- ศึกษาชีวิตของคนอื่น ๆ ที่ประสบความสำเร็จว่าเขาทำอย่างไรถึงจะมายืนในจุดนั้น ๆ ได้ แล้วเตรียมตัวเองให้พร้อม
- พิจารณาถึงข้อผิดพลาดของคนที่ล้มเหลว ว่าเป็นเพราะอะไรที่ทำให้เขาไม่ประสบความสำเร็จ หรือไม่สามารถรักษาความสำเร็จที่ได้มาเอาไว้ได้ แล้วใช้ความผิดพลาดของเขามาเป็นบทเรียนให้กับตัวเอง
- เมื่อมีเป้าหมาย ก็ต้องทบทวนเป้าหมายของตัวเองอยู่เป็นประจำ อย่าหลงไปกับความสำเร็จจนลืมการเป้าหมายและการเป็นตัวของตัวเอง
|
|
วินาทีนี้ ชื่อของ Taylor Swift น่าจะเป็นชื่อที่ใครหลายคนคุ้นเคย แม้ว่าจะไม่ใช่สวิฟตี้ (กลุ่มแฟนคลับของ Taylor Swift) แต่เชื่อว่าเมื่อพูดถึงเธอ ใคร ๆ ก็ต้องนึกชื่อเพลงของเธอออก และล่าสุดเธอก็ประสบความสำเร็จอีกครั้งกับคอนเสิร์ต "The Eras Tour" คอนเสิร์ตที่รวมเอาเพลงจากทุกยุคทุกอัลบั้มมารวมกันไว้ให้แฟนเพลงฟังกันแบบจุใจและไปทัวร์มาแล้วหลายที่ ทั้งในสหรัฐอเมริกาและในประเทศอื่น ๆ
สิ่งหนึ่งที่พิเศษเกี่ยวกับนักร้องสาวคนนี้ก็ชื่อเสียงและเงินทองที่มีไม่ได้ทำให้เธอหลงทางจนทำให้ตัดสินใจผิดพลาดจนสร้างปัญหาให้กับชีวิตของเธอ เธอยังคงมุุ่งมั่นผลิตผลงานเพลงต่อไป ไม่หลงลืมตัวตนของตัวเอง
คำถามคือ... "อะไรที่ทำให้ Taylor Swift ยังคงยืนอยู่ในวงการนี้ต่อไปได้?" แถมยังกลับมาแรงราวกับที่เนื้อเพลง Willow ของเธอเขียนไว้ว่า "I come back stronger than a 90's trend." (การกลับมาของฉันมันทรงพลังยิ่งกว่าการกลับมาของเทรนด์ 90's ซะอีก) และเธอรับมือกับการรักษาชื่อเสียงของเธอได้ยังไง วันนี้ JobThai ขอมาเล่าให้ฟัง
เตรียมตัวเอาไว้ ยิ่งพร้อมก่อนยิ่งดี
Taylor Swift เคยให้สัมภาษณ์กับแม็กกาซีนเล่มหนึ่งว่า ตอนเธอยังเด็ก ขณะที่คนอื่น ๆ ดูรายการทีวีทั่วไปตามประสาเด็ก เธอกลับชอบดูรายการ “Behind the Music” ที่เป็นรายการสารคดีตามติดชีวิตนักร้องหรือวงดนตรีที่มีชื่อเสียง โดยในรายการจะสัมภาษณ์ถึงที่มาที่ไปก่อนจะกลายมาเป็นนักร้องนักดนตรีที่ประสบความสำเร็จ ทำให้คนดูซึ่งก็รวมถึงตัว Taylor Swift เอง ได้รู้ว่ากว่าที่พวกเขาจะโด่งดังได้ ต้องผ่านความยากลำบากอะไรมาบ้าง
เอาความผิดพลาดที่คนอื่นเคยทำไว้มาใช้เป็นบทเรียน
ถึงใคร ๆ จะชอบพูดว่าให้เอาความผิดพลาดเป็นบทเรียน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องมาลองผิดลองถูกด้วยตัวเองเสมอไป ในเมื่อเราสามารถเรียนรู้จากความผิดพลาดจากเส้นทางของอื่น ๆ ได้เหมือนกัน
Taylor Swift อธิบายว่าเธอได้เห็นตัวอย่างจากศิลปินหลายคนที่เคยประสบความสำเร็จ แต่สุดท้ายก็ต้องจบเส้นทางในวงการไป ทำให้เกิดคำถามในใจขึ้นมาว่าทำไมคนเหล่านั้นถึงรักษาความสำเร็จของตัวเองเอาไว้ไม่ได้ จนสุดท้ายเธอก็ได้คำตอบว่า เมื่อคนเราโด่งดังแล้วก็จะชอบลืมตัวตนของตัวเองเมื่อตอนก่อนจะมีชื่อเสียง แถมพอถึงจุดนึงที่ชีวิตรายล้อมไปด้วยเงินทอง ชื่อเสียง หรือมีคนรอบข้างเข้ามาเบี่ยงเบนความสนใจ ก็ทำให้คนเหล่านั้นไม่ใส่ใจกับการทำงาน และทำให้ขาดแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานดี ๆ ให้กับแฟน ๆ เพราะมัวแต่หลงอยู่กับความโด่งดังของตัวเอง โดยไม่คิดจะพัฒนาสิ่งใหม่ ๆ เพื่อต่อยอดความสำเร็จในปัจจุบัน
อย่าลืมเป้าหมายชีวิตของตัวเอง
อีกอย่างที่ Taylor Swift ทำในทุก ๆ วันก็คือ การทบทวนตัวตนและเป้าหมายของตัวเอง เธอคิดว่าจริง ๆ แล้วมันไม่ใช่เรื่องของการวางตัวหรือการรับมือกับชื่อเสียงที่เข้ามาในชีวิต แต่เป็นการรักษาความเป็นตัวของตัวเองเอาไว้ให้ได้มากกว่า เพราะเมื่อคนเราประสบความสำเร็จ สิ่งแรกที่จะสูญเสียไปก็คือความเป็นตัวของตัวเองนั่นเอง
การที่ Taylor Swift หาข้อมูลที่มีประโยชน์และเตรียมรับมือกับความสำเร็จและความล้มเหลวมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ก่อนที่จะโด่งดังในวงการดนตรีซะด้วยซ้ำ ทำให้เราเห็นได้เลยว่านอกเหนือจากผลงานและความสามารถทางดนตรีที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว เธอยังเป็นตัวอย่างที่ดีของคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จ เป็นหนึ่งในนักร้องนักดนตรีที่มีชื่อเสียงที่สุดของโลกในปัจจุบัน และยังรักษาชื่อเสียงไว้ได้อย่างเหนียวแน่นอีกด้วย
นอกจากนั้นเรื่องราวของนักร้องสาวคนนี้ยังสอนให้เรารู้ด้วยว่าเมื่อประสบความสำเร็จแล้ว ก็ต้องมีสติ ไม่ปล่อยให้ความสำเร็จชั่วครู่ชั่วยามมาทำให้ตัวเองต้องหลงทาง และต้องมุ่งมั่นพัฒนาความสามารถไปเรื่อย ๆ เพื่อต่อยอดความสำเร็จในปัจจุบัน รวมไปถึงเพื่อความก้าวหน้าของตัวเราเองในอนาคต
JobThai Official Group เพื่อการหางาน หาคน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำงาน
ที่มา:
businessinsider.com