“ชลิต คุณช่วยออกไปส่งของให้ลูกค้าหน่อยสิ”

“ได้เลยครับ” ชลิตตอบรับด้วยความเต็มใจ การขับรถออกไปส่งของให้ลูกค้าในอากาศร้อน ๆ กลายเป็นงานที่ไม่มีพนักงานคนไหนอยากทำ แต่สำหรับชลิตแล้วกลับตรงกันข้าม

เขาชอบที่จะออกไปคุยกับลูกค้า เพราะมันทำให้เขาได้รู้ถึงช่องทางการขาย รวมถึงความต้องการของลูกค้าด้วย ที่สำคัญมันคือการสั่งสมคอนเนคชั่นสำหรับเขา เผื่อว่าวันข้างหน้าเขาอาจจะได้เป็นหัวหน้า หรือ ก็อาจจะเป็นเจ้าของกิจการไปเลย

สำหรับมหาเศรษฐีระดับโลกอย่าง Warren Buffett ก็เช่นกัน ก่อนที่จะร่ำรวยแบบทุกวันนี้ เขาก็เคยผ่านมาหลายอาชีพBuffett เล่าว่าตอนเขาอายุ 6 ขวบ เขาก็เริ่มคิดที่จะขายของแล้ว เขาเริ่มต้นจากสิ่งเล็ก ๆ อย่างการซื้อน้ำอัดลม นิตยสาร และหมากฝรั่งมาในราคาถูกและขายออกไปในราคาที่มากกว่าต้นทุน ซึ่งทำให้เด็กตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งได้กำไรจากการค้าขายเป็นครั้งแรกของชีวิต

เรามาดูกันว่า เขาเคยฉายแววนักธุรกิจจากทำงานอะไรอีกบ้าง และอาชีพต่อไปนี้อาจทำให้ใครหลายคน เปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับการทำงานใหม่ว่า ถ้ารู้จักแสวงหาโอกาส ไม่ว่างานจะเล็กแค่ไหน ก็มีคุณค่าและเป็นส่วนหนี่งของความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในอนาคตได้เหมือนกัน

เขาเคยเป็นเด็กส่งหนังสือพิมพ์

สมัยที่ Buffett เป็นวัยรุ่น หลังจากที่พ่อของเขาได้รับเลือกตั้งให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐอเมริกา เขาและครอบครัวต้องย้ายจากเมืองโอมาฮาเข้าไปอยู่ในกรุงวอชิงตัน ดีซี ที่นั่นเองที่เขาได้เริ่มทำงานหาเงินด้วยการรับจ้างส่งหนังสือพิมพ์ แต่แค่การส่งหนังสือพิมพ์เพียงอย่างเดียว เขาก็สามารถสร้างรายได้เดือนละมากกว่า 175 ดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าผู้ใหญ่บางคนเสียอีก นอกจากนี้เขายังต่อยอดด้วยการขายปฏิทินให้กับลูกค้าที่รับหนังสือพิมพ์จากเขา ซึ่งทำให้เขาได้เงินพิเศษเพิ่มขึ้นอีกจำนวนหนึ่ง

ขายลูกกอล์ฟมือสอง

ครั้งแรกที่เขาขายลูกกอล์ฟมือสองซึ่งมีราคาถูก คนในครอบครัวและเพื่อน ๆ ของเขาคิดว่าเขาไปงมลูกกอล์ฟที่ตกน้ำมาจากสนามกอล์ฟ แต่ความจริงแล้ว Buffett สั่งซื้อลูกกอล์ฟมือสองมาในราคาโหลละ 3 ดอลลาร์ กับอีก 50 เซ็นต์ จากร้านขายของมือสองในเมืองชิคาโก ซึ่งเขาบังเอิญไปเจอลูกกอล์ฟที่มีคุณภาพเหมือนใหม่ และเขาก็ทำกำไรด้วยการขายลูกกอล์ฟเหล่านั้นไปในราคาถึง โหลละ 6 ดอลลาร์ เกือบสองเท่าของราคาที่เขาซื้อมา

