อย่างที่รู้กันว่าคนวัย Gen Z หรือคนที่เกิดในช่วงปี ค.ศ. 1997 – 2010 ได้ทยอยก้าวเข้าสู่โลกของการทำงานแล้ว และในอนาคต สัดส่วนของคนกลุ่มนี้ก็จะเพิ่มจำนวนขึ้นอีกเรื่อย ๆ จนกลายเป็นกลุ่มแรงงานหลักในตลาดแรงงาน ทำให้หลาย ๆ องค์กรต้องพากันปรับตัวและหันมาทำความเข้าใจคนทำงานวัย Gen Z มากขึ้นเพื่อดึงดูดคนทำงานกลุ่มนี้เข้ามาในบริษัท รวมถึงรักษาพนักงานในวัยนี้ให้ทำงานกับองค์กรไปนาน ๆ วันนี้ JobThai เลยจะมาอธิบายลักษณะและพฤติกรรมของคนทำงาน Gen Z พร้อมแนะนำเคล็ดลับในการมัดใจคนกลุ่มนี้ให้ได้รู้กัน
-
มีทักษะของผู้ประกอบการ
ด้วยความที่คนกลุ่มนี้เติบโตมากับเทคโนโลยี ทำให้มีช่องทางในการสร้างตัวตนในโลกออนไลน์และทำธุรกิจส่วนตัวมากขึ้น อย่างที่เห็นว่าปัจจุบันมีอาชีพที่ทำเงินจากช่องทางออนไลน์ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอาชีพ Influencer, Content Creator, Youtuber, Streamer หรือการเปิดร้านขายของออนไลน์ ซึ่งคน Gen Z หลาย ๆ คนก็เรียนรู้ที่จะสร้างสรรค์คอนเทนต์ ทำ Branding ของตัวเอง และริเริ่มธุรกิจส่วนตัว หารายได้จากช่องทางเหล่านี้มาตั้งแต่ยังเรียนหนังสือ ทำให้มีทักษะของผู้ประกอบการติดตัวมาด้วย ซึ่งทักษะนี้ก็ช่วยในการทำงานในองค์กรได้เป็นอย่างดี เพราะการทำการตลาดในยุคดิจิทัลย่อมต้องทำผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลัก ดังนั้นยิ่งมีทักษะผู้ประกอบการติดตัวมามาก มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถผลิตคอนเทนต์ได้หลากหลาย เก่งในการสร้าง Branding และมีประสบการณ์ในการทำการตลาดเองมาก่อน ก็ยิ่งช่วยพัฒนากลยุทธ์หรือเปิดมุมมองและเสนอไอเดียให้กับองค์กรได้มากขึ้น นอกจากนี้บางคนยังอาจมี Connection ที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงานในองค์กรด้วย
มัดใจคน Gen Z ยังไงดี?
-
ปรับรูปแบบการทำงานจากออฟไลน์ให้เป็นแบบออนไลน์มากขึ้น
-
ลงทุนกับอุปกรณ์และเทคโนโลยีต่าง ๆ ในออฟฟิศ รวมถึงนำซอฟต์แวร์ต่าง ๆ มาใช้เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงาน เช่น ซอฟต์แวร์สำหรับจัดการเรื่องลางานและออกสลิปเงินเดือนให้พนักงาน ซอฟต์แวร์สำหรับสื่อสารภายในองค์กร ซอฟต์แวร์สำหรับอัปเดตงานภายในทีม
-
เสนออุปกรณ์หรือ Gadgets ที่เหมาะสมกับการทำงานให้พนักงาน เช่น คอมพิวเตอร์หรือแล็ปท็อปที่มีสเปคเครื่องสูง ๆ สำหรับตำแหน่งงานสายออกแบบหรือตัดต่อวิดีโอ
-
มีสวัสดิการเบิกอุปกรณ์อื่น ๆ เพิ่มเติมตามรูปแบบการทำงาน เช่น หากบริษัททำงานแบบ Hybrid ที่ไม่ต้องเข้าออฟฟิศทุกวัน พนักงานสามารถเบิกหูฟังไปใช้เวลาประชุมงานที่บ้านได้
มัดใจคน Gen Z ยังไงดี?
-
เพิ่มสวัสดิการสนับสนุนการเรียนรู้ของพนักงาน เช่น ทุนการศึกษาต่อ ค่าคอร์สเรียนออนไลน์ โปรแกรม Training พัฒนาศักยภาพในด้านต่าง ๆ
-
สนับสนุน Career Growth หรือเส้นทางการเติบโตของพนักงาน โดยอาจจัด 1-on-1 Session เพื่อพูดคุยและรีวิวการทำงานกับพนักงานแบบตัวต่อเป็นระยะ ๆ ว่างานที่ทำอยู่นั้นท้าทายมากพอหรือเปล่า อยากปรับเปลี่ยนการทำงานในจุดไหนบ้าง หรือยากทดลองโปรเจกต์ใหม่ ๆ ดูไหม เพราะถ้าพนักงานรู้สึกว่างานที่ทำอยู่นั้นหมดความน่าสนใจ ไม่ได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ เพิ่มเติม และตัวเองไม่สามารถเติบโตในองค์กรไปมากกว่านี้ได้แล้ว ก็อาจทำให้พนักงานเบื่อ หมดไฟและเริ่มมองหางานใหม่ที่ท้าทาย ได้พัฒนาตัวเองมากกว่างานปัจจุบัน
มัดใจคน Gen Z ยังไงดี?
