4 วิธีสู้ชีวิต สไตล์ Leonardo DiCaprio

21/11/17   |   12.6k   |  

“ทำไมถึงได้มีแต่ปัญหาไม่รู้จักจบจักสิ้นนะ”

ธเนศบ่นออกมาอย่างหงุดหงิดพร้อมกับวางเอกสารลงบนโต๊ะทำงานอย่างไม่เบามือนัก

ช่วงที่ผ่านมาธเนศต้องเผชิญกับปัญหาในการทำงานมากมาย งานใหม่ที่ต้องส่งก็ยังคิดไม่ออก งานเก่าที่เสนอไปก็ถูกตีกลับมาแก้แทบทั้งหมด แถมยังมีปัญหายิบย่อยจากงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ในแต่ละวันมากวนใจอีก จนทำให้เขารู้สึกว่าความหวังที่เขาจะได้รับการโปรโมตให้เป็นหัวหน้านั้นเริ่มเลือนลางลงเรื่อย ๆ 

ไม่ว่าคุณจะเป็นใครหรือทำอาชีพอะไร ความสำเร็จไม่ใช่สิ่งที่ได้มาง่าย ๆ คนที่ประสบความสำเร็จหลายต่อหลายคนได้พิสูจน์ให้เห็นมาแล้วว่ากว่าที่เขาจะได้ในสิ่งที่เขาสมควรจะได้ ต้องผ่านอุปสรรค ความล้มเหลวมานับไม่ถ้วน และเพื่อเป็นกำลังใจให้กับคนที่กำลังรู้สึกว่าชีวิตของตัวเองเจอแต่ปัญหา

วันนี้ JobThai จึงขอเสนอเกร็ดชีวิตและวิธีการทำงานของคนดังที่เคยเผชิญอุปสรรคมากมายอย่าง Leonardo DiCaprio ที่จะทำให้คุณยิ้มรับความพ่ายแพ้ แล้วลุกขึ้นสู้เพื่อตามหาความก้าวหน้าและความสำเร็จของชีวิตต่อไป ลองมาดูกันว่าเขามีวิธีรับมือกับปัญหาและมีแนวทางในการดำเนินชีวิตอย่างไรบ้าง

 

 

  • แม้ตอนเด็ก Leonardo DiCaprio จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยปัญหา แต่เขาไม่ปล่อยให้ปัญหาเหล่านั้นมากำหนดชีวิตเขา เขาต้องการที่จะเป็นนักแสดง และหลีกหนีจากสภาพแวดล้อมเดิม ๆ เขาจึงให้แม่พาไปสมัครเป็นนักแสดง
  • กว่าที่ Leonardo DiCaprio จะได้รางวัลนักแสดงนำชายจากเวที Oscar เขาต้องพลาดการได้รางวัลเดียวกันนี้มาแล้วหลายต่อหลายครั้ง แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้ และมุ่งมั่นที่จะทำงานให้ดี และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ
  • Leonardo DiCaprio มองหาโอกาสในการทำสิ่งใหม่ ๆ และท้าทายอยู่เสมอ เขาพร้อมรับแสดงทุกบทบาทที่น่าสนใจโดยไม่สนว่าเป็นตัวเอกหรือไม่ ทุ่มเททำหน้าที่และแสดงทุกฉากอย่างเต็มที่แม้จะต้องลำบาก รวมไปถึงหาช่องทางเรียนรู้เพิ่มเติมผ่านการทำงานเบื้องหลังอีกด้วย ซึ่งการที่เขาทำทุกอย่างอย่างเต็มที่ ไม่ใช่เพื่อหวังรางวัล แต่เขาทำเพราะมันเป็นสิ่งที่เขารัก
  • แม้จะทำงานอย่างเต็มที่ แต่ Leonardo DiCaprio ก็ไม่เคยหลงลืมตัวตนของตัวเอง และยังคงมีเวลาและให้ความสนิทสนมกับครอบครัวและเพื่อนอยู่เสมอ เพราะมันทำให้เขาผ่อนคลายและมีความสุขเหมือนคนทั่วไป และที่สำคัญคนเหล่านั้นยังเป็นกำลังใจที่ดีให้กับเขาได้ด้วย
     

 

Leonardo DiCaprio คือนักแสดงที่ขึ้นชื่อเรื่องความสามารถในการแสดงมากที่สุดคนหนึ่งในวงการฮอลลีวู้ด ที่เพิ่งจะได้รับรางวัลออสการ์ไปเมื่อปี 2016 หลังจากที่ต้องผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เขาก็ไม่เคยท้อ ตรงกันข้ามกลับวิ่งเข้าหาโอกาสด้วยการรับงานแสดงที่ท้าทายมากกว่าเดิมเพื่อพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นกว่าปัจจุบัน จนในที่สุดเขาก็สามารถคว้ารางวัลอันทรงเกียรตินี้มาไว้ในมือได้