ขายแสตมป์หายาก

เขารู้จักหาช่องทางในการเพิ่มรายได้ให้กับตัวเอง ด้วยการนำแสตมป์ที่หายาก ซึ่งมีขายเฉพาะบางรัฐไปขายให้กับนักสะสมแสตมป์ให้รัฐอื่น ซึ่งธุรกิจขายแสตมป์ของเขาทำให้บรรดานักสะสมทั่วประเทศ ได้มีโอกาสจับจองเป็นเจ้าของแสตมป์ได้ง่ายกว่าเดิม ไม่ต้องตามหาเองให้ลำบากอีกต่อไป

ขัดเคลือบสีรถยนต์

Buffett ได้ร่วมหุ้นกับ Lou Battistone เพื่อนของเขาเพื่อเปิดธุรกิจรับขัดและเคลือบสีรถยนต์ โดยใช้ชื่อว่า Showroom Shine โดยใช้ที่จอดรถมือสองของพ่อของ Battistone เป็นที่ตั้ง แต่หลังจากที่งานเริ่มล้นมือเขาจึงได้ล้มเลิกธุรกิจนี้ไป

เปิดกิจการเครื่องเล่นพินบอลตามร้านตัดผม

ตอนอายุ 17 ปี เขาได้ก่อตั้งธุรกิจพินบอลที่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับเขา Buffett ได้ซื้อเครื่องเล่นพินบอลเก่าที่เสียแล้วมาในราคาเพียง 25 ดอลลาร์ และนำไปให้ Don Danley เพื่อนสนิทของเขาซ่อมเครื่องเล่นให้กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง หลังจากนั้นพวกเขาจึงรวมตัวกัน และเริ่มให้บริการเครื่องเล่นพินบอลแบบหยอดเหรียญ ซึ่งที่แรกที่พวกเขาทดลองเปิดให้บริการก็คือ บริเวณหลังร้านตัดผม ซึ่งเป็นที่ที่ลูกค้าที่กำลังรอคิวตัดผมจะหยอดเหรียญเล่นพินบอลเพื่อฆ่าเวลา หลังจากที่การเล่นพินบอลระหว่างรอคิวตัดผมได้รับความนิยม ไม่นาน Buffett และเพื่อนของเขา ก็เปิดให้บริการเครื่องเล่นในร้านตัดผมอีกหลายสาขาทั่วกรุงวอชิงตัน

หลังจากได้ทราบถึงงานที่ Warren Buffett เคยทำไปแล้ว เราจะเห็นได้ว่า การที่เขาได้เป็นนักธุรกิจและนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จและกลายเป็นมหาเศรษฐีระดับโลกนั้นไม่ใช่เพราะโชคช่วย แต่เป็นเพราะเขามีหัวการค้าตั้งแต่เด็ก มีความคิดริเริ่มที่จะทำธุรกิจ และรู้จักหาช่องทางในการสร้างรายได้ให้กับตัวเอง ซึ่งนอกจากจะต้องอาศัยการช่างสังเกตแล้ว ยังต้องอาศัยการลงมือทำ ลองผิดลองถูกจนประสบความสำเร็จ ที่สำคัญคือเขามีความขยัน ไม่เกี่ยงงานว่างานนั้นจะเงินมากหรือน้อย นอกจากนี้ยังมีวินัยทางการเงินที่ดีตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ด้วยนิสัยรู้จักประหยัดอดออมของเขานี่เองที่ทำให้เขาค่อยๆ เก็บเล็กผสมน้อยจนสามารถต่อยอดให้กับชีวิตของตัวเองได้ คุณสมบัติและทักษะที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ทำให้เขากลายเป็นมหาเศรษฐี ผู้มีชื่อเสียงด้านการลงทุน คนที่ใครๆ ก็รู้จักในทุกวันนี้     

JobThai.com/REACH มี Line แล้วนะคะ

ติดตามสาระความรู้สำหรับคนทำงาน ที่ย่อยง่าย อ่านสนุก และพูดคุยทุกแง่มุมเกี่ยวกับการทำงานอย่างใกล้ชิดที่

ที่มา:

businessinsider.com
oldschoolvalue.com
lifehack.org
cnbc.com