-
มีการันตีโบนัส นโยบายการปรับเงินเดือนประจำปีหรือปรับเงินเดือนตามค่าครองชีพ
-
มีสวัสดิการประกันต่าง ๆ ที่ช่วยเสริมความมั่นคงให้กับพนักงาน เช่น ประกันอุบัติเหตุ ประกันสุขภาพ
-
มีการจัดอบรมเรื่องการวางแผนด้านการเงิน ไม่ว่าจะเป็นแนวทางการออมเงิน วิธีการบริหารเงิน รวมถึงให้คำแนะนำด้านการลงทุนแบบต่าง ๆ เพื่อช่วยให้พนักงาน Gen Z มีความรู้ด้านการเงินมากขึ้นและสามารถวางแผนสร้างความมั่นคงให้ชีวิตได้
-
มีการช่วยเหลือหรือเยียวยาพนักงานในช่วงวิกฤตต่าง ๆ เช่น เงินช่วยเหลือค่าไฟในช่วงที่มีการปรับค่าไฟขึ้น
มัดใจคน Gen Z ยังไงดี?
-
ปรับการทำงานในองค์กรให้มีความยืดหยุ่น เช่น ใช้ระบบเวลาทำงานแบบ Flexible Working Hours สามารถเข้างานตอนกี่โมงก็ได้ แค่ทำให้ครบชั่วโมงที่กำหนดก็พอ, นโยบายทำงานแบบ Hybrid Working หรือ Remote Working ที่ให้พนักงานทำงานจากที่บ้านได้ ไม่ต้องเข้าออฟฟิศทุกวัน
-
มีสวัสดิการที่เกี่ยวข้องกับการลางานหรือวันหยุดพิเศษ ช่วยให้พนักงานได้มีเวลาทำกิจกรรมส่วนตัวมากขึ้น เช่น มีวันลาพักร้อนให้พนักงานเพิ่มขึ้นทุกปี สามารถทบวันลาไปปีถัดไปได้ หรือมีวันหยุดพิเศษให้ในวันเกิดของพนักงาน
มัดใจคน Gen Z ยังไงดี?
-
สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดกว้างให้กับความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นความหลากหลายทางเพศ อายุ หรือเชื้อชาติ ทุกคนสามารถแสดงออกทางความคิดและตัวตนได้อย่างเปิดเผย ไม่มีการเหยียด รังแก ดูถูก หรือใช้อำนาจข่มกัน
-
มีสวัสดิการที่สนับสนุนพนักงานในบริษัทแบบครอบคลุมคนทุกกลุ่ม เช่น สวัสดิการวันลาสำหรับพนักงานหญิงในช่วงเป็นประจำเดือน (Period Leave), สวัสดิการวันลาเพื่อผ่าตัดแปลงเพศสำหรับพนักงาน LGBTQ+, สิทธิในการลาคลอดสำหรับพนักงานทั้งฝั่งคุณพ่อและคุณแม่ (Parental Leave)
-
ถ้าเป็นองค์กรขนาดใหญ่หรือมีพนักงานเยอะ องค์กรอาจเปิดชมรมหรือสร้างคอมมูนิตี้ต่าง ๆ ให้พนักงานได้รวมกลุ่มเพื่อแสดงออกถึงตัวตนและความชอบ รวมถึงมีพื้นที่พูดคุย แชร์ประสบการณ์ และทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น คอมมูนิตี้สำหรับพนักงานที่ชอบเล่นเกมหรือกีฬา หรือคอมมูนิตี้สำหรับพนักงานที่เลี้ยงสัตว์
นอกจากจะปรับนโยบายการทำงานให้ตอบโจทย์ความต้องการของพนักงาน Gen Z แล้ว สิ่งสำคัญอีกอย่างที่องค์กรต้องทำถ้าอยากดึงดูดคนทำงานวัยนี้เข้ามาคือการทำ Employer Branding เพื่อสื่อสารวัฒนธรรมองค์กร สวัสดิการ และกิจกรรมภายในบริษัทออกไปให้คนนอกรับรู้ผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ โดยเฉพาะทางโซเชียลมีเดีย เช่น TikTok, Instagram หรือ Facebook เนื่องจากคนวัยนี้นิยมเล่นโซเชียลมีเดียและรับสารต่าง ๆ ผ่านช่องทางนี้เป็นหลัก ดังนั้นถ้าอยากให้คน Gen Z สนใจองค์กรของเรา เราก็ต้องโปรโมตและนำเสนอสิ่งที่บริษัทเรามีให้พวกเขาเห็นด้วย
JobThai Official Group เพื่อการหางาน หาคน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำงาน
ที่มา:
indeed.com, fdmgroup.com, businessnewsdaily.com, footholdamerica.com, firstup.io, betterteam.com, technologyadvice.com, hbr.org, th.hrnote.asia, forbes.com, blog.gitnux.com, forbes.com, flexjobs.com
tags :
jobthai, human resource, hr advice, ดึงดูดพนักงาน, เคล็ดลับดึงดูดคน, บริหารคน, พัฒนาองค์กร, ฝ่ายบุคคล, การดูแลพนักงาน, หาคน, สวัสดิการ, gen z, generation, hr