 

1. กำหนดเส้นทางชีวิตของตัวเองตั้งแต่ยังเด็ก 

ใครจะรู้ว่าชีวิตของ Leonardo DiCaprio ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบมาตั้งแต่ต้น ครอบครัวของเขาไม่สมบูรณ์เพราะพ่อและแม่แยกทางกัน ตอนเด็ก ๆ เขาต้องอาศัยอยู่ในย่านที่เต็มไปด้วยสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายที่สุดในนครลอสแอนเจลิส ซึ่งมีทั้งปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติดและปัญหาความรุนแรงในชุมชน นอกจากนี้ เขายังเล่าว่าสมัยเรียนเขามักจะถูกรังแกเป็นประจำ ประสบการณ์แย่ ๆ เหล่านี้ทำให้เขาคิดหนักว่าต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อหลีกหนีจากสภาพแวดล้อมแบบเดิม ๆ จนมาถึงจุดตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่าเขาอยากเป็นนักแสดง Leonardo จึงให้แม่ของเขาพาไปสมัครเป็นนักแสดง ซึ่งนั่นถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุดในชีวิตก็ว่าได้

 

2. ลุกขึ้นสู้ใหม่ได้ในทุกครั้งที่ล้มเหลว

ก่อนที่เขาจะได้รับรางวัล Oscar ในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่อง “The Revenant (2015)” Leonardo DiCaprio ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงในรางวัลเดียวกันนี้มาแล้วถึง 3 ครั้ง จากภาพยนตร์เรื่อง "The Wolf of Wall Street (2013)" "The Aviator (2004)" และ "Blood Diamond (2006)" รวมทั้งได้เข้าชิงในสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมอีก 1 ครั้งจาก "What's Eating Gilbert Grape (1993)" ซึ่งที่ผ่านมาเขาก็พลาดรางวัลทุกครั้ง แต่แทนที่จะโทษโชคชะตา เขากลับยอมรับความพ่ายแพ้และมุ่งมั่นทำงานอย่างต่อเนื่อง

Leonardo คิดว่าการได้เป็นนักแสดงทำให้มีโอกาสได้ทำในสิ่งที่คนอื่นไม่มีโอกาส เขาได้เรียนรู้จากนักแสดงรุ่นใหญ่อย่าง Robert De Niro และ Jack Nicholson ซึ่งเป็นทั้งดาราที่เขาประทับใจในวัยเด็กและตัวอย่างในการทำงานและการใช้ชีวิตส่วนตัว นอกจากนี้ยังระลึกอยู่เสมอว่าการได้มาอยู่ในวงการบันเทิงทำให้เขาได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในชีวิต และสิ่งนี้เองที่เป็นแรงบันดาลใจให้เขาอยากทำงานเพื่อเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ

 

3. ให้คิดว่าปัญหายิ่งยาก ยิ่งทำให้เราแกร่งขึ้น

ดาราคนอื่น ๆ  อาจจะเคยชินกับบทบาทหรือประเภทของหนังแบบเดิม ๆ แต่นั่นไม่ใช่ Leonardo DiCaprio เขาไม่ได้ผูกมัดตัวเองอยู่กับบทใดบทหนึ่ง เขามองหาโอกาสในการทำสิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ โดยไม่ได้สนใจว่าบทนั้นจะเล็กหรือใหญ่ จะเป็นตัวเอกหรือตัวร้าย เขาพร้อมแสดงทุกบทบาทตราบใดที่ตัวละครนั้นน่าสนใจและท้าทายความสามารถของตัวเองในฐานะนักแสดง

และเมื่อเขาได้ตัดสินใจรับงานแสดงแล้วก็จะตั้งใจทำหน้าที่อย่างเต็มที่ เห็นได้จากผลงานภาพยนตร์เรื่องล่าสุดอย่าง “The Revenant” ที่ต้องถ่ายทำภาพยนตร์ท่ามกลางหิมะและสภาพอากาศอันเลวร้ายด้วยอุณภูมิติดลบถึง 25 องศาเซลเซียส นอกจากความลำบากในการถ่ายทำในสภาพแวดล้อมที่ไม่อาจควบคุมได้แล้ว เขายังต้องเจอกับความยากในการแสดงที่ท้าทายทั้งร่างกายและจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงในฉากที่ต้องเข้าไปหลบพายุหิมะในซากสัตว์โดยไม่สวมเสื้อผ้า การต้องกินตับวัวไบซันเพื่อประทังชีวิต หรือการกระโดดลงแม่น้ำที่เย็นเฉียบโดยไม่ใช้ตัวแสดงแทนเลย ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเขารักในงานแสดงจริง ๆ และเขาเชื่อว่าจะต้องเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในการแสดงทุกครั้ง

