ยุคนี้เป็นยุคของ Talent War ที่หลายองค์กรต้องแข่งกันแย่งชิงตัวแคนดิเดตที่มีความสามารถมาร่วมงานด้วย ซึ่งในสายตาของคนทำงาน นอกจากเรื่องของหน้าที่ความรับผิดชอบและค่าตอบแทนแล้ว สวัสดิการเองก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยดึงดูดให้อยากเข้าไปทำงานกับองค์กรใดองค์กรหนึ่ง ดังนั้นวันนี้ JobThai เลยรวบรวมไอเดียสวัสดิการพนักงานน่าสนใจที่ช่วยดึงดูดคนยุคใหม่มาฝาก
หลังผ่านพ้นวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 ไป หลายองค์กรก็ได้ปรับรูปแบบการทำงานมาเป็น Hybrid Working หรือการทำงานแบบไม่ต้องเข้าออฟฟิศทุกวัน อาจจะเข้าแค่ 2-3 วันต่อสัปดาห์เท่านั้นขึ้นอยู่กับการกำหนดของแต่ละบริษัท โดยวันที่ไม่ต้องเข้าออฟฟิศ พนักงานสามารถเลือกทำงานจากที่ไหนก็ได้ตามความสะดวก ซึ่ง Hybrid Working ก็ถือเป็นอีกรูปแบบการทำงานที่มาแรงและครองใจคนทำงานหลาย ๆ คน เนื่องจากช่วยประหยัดเวลาและค่าเดินทาง ทำให้มีเวลาพักผ่อนมากขึ้น
คนทำงานบางคนชอบเข้างานเช้าและเลิกงานไวเพื่อจะได้มีเวลาใช้ชีวิตมากขึ้นในช่วงเย็น แต่บางคนก็ยินดีเลิกงานช้าลงกว่าเดิมแต่ได้เข้างานสายขึ้นหน่อย เพราะจะได้มีเวลานอนในตอนเช้ามากขึ้น ดังนั้นสวัสดิการเวลาทำงานแบบยืดหยุ่นจึงเป็นสวัสดิการที่คนทำงานหลายคนชื่นชอบ เพราะสามารถเลือกเวลาในการทำงานที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของตัวเองได้
วันเริ่มงานถือเป็นอีกหนึ่งวันสำคัญสำหรับคนทำงานทุกคน บางองค์กรจึงมีการมอบของขวัญต้อนรับหรือ Welcome Gift ให้กับพนักงานใหม่เพื่อสร้างความประทับใจในวันแรกด้วย โดยของขวัญก็อาจเป็นของเล็ก ๆ หรือสิ่งที่พนักงานสามารถใช้ได้ทุกวัน เช่น แก้วมัค แก้วเก็บความเย็น สมุดโน้ต ถุงผ้า หรือกระเป๋าใส่คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก
นอกจากวันเริ่มงานแล้ว วันครบรอบการทำงานก็เป็นอีกหนึ่งวันที่ไม่ควรมองข้าม เพราะการแสดงออกว่าเราจดจำได้ว่าพนักงานทำงานให้กับองค์กรมานานแค่ไหนแล้วถือเป็นการช่วยสร้างความรู้สึกดี ๆ และทำให้พนักงานรู้สึกมีตัวตนและสำคัญกับองค์กร โดยอาจเลี้ยงอาหารเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือมอบของขวัญให้กับพนักงานที่ทำงานครบรอบ 3 ปี 5 ปี หรือ 10 ปี
การมอบส่วนลดพนักงานนอกจากจะช่วยดึงดูดให้คนนอกที่ชื่นชอบผลิตภัณฑ์ของบริษัทอยากสมัครงานเข้ามาแล้ว ยังช่วยเพิ่มโอกาสให้พนักงานในองค์กรได้สัมผัสกับสินค้าและบริการของบริษัทมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้พนักงานได้ไอเดียใหม่ ๆ มาใช้กับการทำงานเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้อีกด้วย
