แนวคิดสู่ความสำเร็จของ Coco Chanel

แนวคิดสู่ความสำเร็จของ Coco Chanel
26/09/17   |   24.5k   |  

“อายุก็ไม่ใช่น้อยแล้ว แถมคนละสายกับงานที่ทำเลย จะไหวเหรอ”

เจ้าของบริษัท Startup ถามย้ำเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง เมื่อได้ยินเหตุผลในการลาออกของ Project Manager วัย 30 ว่าเธอต้องการลาออกเพื่อไปลงคอร์สเรียนแฟชั่นดีไซน์

กนกพรตอบรับอย่างมั่นใจแทบจะทันที เพราะสิ่งนี้เป็นความฝันของเธอตั้งแต่เด็ก ความฝันที่เธอล้มเลิกมันไป เพียงเพราะคิดแบบเด็ก ๆ ว่าตัวเองวาดรูปไม่สวย ฝีมือไม่ดี คงจะเอาดีทางนี้ไม่ได้แน่ ๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไป เธอได้เห็นใครต่อใครลุกขึ้นมาทำตามฝันของตัวเองจนประสบความสำเร็จ เธอจึงอยากรู้ว่าความฝันของเธอที่เธอเคยคิดว่าคงจะทำมันไม่ได้ จริง ๆ แล้วมันจะยากสักแค่ไหนกันเชียว

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากจะทำความฝันของตัวเองให้ประสบความสำเร็จ JobThai ก็มีแนวคิดดี ๆ จาก Coco Chanel ดีไซเนอร์ชื่อก้องโลกผู้ก่อตั้ง Chanel แบรนด์แฟชั่นที่ผู้หญิงทั่วโลกใฝ่ฝันถึงมาฝาก ว่าเธอมีแนวคิดอย่างไรที่ทำให้เด็กกำพร้าคนหนึ่งกลายเป็นเจ้าของแบรนด์แฟชั่นสุดหรูที่ถือกำเนิดมาแล้วมากกว่า 100 ปี

 

 

  • เชื่อมั่นในตัวเอง แม้จะต้องเสี่ยง: เมื่อครั้งที่ Coco Chanel นำเสนอชุดสูทที่ทำจากผ้ายืด มีแต่คนวิจารณ์งานของเธอ แต่เธอก็ไม่สนใจ และยึดมั่นในความคิดตัวเอง จนในที่สุดเสื้อผ้าของเธอก็ได้รับการตอบรับอย่างดี
  • ไม่กลัวที่จะแตกต่าง: ในช่วงสมัยที่ผู้หญิงนิยมใส่ชุดคอร์เซ็ทรัดรูปและกระโปรงบาน ที่ Coco รู้สึกว่ามันเป็นชุดที่อึดอัด เธอเลือกที่จะออกแบบเสื้อผ้าทีทะมัดทะแมง และเธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่ใส่กางเกงซึ่งในยุคนั้นมีแต่ผู้ชายเท่านั้นที่ใส่
  • กล้าที่จะเดินตามความฝันและแสวงหาโอกาสด้วยตัวเอง: เธอเดินทางสู่เมืองมูแล็ง เพื่อไล่ตามความฝันของตัวเอง จนนำมาซึ่งโอกาสที่ทำให้เธอได้เปิดร้านขายเสื้อผ้า อันเป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์ Chanel
  • มีหัวใจของนักสู้: Coco เคยต้องอพยพไปอยู่ต่างประเทศและหายจากวงการแฟชั่นไปนานกว่า 15 ปี ก่อนจะกลับมาอีกครั้งเมื่ออายุ 70 ปีและใช้เวลาไม่นานก็กลับมากลายเป็นผู้นำแฟชั่นได้
  • มีความคิดสร้างสรรค์ และรู้จักเอาปัญหาหรือสิ่งต่าง ๆ รอบตัวมาประยุกต์ใช้: แฟชั่นหลายอย่างที่สร้างขึ้นนั้นมาจากการที่ Coco หยิบเอาสิ่งที่เห็นรอบตัวมาปรับ เช่น ชุดสีดำเรียบที่ได้แรงบันดาลใจมาจากชุดแม่ชี หรือ ออกแบบกระเป๋าที่มีสายจนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของกระเป๋าสะพายในปัจจุบัน
     

