกในบทของคนเหล็ก และท้ายสุดก้าวสู่สนามการเมืองและเป็นผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย
“ทุกที่ที่ไปจะต้องพบเจอกับคนที่คอยสบประมาทเราอยู่ตลอดเวลา อย่าไปฟังพวกเขา สิ่งสำคัญคือคุณต้องรู้ว่าเป้าหมาย และสิ่งที่คุณต้องการคืออะไร เชื่อมั่นในตนเอง และออกไปทำมันให้เต็มที่ แหกบางกฎเกณฑ์และอย่ากลัวที่จะล้มเหลว”
ไมเคิล เดลล์: มหาวิทยาลัยเท็กซัสออสติน
อดีตนักศึกษาชีววิทยาที่ก้าวออกจากเส้นทางที่ครอบครัวคาดหวัง สู่การเป็นผู้ก่อตั้ง Dell Inc. บริษัทคอมพิวเตอร์ชื่อดังก้องโลก เขาเป็นอีกคนหนึ่งที่ค้นพบสิ่งที่รักตั้งแต่อายุน้อย จุดเปลี่ยนที่สำคัญเกิดขึ้นเมื่อเขาเริ่มสังเกตว่าชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์มีมากเกินไปแล้วในหอพักขณะที่กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยเท็กซัส และนั่นคือสิ่งที่บ่งบอกว่าเขาอาจจะไม่ได้อยู่ในสถานที่ที่เหมาะกับตัวเขา ถัดมาไม่นานเขาจึงลาออกและเดินหน้าทำในสิ่งที่รักอย่างจริงจัง
“นี่คือเวลาที่พวกคุณจะได้ก้าวออกไปข้างหน้าสู่การผจญภัยครั้งใหม่ อย่าปล่อยให้ใครมาหยุดยั้งหรือสร้างความลังเลใจให้กับคุณ อย่ามัวแต่ใช้เวลาเพื่อเฝ้ารอโอกาสที่สมบูรณ์แบบ เพราะมันอาจทำให้พลาดโอกาสสำคัญในชีวิต จำไว้ว่าเราจะต้องพบกับความล้มเหลว แต่มันก็เป็นแค่อุปสรรคที่เราต้องเจอ เรียนรู้จากมันเพราะนั่นคือการเรียนรู้สู่ความสำเร็จในชีวิต”
เจ เค โรว์ลิ่ง: มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
นักเขียนชาวอังกฤษซึ่งโด่งดังจากการเขียนวรรณกรรมเยาวชนเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ รวมถึงชีวิตที่ยากลำบากในอดีตของเธอที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนอีกมากมาย เธอได้เล่าถึงจุดต่ำสุดของชีวิตเมื่อตอนอายุ 27 ที่ประสบปัญหาครอบครัว J.K. Rowling ต้องหย่าร้างกับสามีและต้องเลี้ยงลูกสาวด้วยตนเองภายใต้สถานะทางการเงินที่ตกต่ำถึงขนาดต้องขอเงินสงเคราะห์จากรัฐบาล ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นยังส่งผลให้เธอกลายเป็นโรคซึมเศร้าอีกด้วย แต่ท้ายสุดเมื่อชีวิตได้เดินมาถึงจุดต่ำสุดและสูญสิ้นทุกอย่างจนเหลือเพียงแค่ 2 สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตซึ่งได้แก่ ลูกสาว และงานเขียนเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ เธอจึงต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อรักษา 2 สิ่งสุดท้ายไว้ให้ดีที่สุด ซึ่งในสุนทรพจน์เธอพยายามชี้ให้เห็นว่าความล้มเหลวเหล่านั้นเป็นแรงกระตุ้นสำคัญที่ทำให้เธอประสบความสำเร็จ
“คุณอาจไม่เคยประสบความล้มเหลวในระดับที่ฉันเคย แต่ความล้มเหลวในชีวิตเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะไม่เคยทำผิดพลาด เว้นเสียแต่ว่าคุณจะใช้ชีวิตอย่างระแวดระวังจนเกินไป ซึ่งการใช้ชีวิตแบบนั้นก็ไม่ได้แตกต่างจากการล้มเหลวโดยอัตโนมัติเลย”
สุนทรพจน์วันจบการศึกษาจากคนดังที่สร้างแรงบันดาลใจ (2)
JobThai มี Line แล้วนะคะ
ติดตามสาระความรู้สำหรับคนทำงาน ที่ย่อยง่าย อ่านสนุก และพูดคุยทุกแง่มุมเกี่ยวกับการทำงานอย่างใกล้ชิดที่
ที่มา:
personalexcellence.co