คนทำงานคงคุ้นเคยกับการลาพักร้อนเพื่อไปเที่ยวหรือหยุดพักผ่อน และการลาป่วยเมื่อเรารู้สึกไม่สบายกันดีอยู่แล้ว แต่ถ้าเราป่วยใจล่ะ ควรใช้วันลาแบบไหน? เมื่อการลาทั้ง 2 ประเภทดูจะไม่ครอบคลุมเรื่องความเครียดและสุขภาพจิตของพนักงานสักเท่าไหร่ บางองค์กรจึงได้เพิ่มวันลาที่เรียกว่า ‘ลาพักใจ (Wellness Leave)’ เข้าไปด้วย เพราะถ้าพนักงานมีอาการเศร้าซึม ป่วยใจ อกหัก สูญเสียคนที่รัก เบิร์นเอาต์ หรือสภาพจิตใจไม่พร้อมทำงานก็ควรลาไปพักเพื่อฮีลใจได้เหมือนกัน
อาการปวดท้องประจำเดือนของแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนอาจรุนแรงถึงขั้นปวดหลัง อ่อนเพลีย คลื่นไส้ และปวดติดต่อกันหลายวันทุกเดือน ทำให้จำนวนวันในการลาป่วยอาจไม่เพียงพอเมื่อรวมกับการใช้สิทธิลาจากอาการไม่สบายอื่น ๆ ดังนั้นจะดีแค่ไหนถ้ามีสวัสดิการลาปวดประจำเดือนให้กับพนักงานทุกคนที่มีประจำเดือน ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง ทรานส์เจนเดอร์ หรือนอนไบนารี โดยในปัจจุบันก็มีหลายประเทศที่มีสวัสดิการลาปวดประจำเดือน เช่น สเปน อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้
ในยุคที่คนหันมาตระหนักถึงความเท่าเทียมและโอบรับความหลากหลายทางเพศ หลายองค์กรจึงเริ่มมีการเพิ่มสวัสดิการลาผ่าตัดแปลงเพศให้กับพนักงานกลุ่ม LGBTQ+ ด้วย โดยสามารถลาเพื่อเข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศได้ ซึ่งบางแห่งให้ลาได้สูงสุดถึง 45 วัน
เมื่อพูดถึงการลาคลอด (Maternity Leave) หลายคนมักยึดโยงสิทธิในการลาเฉพาะกับคนที่เป็น ‘แม่’ เท่านั้นตามความคาดหวังของสังคมที่มองว่าแม่ควรเป็นฝ่ายเลี้ยงดูลูก แต่จริง ๆ แล้วการเลี้ยงลูกไม่ควรถูกผูกเอาไว้ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง คนเป็น ‘พ่อ’ เองก็ควรมีสิทธิที่จะลาไปช่วยดูแลครอบครัวด้วยเหมือนกัน แม้ตอนนี้กฎหมายลาคลอดในประเทศไทยจะอนุญาตให้คุณพ่อลาเลี้ยงดูบุตรได้ 15 วัน แต่ก็อนุญาตแค่ภาคราชการเท่านั้น ไม่รวมภาคเอกชน คงจะดีไม่น้อยเลยถ้าในอนาคต องค์กรต่าง ๆ หันมาให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมและเพิ่มสวัสดิการลาเลี้ยงดูบุตรให้ทั้งคุณแม่และคุณพ่อ
ในวันพิเศษอย่างวันเกิด หลายคนคงอยากทำอะไรตามใจตัวเอง เช่น นอนตื่นสาย อยู่บ้านพักผ่อน ไปเที่ยวหรือจัดปาร์ตี้ฉลองกับคนที่รัก แต่ถ้าวันเกิดดันตรงกับวันทำงานก็คงรู้สึกเซ็งบ้างไม่น้อย ดังนั้นบางบริษัทจึงมีสวัสดิการให้พนักงานสามารถหยุดงานในวันเกิดได้ จะได้ใช้ช่วงเวลาในวันพิเศษของตัวเองในแบบที่ชอบ ไม่ต้องคอยพะวงเรื่องงาน
เมื่ออายุมากขึ้น การตรวจสุขภาพถือเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างน้อยปีละครั้ง แต่ค่าตรวจสุขภาพเองก็ไม่ใช่น้อย ๆ แม้จะอยากตรวจแต่พอเจอราคาก็ทำให้ใครหลาย ๆ คนตัดสินใจพับแพลนเก็บไปก่อน ดังนั้นสวัสดิการตรวจสุขภาพประจำปีจึงเป็นอีกหนึ่งสวัสดิการน่าสนใจที่ช่วยดึงดูดคนรักสุขภาพได้