 

Coco Chanel เป็นเด็กที่ถูกครอบครัวทอดทิ้งให้อยู่บ้านเด็กกำพร้าในเมืองเล็ก ๆ ประเทศฝรั่งเศส ถูกเลี้ยงโดยแม่ชีซึ่งหวังจะให้เธอเป็นช่างตัดเย็บ แต่ด้วยความใฝ่ฝันที่ไกลกว่านั้น เธอจึงหันหลังให้ชีวิตที่ราบเรียบและมุ่งหน้าสู่การเป็นนักร้องคาบาเร่ต์ และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จระดับโลก

 

เธอเชื่อมั่นในตัวเอง

เธอเป็นคนที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูงและความมั่นใจในตัวเองของเธอนั่นเองกลายเป็นข้อดีที่ทำให้คนอื่นเชื่อในสิ่งที่เธอทำ ครั้งแรกที่เธอนำเสนอชุดสูทที่ทำจากผ้าเจอร์ซีย์(ผ้ายืด) ออกสู่สายตาประชาชน มีคนจำนวนมากวิจารณ์ผลงานของเธอในแง่ลบเพราะในช่วงเวลานั้นผ้ายืดมักใช้สำหรับตัดเย็บชุดชั้นในของผู้ชายเท่านั้น แต่เธอไม่เคยสนใจคำวิจารณ์เหล่านั้นเลย เธอเชื่อว่าเสื้อผ้าจะต้องใส่สบายเธอจึงเลือกผ้าที่เบาบางและรับกับสรีระของคนได้ดีมาตัดเย็บเป็นชุด ซึ่งเธอเคยพูดไว้ว่า “ความหรูหราสง่างามจะต้องมาพร้อมกับการสวมใส่ที่สบาย” เสื้อผ้าของเธอได้รับการตอบรับอย่างดีในภายหลัง เธอแสดงให้เห็นถึงการยึดมั่นในความคิด ถึงแม้จะต้องเสี่ยงหรือแหกกฎเกณฑ์ของสังคมบ้างก็ตาม

 

เธอกล้าที่จะแตกต่าง

“ผู้คนมักจะหัวเราะเวลาเห็นชุดที่ฉันใส่ แต่นั่นเป็นเคล็ดลับสู่ความสำเร็จของฉัน เพราะฉันไม่เหมือนใคร”

ในช่วงปี ค.ศ. 1920 ผู้หญิงส่วนใหญ่ใส่ชุดคอร์เซ็ทรัดรูปและกระโปรงบานที่ดูเหมือนเค้กงานแต่งงาน โคโคคิดว่าทำไมผู้หญิงถึงต้องใส่เสื้อผ้าที่อึดอัดขนาดนั้น เธอจึงมีความคิดที่จะออกแบบชุดที่สวมใส่สบายและดูทะมัดทะแมง ซึ่งแรงบันดาลใจของเธอมาจากเสื้อผ้าของชายคนรักนั่นเอง เสื้อผ้าของเธอจึงแตกต่างจากแฟชั่นในสมัยนั้นอย่างสิ้นเชิง อีกทั้งเธอยังเป็นผู้หญิงคนแรกในยุคนั้นที่ใส่กางเกงขายาวที่มีแต่ผู้ชายใส่กันด้วย

 

