กิจกรรมนอกเวลางาน ที่ช่วยให้คุณก้าวหน้าในการทำงานได้อย่างไม่น่าเชื่อ

30/10/20   |   17.6k   |  

 

  • การอ่านหนังสือ และติดตามข่าวสารจากช่องทางต่าง ๆ จะช่วยให้เราได้รับความรู้ใหม่ ๆ และเป็นคนที่มีความรู้รอบด้าน จากการศึกษาเรื่องราวที่คนอื่น ๆ ถ่ายทอดมา ซึ่งอาจะทำให้สามารถนำความรู้เหล่านั้นไปต่อยอดให้กับการทำงานของตัวเองได้

  • การเล่นเกม ทำให้มีทักษะหลายอย่างที่จำเป็น หรือนำไปประยุกต์ใช้ในการทำงานได้ ไม่ว่าจะเป็น ทักษะการปรับตัว การบริหารจัดการและการวางแผน การทำงานเป็นทีม การแก้ปัญหา และการคิดแบบสร้างสรรค์ ซึ่งสามารถเรียนรู้ทักษะเหล่านี้ได้จากเกมประเภทต่าง ๆ ที่เราเล่น

  • การเล่นกีฬา นอกจากจะทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังเป็นการฝึกความอดทนทั้งทางร่างกาย และจิตใจไปพร้อม ๆ กันอีกด้วย ซึ่งไม่ต่างอะไรกับการทำงานที่จะต้องใช้ทั้งทักษะความสามารถ ความมุ่งมั่นตั้งใจ และความอดทนเมื่อต้องทำงาน หรือเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ

  • การดูหนัง ฟังเพลง ที่ไม่ใช่สัญชาติไทยจะทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องภาษาได้ไม่ต่างจากการลงคอร์สเรียนภาษา ไม่ว่าจะเป็นการฟัง การอ่าน หรือแม้แต่การพูด ที่สำคัญอาจทำให้เราเรียนรู้ประโยคที่เจ้าของภาษาใช้ในชีวิตประจำวันจริง ๆ รวมไปถึงคำสแลง หรือรูปแบบประโยคที่ไม่ค่อยได้เห็นกันในห้องเรียนอีกด้วย

  • การปาร์ตี้สังสรรค์ จะทำให้เราได้ทำความรู้จักกับคนหลากหลาย รวมไปถึงได้ฝึกฝนทักษะบางอย่างเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น การสื่อสาร หรือวางตัว แม้กระทั่งได้เปิดโลกทัศน์ ผ่านการแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็นกับคนอื่น ๆ

 

 

JobThai Mobile Application หางานง่าย ได้งานที่ใช่ โหลดเลย!

iOS

Android

Huawei AppGallery

 

แม้หลายคนอาจมองว่าการทำกิจกรรมหรือกิจวัตรประจำวันบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการเล่นกีฬา การอ่านหนังสือ เล่นเกม หรือกระทั่งการปาร์ตี้สังสรรค์ ไม่ใช่สิ่งสำคัญหรือส่งเสริมการทำงาน เพราะไม่เกี่ยวข้องกับอาชีพที่เรากำลังทำอยู่โดยตรง แต่จริง ๆ แล้วกิจกรรมเหล่านี้ล้วนเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาทักษะการทำงานและการดำรงชีวิตประจำวันของเราได้ทั้งนั้น ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ยังเป็นสิ่งที่บ่งบอกความเป็นตัวเองของเราได้อย่างดีอีกด้วย

 

แล้วกิจกรรมต่าง ๆ ที่ว่ามา มีส่วนช่วยในการพัฒนาทักษะของเราทางด้านไหนบ้าง JobThai ก็จะมาไขข้อสงสัยของ 5 กิจกรรมนอกเวลางาน ที่ช่วยให้เราก้าวหน้าในการทำงานได้อย่างไม่น่าเชื่อ

 

5 กิจกรรมนอกห้องเรียนที่เพิ่มโอกาสให้นักศึกษาจบใหม่ได้งานทำ

 