แม้คนทำงานจะมีประกันสังคมที่สามารถใช้สิทธิรักษาพยาบาลได้อยู่แล้ว แต่ก็ค่อนข้างมีข้อจำกัดในเรื่องของสถานพยาบาล ถ้าไม่ได้เป็นเหตุฉุกเฉินก็ต้องไปใช้สิทธิตามโรงพยาบาลที่เลือกไว้ ดังนั้นการมีสวัสดิการประกันสุขภาพหรือมีวงเงินให้พนักงานสามารถเบิกเงินค่ารักษาพยาบาลจากบริษัทด้วยก็ถือเป็นการช่วยเพิ่มตัวเลือกในการรักษา อำนวยความสะดวกให้กับพนักงานมากขึ้น โดยสามารถเข้ารับการรักษาจากโรงพยาบาลได้หลากหลายแห่ง และในกรณีที่ต้องนอนพักฟื้นก็อาจขอเลือกเป็นห้องพักเดี่ยวได้ ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดตามกรมธรรม์ประกันที่เลือกทำ นอกจากนี้ในบางองค์กรยังมีการทำประกันอุบัติเหตุเพิ่มให้กับพนักงานด้วย ซึ่งก็นับเป็นการเพิ่มความอุ่นใจในการใช้ชีวิตและช่วยพนักงานแบ่งเบาค่าใช้จ่ายกรณีเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น
สำหรับพนักงานออฟฟิศที่ต้องนั่งทำงานติดต่อกันหลายชั่วโมงต่อวัน อาการปวดหลัง เจ็บไหล่ เมื่อยกล้ามเนื้อคงเป็นอาการที่แทบทุกคนคงเคยสัมผัส บางองค์กรเลยมีสวัสดิการอุปกรณ์ทำงานเพื่อสุขภาพให้กับพนักงานด้วยเพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดและป้องกันไม่ให้พนักงานเป็นออฟฟิศซินโดรม โดยให้พนักงานใช้โต๊ะปรับระดับและเก้าอี้ Ergonomic ที่ถูกออกแบบมาให้เข้ากับสรีระร่างกาย จะได้ทำงานได้อย่างสบายกายและแฮปปี้มากขึ้น หรือในกรณีที่บริษัทของเราทำงานกันแบบ Hybrid Working หรือ Work from Anywhere ก็อาจให้พนักงานสามารถยืมอุปกรณ์ทำงานเพื่อสุขภาพกลับไปใช้ทำงานที่บ้านได้ด้วย
นอกจากอุปกรณ์ทำงานเพื่อสุขภาพแล้ว บางองค์กรอาจเพิ่มสวัสดิการนวดและกายภาพเข้ามาช่วยซัปพอร์ตพนักงานด้วยอีกทาง โดยบริษัทอาจจัดหาหมอนวดหรือนักกายภาพบำบัดเข้ามาที่ออฟฟิศทุก ๆ สัปดาห์หรือทุกเดือนเพื่อนวดคลายเส้นให้กับพนักงานที่ปวดเมื่อยตามตัว สอนท่ากายภาพให้กับพนักงานที่เป็นออฟฟิศซินโดรมหรือมีปัญหาปวดรุนแรง แต่ถ้าบริษัทไม่สะดวกจัดหาผู้เชี่ยวชาญเข้ามา ก็อาจมอบ Voucher โปรแกรมนวดให้กับพนักงานแทน หรือจะทำห้องนวดที่มีเก้าอี้นวดเอาไว้ให้พนักงานเข้าไปนั่งผ่อนคลายเวลาทำงานนาน ๆ จนล้าก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ
อีกหนึ่งสวัสดิการเอาใจพนักงานสายเฮลตี้คือสวัสดิการด้านฟิตเนสและการออกกำลังกาย ซึ่งสามารถดีไซน์ออกมาได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการทำห้อง Fitness เอาไว้ในออฟฟิศเพื่อให้พนักงานเข้าไปออกกำลังกายได้ช่วงหลังเลิกงาน มอบสิทธิ์ Membership ฟิตเนสใกล้ ๆ ออฟฟิศให้กับพนักงาน หรือจะช่วยสนับสนุนค่าทำกิจกรรมด้านกีฬาก็ได้ เช่น ช่วยจ่ายค่าเช่าคอร์ทแบดมินตัน สนามฟุตบอล ยิมปีนผาจำลอง ลานโบว์ลิ่ง หรือกีฬาอื่น ๆ ให้ โดยอาจกำหนดเงื่อนไขให้พนักงานรวมกลุ่มกันให้ได้ 5 คนขึ้นไป เพื่อกระตุ้นให้พนักงานใช้เวลาทำกิจกรรมร่วมกันมากขึ้น นอกจากจะช่วยส่งเสริมให้พนักงานมีสุขภาพที่ดีและประหยัดค่าออกกำลังกายแล้ว ยังช่วยในเรื่องของ Team Building ทำให้พนักงานสนิทสนมกันมากขึ้นอีกด้วย