นอกจากการเป็นนักแสดงแล้ว Leonardo DiCaprio ยังหันมาจับงานเบื้องหลัง เป็นโปรดิวเซอร์ภาพยนตร์ ซึ่งนั่นยิ่งทำให้เขาต้องเรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่างมากขึ้น จากการร่วมงานกับ James Cameron, Steven Spielberg, Martin Scorsese และ Quentin Tarantino  ผู้กำกับชั้นนำของวงการภาพยนตร์

 

4. ทำในสิ่งที่รักและเป็นตัวของตัวเอง

Leonardo DiCaprio เป็นตัวอย่างของคนที่รักในงานที่ทำ เขารู้ว่าตัวเองอยากทำอะไรตั้งแต่เด็ก เขาชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ที่จะสามารถต่อยอดในงานที่ทำ เมื่อต้องแสดงเขาก็แสดงอย่างเต็มที่ แต่ก็รู้ว่าจุดไหนคือจุดที่เหมาะสมและไม่ลืมความเป็นตัวของตัวเองในชีวิตจริง เขาไม่ได้ก้มหน้าก้มตาทำแต่งานจนละเลยสิ่งรอบข้าง ไม่ผูกมัดตัวเองว่าจะต้องทำเพื่อให้ได้รางวัล หรือทำตัวให้ดูดี เขาแค่อยากเป็นคนธรรมดาที่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ

ในเรื่องชีวิตส่วนตัวก็เช่นกัน เขาไม่เคยลืมตัวว่าตนเองเป็นใคร ทุกวันนี้เขาก็ยังสนิทสนมกับพ่อแม่ และเพื่อนสนิท และยังปฏิบัติอย่างเป็นกันเองกับคนใกล้ชิด เขายอมรับว่าการทำตัวบ้า ๆ บอ ๆ เวลาอยู่กับเพื่อนทำให้เขาได้ผ่อนคลายและทำให้เขามีความสุขเหมือนกับคนทั่วไป อย่าลืมว่าคนเราจะประสบความสำเร็จได้ ปัจจัยหนึ่งก็คือคนรอบข้างที่จะคอยสนับสนุนและยืนเคียงข้างเรา

 

จะเห็นได้ว่าคนที่มีชื่อเสียง ก็ไม่ต่างจากคนธรรมดาอย่างเรา ที่ต้องพบกับความผิดหวังความล้มเหลวในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือเรื่องชีวิตส่วนตัว หากคุณคิดว่าทำไมตัวเองยังไม่ประสบความสำเร็จแบบคนอื่นเขาเสียที ลองมอง Leonardo DiCaprio เป็นแบบอย่าง จำไว้ว่าแค่ล้มเหลวในวันนี้ไม่ได้แปลว่าจะต้องล้มเหลวเสมอไป สิ่งที่สำคัญก็คือเราจะใช้ความล้มเหลวนั้นเป็นบทเรียนให้กลับมาตั้งหลักชีวิตอีกครั้งได้อย่างไร JobThai ขอเป็นกำลังใจให้คนทำงานทุกคนก้าวผ่านอุปสรรคและประสบความสำเร็จได้ในแบบของตัวเอง ด้วยบทเรียนจากคนดังอย่างนักแสดงผู้มากความสามารถคนนี้

 

 

JobThai มี Line แล้วนะคะ

ติดตามสาระความรู้สำหรับคนทำงาน ที่ย่อยง่าย อ่านสนุก และพูดคุยทุกแง่มุมเกี่ยวกับการทำงานอย่างใกล้ชิดที่

เพิ่มเพื่อน

 


ที่มา:
roccanews.com
latimes.com
telegraph.co.uk

tags : การใช้ชีวิต, แรงบันดาลใจ, inspiration, คนทำงาน, เคล็ดลับสำหรับคนทำงาน, เทคนิคสำหรับคนทำงาน, ทำงานอย่างมีความสุข, ความสุขในการทำงาน, เคล็ดลับความสำเร็จ, เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ, ทำงานให้มีความสุข, แนวคิดในการทำงาน



ติดตามข่าวสารและเรื่องราวดีๆ ทาง Email

ขอบคุณสำหรับการติดตาม