1. ความรู้รอบตัวจากการอ่าน

หลายคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่าการอ่านหนังสือมีประโยชน์แค่ไหน ซึ่งการพัฒนาตัวเองด้วยการหมั่นหาความรู้ผ่านการอ่านหนังสือ จะทำให้เราได้เรียนรู้และศึกษาผ่านประสบการณ์คนอื่น โดยที่เราไม่ต้องไปเสี่ยงลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง และที่สำคัญเราสามารถต่อยอดความรู้นั้น ๆ ได้เพียงแค่พลิกหน้ากระดาษหรือเลื่อนหน้าจอ จริงอยู่ที่การอ่านอาจไม่เพียงพอสำหรับการทำงานจริง เพราะเราต้องลงมือปฏิบัติและใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์จึงจะเห็นผล แต่หนังสือที่ดีจะเป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดประสบการณ์การทำงานของผู้เชี่ยวชาญที่เคยผ่านงานนั้นมาก่อน ที่สำคัญพวกเขามักจะเล่าเรื่องราว ทั้งสิ่งที่ดีและข้อผิดพลาดที่พวกเขาเคยทำในอดีตตอนยังไม่มีประสบการณ์มากนัก ซึ่งตรงนี้เองเราสามารถใช้ประสบการณ์ของพวกเขาเป็นบทเรียน เพื่อก้าวไปสู่จุดหมายปลายทางแห่งการทำงานได้

 

นอกจากนี้การติดตามข่าวสารใหม่ ๆ จากโซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ นิตยสาร หรือแม้แต่หนังสือการ์ตูน ในบางครั้งมีเดียเหล่านี้ก็ให้ข้อมูลและความรู้แก่เราได้เช่นกัน แต่เราต้องฝึกคิดไตร่ตรองและนำมาต่อยอดด้วย ยิ่งปัจจุบันที่เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทต่อชีวิตประจำวันมากขึ้น การใช้ความรอบรู้ตัวประกอบกับการวิเคราะห์ จะทำให้เราคาดการณ์ล่วงหน้าและทำให้พร้อมรับโอกาสดี ๆ ที่จะเข้ามาในชีวิตได้มากขึ้น

 

2. “เล่นเกม” ไม่ใช่แค่เรื่องเล่น ๆ

การเล่นเกม นอกจากความบันเทิงที่เราได้รับจากเกมแล้ว ยังเป็นการฝึกสมาธิและทักษะในหลาย ๆ ด้านอีกด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้โดยที่บางครั้งเราไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ อย่างการฝึกทักษะการโต้ตอบแบบทันท่วงทีผ่านเกมขับรถ เกมยิงปืน หรือเกมกีฬาที่ต้องแข่งขันกับผู้เล่นอื่น หรือเกมแนว Strategy ที่ต้องใช้เวลาและประสบการณ์ในการวางกลยุทธ์ เราก็จะได้ทักษะการคิดวิเคราะห์ผ่านเกมแนวนี้เช่นกัน และเมื่อตัวเกมมีความยากมากขึ้นก็ทำให้ผู้เล่นต้องอาศัยทักษะในการเล่นเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย การที่เราสามารถเล่นเกม ๆ หนึ่งได้แสดงว่าเรามีทักษะบางอย่างที่จำเป็น มาดูกันว่าทักษะที่ว่านั้นมีอะไรบ้าง

 

  • ทักษะการปรับตัว การบริหารจัดการและการวางแผน มีให้เห็นอย่างชัดเจนในเกมแนวบริหารอย่าง Football Manger ที่เราต้องบริหารทีมฟุตบอลซึ่งเราจะได้ทั้งการบริหารเงิน (งบประมาณการทำทีม) และบริหารคน (จัดนักเตะลงแข่งให้เหมาะสม) หรือเกมวางแผนการรบ เช่น Total War หรือ Warcraft ที่ต้องอาศัยไหวพริบในการรบเอาชนะคู่แข่ง โดยเราต้องพิจารณาทรัพยากร กำลังทหารของตัวเราและคู่แข่งเพื่อประเมินสถานการณ์ในแต่ละครั้ง

  • ทักษะการทำงานเป็นทีม ได้จากเกมแนวสวมบทบาท (Role-Playing Game) เช่น Final Fantasy เกมยิงปืนอย่าง Call of Duty หรือเกมกีฬาประเภททีม เช่น Fifa ที่เป็นเกมฟุตบอล ซึ่งผู้เล่นแต่ละคนจะได้รับบทบาทและหน้าที่แตกต่างกันไป แต่ทุกคนต้องช่วยเหลือ ประสานงานกัน โดยมีจุดมุ่งหมายสูงสุดคือชัยชนะของทีม 