เธอแสวงหาโอกาสและกล้าเดินทางตามความฝัน

เธอไม่เคยรอให้โอกาสเกิดขึ้นแต่เธอเลือกที่จะแสวงหาโอกาสด้วยตัวเธอเอง เธอออกจากบ้านเด็กกำพร้าเพื่อหลีกหนีชีวิตที่จำเจ มุ่งหน้าสู่เมืองมูแล็ง เพื่อเป็นนักร้องคาบาเร่ต์ แม้ว่าเธอจะไม่ประสบความสำเร็จในการเป็นนักร้อง แต่การล้มเหลวครั้งนี้ก็ทำให้เธอได้พบหนทางใหม่ในชีวิต เธอพบกับนายทุนคนหนึ่งที่สนับสนุนให้เธอเปิดร้านขายเสื้อผ้าของตัวเองในปารีส เธอคว้าโอกาสนั้นไว้และสามารถทำได้สำเร็จ ร้านนี้คือสถานที่ที่สร้างชื่อเสียงให้กับเธอและกลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์ Chanel ในที่สุด

 

มีหัวใจของนักสู้

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นกับชีวิตเธอเมื่อฝรั่งเศสประกาศสงครามกับเยอรมัน คนส่วนใหญ่อพยพออกจากประเทศแต่เธอเพียงแค่ปิดร้านและอาศัยต่อในฝรั่งเศส เธอมีความสัมพันธ์กับนายทหารเยอรมันคนหนึ่งซึ่งคอยดูแลเธอในช่วงสงคราม แต่ความสัมพันธ์ครั้งนี้กลับนำมาซึ่งความยุ่งยาก เมื่อสงครามจบคนฝรั่งเศสมองว่าเธอเป็นคนที่ไม่รักชาติเป็นเหตุให้เธอต้องอพยพไปอยู่ต่างประเทศ เธอหายไปจากวงการนานกว่า 15 ปีและตัดสินใจที่จะกลับสู่โลกแฟชั่นอีกครั้งเพื่อทำตามแรงปรารถนาของตัวเองตอนอายุ 70 ปี ในช่วงแรกนักวิจารณ์ในยุโรปยังคงโจมตีว่าไอเดียของเธอนั้นเชยไปแล้ว แต่ผลงานของเธอกลับได้รับความนิยมอย่างมากในอเมริกา เธอใช้เวลาแค่เพียงไม่นานก็กลับมาเป็นผู้นำแฟชั่นได้เป็นผลสำเร็จ

 

เธอมีความคิดสร้างสรรค์

เธอเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์และสามารถนำสิ่งรอบตัวมาสร้างเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบงาน ชุดสีดำเรียบง่ายที่ได้แรงบันดาลใจมากชุดแม่ชี เสื้อผ้าของชายคนรักของเธอที่นำมาประยุกต์เป็นชุดของผู้หญิงที่ทะมัดทะแมง ผลงานของเธอยังมาจากปัญหาที่เธอพบในชีวิตประจำวันด้วย ในสมัยนั้นกระเป๋าผู้หญิงยังไม่มีสายสะพายและต้องถือไว้ตลอดเวลา ทำให้เธอเกิดแรงบันดาลใจที่จะออกแบบกระเป๋าที่มีสาย เพื่อเพิ่มความสะดวกและความทะมัดแทง ซึ่งแรงบันดาลใจครั้งนั้นกลายเป็นจุดเริ่มต้นของกระเป๋าผู้หญิงที่มีสายสะพายมาจนถึงปัจจุบัน

 

 

JobThai มี Line แล้วนะคะ

ติดตามสาระความรู้สำหรับคนทำงาน ที่ย่อยง่าย อ่านสนุก และพูดคุยทุกแง่มุมเกี่ยวกับการทำงานอย่างใกล้ชิดที่

เพิ่มเพื่อน

 

ที่มา:

evancarmichael.com
flashionista.com
entrepreneur.com
oprah.com

tags : แรงบันดาลใจ, inspiration, คนทำงาน, เคล็ดลับสำหรับคนทำงาน, เทคนิคสำหรับคนทำงาน, ทำงานอย่างมีความสุข, ความสุขในการทำงาน, เคล็ดลับความสำเร็จ, เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ, ทำงานให้มีความสุข, แนวคิดในการทำงาน



ติดตามข่าวสารและเรื่องราวดีๆ ทาง Email

ขอบคุณสำหรับการติดตาม