  • ทักษะการแก้ปัญหา และการคิดแบบสร้างสรรค์ พบได้ในเกมแก้ปริศนา เช่น เกม Portal ที่ต้องหาวิธีออกจากห้องปิดตายให้ได้โดยมีอุปกรณ์ที่จำกัด เกมตะลุยด่านอย่าง Angry Birds ที่ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อจะได้เล่นในด่านต่อไป หรือเกมแนวจำลอง เช่น The Sims หรือ Minecraft ที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้สร้างสรรค์กฎเกณฑ์ในสังคมเสมือนจริง และสิ่งก่อสร้างตึกรามบ้านช่องได้ตามใจปรารถนา

 

สิ่งสำคัญที่มักจะปรากฏในเกมแทบทุกประเภทคือ ระบบของเกมจะมีปัญหาให้ผู้เล่นได้หาวิธีแก้ โดยมีเงื่อนไขอยู่ว่าต้องทำตามเป้าหมายให้สำเร็จถึงจะผ่านไปเล่นในด่านถัดไปได้ เมื่อผ่านด่านหนึ่งไปได้ก็จะมีปัญหาที่ยากยิ่งกว่าเดิมรออยู่ ซึ่งก็ไม่ต่างจากโลกแห่งความเป็นจริงของคนทำงานเลย

 

3. เล่นกีฬาได้ทั้งกำลังกายและกำลังใจ

กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศษ เพราะกีฬานั้นทำให้เราได้บริหารระบบต่าง ๆ ในร่างกายได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นระบบการไหลเวียนของเลือด การหายใจ ระบบชีพจร และพัฒนากล้ามเนื้อ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้เรารู้สึกกระปรี้กระเปร่าต่อกิจกรรมที่เราต้องเผชิญตลอดวัน และพร้อมสำหรับการทำงาน ในขณะเดียวกันการออกกำลังกายก็มีส่วนช่วยในการพัฒนาสมองอีกด้วย นอกจากนี้กีฬาหลายประเภทที่เป็นการฝึกความอดทน เช่น การวิ่งมาราธอน นอกจากจะเป็นการฝึกฝนเพื่อให้บรรลุข้อกำจัดทางร่างกายแล้ว ยังเป็นการฝึกความอดทนของจิตใจไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งความอดทนนั้นก็เป็นทักษะอย่างหนึ่งที่จำเป็นต่อการทำงาน

 

สำหรับนักกีฬาอาชีพ นอกจากทักษะและความพร้อมทางร่างกายแล้ว พวกเขาต้องอาศัยกำลังใจในการฝ่าฟันผ่านอุปสรรค ซึ่งอาจเป็นทั้งการซ้อมสุดหิน การทลายขีดจำกัดความสามารถของตนเอง การทำสถิติ เพื่อให้ผ่านเกณฑ์การคัดเลือก หรือเพื่อเป้าหมายสุดท้ายซึ่งก็คือชัยชนะในเกมการแข่งขัน  การทำงานของเราก็เช่นกัน เราต้องหลอมรวมทักษะความสามารถ ทั้งทางร่างกายและจิตใจในการเผชิญกับปัญหาในที่ทำงาน รวมถึงความอดทน ความมุ่งมั่น ในการทำงาน เพื่อมุ่งไปสู่ความสำเร็จในสายอาชีพของเราในที่สุด

 

10 สถานที่วิ่งเพื่อสุขภาพ สำหรับคนทำงานเมืองกรุง

 

4. เรียนภาษาจากดูหนัง ฟังเพลง

การฝึกภาษาผ่านการชมภาพยนตร์หรือการฟังเพลงเป็นกิจกรรมที่หลาย ๆ คนทำเป็นปกติอยู่แล้ว ซึ่งแต่ละปีหลายคนก็ใช้เวลาไปกับการชมภาพยนตร์และฟังเพลงปีละหลายชั่วโมง เราสามารถพัฒนาศักยภาพด้านภาษาผ่านการชมภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด ฟังเพลงสากลติดอันดับบิลบอร์ด หรือเล่นวิดีโอเกมภาษาญี่ปุ่นได้เช่นเดียวกับการเข้าคอร์สเรียนภาษาแบบเดิม ๆ และเคล็ดลับที่จะทำให้การฝึกภาษาของเรามีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นนั่นคือการฟังและหัดออกเสียงประโยคต่าง ๆ ตามไปด้วย

 

  • การชมภาพยนตร์ จะได้ฝึกทักษะการฟังและการพูด เราจะได้เห็นนักแสดงใช้ภาษาในการสื่อสารตามสถานการณ์ต่าง ๆ และสามารถเรียนรู้ทักษะการพูดจากการสังเกตการออกเสียงของนักแสดง

  • การฟังเพลง หากเราสามารถเข้าใจเนื้อหาของเพลงหรือคำแปล เราจะเข้าใจการใช้คำ ประโยค และสำนวนต่าง ๆ ซึ่งการใช้ภาษาในเพลงอาจใช้ไวยากรณ์ที่แตกต่างออกไปในบางครั้ง และมันอาจเป็นการกระตุ้นให้เราต่อยอดในการเรียนรู้ได้อีกทางหนึ่ง

  • การเล่นวิดีโอเกม เพราะเกมส่วนใหญ่ไม่มีเสียงไทยและซับไทยเหมือนกับภาพยนตร์ ซึ่งหากเราอยากเล่นเกมนี้ให้จบ หรือรู้เรื่องราวภายในเกม เราต้องอ่านภาษาอังกฤษ (รวมถึงภาษาญี่ปุ่นและภาษาอื่น ๆ ที่เป็นภาษาแม่ของผู้ผลิตเกมระดับโลก) ให้รู้เรื่อง ซึ่งตรงนี้เองก็จะเป็นการเพิ่มทักษะการอ่านและการทำความเข้าใจภาษาต่างประเทศอีกรูปแบบหนึ่ง

 

หากเราเป็นคนที่ชอบดูหนัง ฟังเพลงเป็นปกติอยู่แล้ว ลองให้ความสนใจกับสื่อบันเทิงให้มากกว่าเรื่องบันเทิงเพียงอย่างเดียว ปรับเปลี่ยนวิธีการรับสื่อบันเทิงให้เป็นไปในเชิงรุกมากขึ้น เพื่อให้ได้ทั้งความสนุกสนานผ่อนคลายจากการดูหนังฟังเพลง และได้ฝึกภาษาอังกฤษที่เป็นทักษะที่จำเป็นต่อการทำงานไปพร้อม ๆ กัน แล้วจะพบว่าการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศไม่ใช่เรื่องยากและน่าเบื่ออีกต่อไป

 

5. ปาร์ตี้สังสรรค์

การปาร์ตี้ไม่ได้เป็นเพียงการกระทำเพื่อความบันเทิงเท่านั้น เพราะถ้าเราใช้การสังสรรค์ให้มีประโยชน์ ปาร์ตี้นี้จะกลายเป็นแหล่งรวมตัวของเครือข่ายที่จะคอยช่วยเหลือเราในอนาคตได้ การเข้าร่วมกิจกรรมสังสรรค์ หรือเข้าสังคมเมื่อมีโอกาสจึงเปรียบเสมือนการเปิดโลกทัศน์ให้กับชีวิตของเรา ซึ่งการเข้าสังคมบ่อย ๆ จะทำให้เราได้พัฒนาทักษะการสื่อสาร ทั้งการฟังและการพูด เพราะการพบปะผู้คนมากหน้าหลายตาในงานปาร์ตี้เป็นสถานการณ์จริงที่บังคับให้เราต้องพูดคุยสื่อสารกับคนอื่น ๆ ไม่ต้องกลัวถ้าเราเป็นคนพูดไม่เก่ง เพราะเมื่อเรามีประสบการณ์ในการพูดคุยกับกลุ่มคนที่หลากหลายมากขึ้น เราจะเรียนรู้วิธีการรับมือกับคนประเภทต่าง ๆ ไปโดยปริยาย เราจะได้รู้จักการวางตัว เพราะคนที่พูดคุยด้วยอาจจะมีภูมิหลัง ฐานะ อายุ ทัศนคติ นิสัยใจคอ หรือแม้แต่ภาษาที่แตกต่างไปจาก โดยเราสามารถนำทักษะดังกล่าวไปประยุกต์ใช้เมื่อต้องติดต่อกับบุคคลหลายกลุ่มในที่ทำงาน

 

สมัครสมาชิกกับ JobThai เพิ่มโอกาสที่ใช่ ไม่ต้องส่งใบสมัคร

 

 
JobThai Official Group เพื่อการหางาน หาคน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำงาน
Public group · 42,947 members
Join Group
 

tags : career & tips, ประโยชน์, ทักษะ, การทำงาน, คนทำงาน, เคล็ดลับสำหรับคนทำงาน, เทคนิคสำหรับคนทำงาน, ทำงานอย่างมีความสุข, ความสุขในการทำงาน, เคล็ดลับความสำเร็จ, เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ, ทำงานให้มีความสุข, แนวคิดในการทำงาน



ติดตามข่าวสารและเรื่องราวดีๆ ทาง Email

ขอบคุณสำหรับการติดตาม