ไม่ใช่แค่สุขภาพกายเท่านั้นที่ต้องใส่ใจ สุขภาพจิตเองก็เช่นกัน ในยุคที่ความกดดันในการใช้ชีวิตเพิ่มมากขึ้นจากการทำงาน การแข่งขันในเรื่องต่าง ๆ และภาวะเศรษฐกิจ หลายคนมีอาการตึงเครียด ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าและวิตกกังวลกันมากขึ้น สวัสดิการด้านสุขภาพจิตจึงเป็นอีกสวัสดิการที่คนทำงานหลาย ๆ คนมองหา โดยองค์กรอาจช่วยซัปพอร์ตพนักงานในด้านนี้ด้วยการจัดหาบริการให้คำปรึกษาและพูดคุยกับจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา ถ้าพนักงานมีปัญหาด้านจิตใจเมื่อไหร่ก็สามารถขอคำแนะนำได้ทันที
ทำงานทั้งวันมันก็ต้องมีง่วงกันบ้าง เมื่อความง่วงหนีกันไม่ได้และวิธีแก้ง่วงที่ดีที่สุดก็คือการนอน ถ้าอย่างนั้นก็ทำ Nap Room หรือห้องงีบหลับให้พนักงานได้เข้าไปนอนพักสายตา Power Nap เลยดีกว่า แทนที่จะทนฝืนทำงานแบบง่วง ๆ ไม่มีสมาธิ สู้พักชาร์จพลังสัก 15-20 นาทีแล้วกลับมาทำงานแบบสดใส กระปรี้กระเปร่าย่อมเป็นผลดีมากกว่าแน่นอน
สำหรับบริษัทที่ไม่อยากให้พนักงานรู้สึกเครียดหรือเป็นกังวลกับการทำงานมากเกินไป การทำห้องสันทนาการหรือห้องคลายเครียดในออฟฟิศที่มีทีวีให้ดู มีเกมคอนโซล บอร์ดเกม โต๊ะปิงปอง หรือโต๊ะพูลให้เล่น ก็เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่น่าสนใจ นอกจากจะช่วยแก้เครียดแล้ว ยังช่วยเพิ่มกิจกรรมให้ทำร่วมกันในออฟฟิศ กระชับความสัมพันธ์ในทีมได้อีกด้วย
ปัจจุบันค่าครองชีพเพิ่มขึ้นมาก โดยเฉพาะค่าข้าว ยิ่งทำงานในย่านเศรษฐกิจยิ่งแล้วใหญ่ จะกินมื้อกลางวันทีไรก็ต้องคอยมองหาร้านที่ราคาเป็นมิตรกับกระเป๋าตังค์ ไม่งั้นอาจเหลือเงินไม่พอถึงสิ้นเดือน ดังนั้นสวัสดิการอาหารกลางวันจึงเป็นสวัสดิการที่ช่วยพนักงานเซฟเงินได้มาก หรือจะทำเป็น Snack Bar ที่มีขนมกินเล่น ชา กาแฟ และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปให้พนักงานกินรองท้องระหว่างวันก็น่าสนใจไม่แพ้กัน
ถ้าการเลือกร้านสำหรับปาร์ตี้หลังเลิกงานเป็นปัญหาชวนปวดหัว ก็แก้ปัญหาด้วยการเปิดบาร์ในออฟฟิศไปเลย จะได้ไม่ต้องวิ่งวุ่นหาร้านและเดินทางฝ่ารถติดไปจองโต๊ะ นั่งชนแก้วกันในออฟฟิศนี่แหละ บริษัทไหนที่มีพนักงานเป็นสายดื่มเยอะ รับรองว่าเห็นสวัสดิการนี้แล้วต้องร้องเฮแน่นอน แต่ถึงแม้จะถูกอกถูกใจสายดื่มแค่ไหน ทางองค์กรก็ต้องไม่ลืมพูดคุยกับพนักงานให้เข้าใจตรงกันว่าดื่มแอลกอฮอล์ได้ แต่ต้องไม่ดื่มจนกระทบกับการทำงาน รวมถึงต้องดูแลและรับผิดชอบตัวเองให้ดี เมาแล้วไม่ขับรถ เพราะถ้าพนักงานดื่มแบบไม่รู้ลิมิตจนขาดสติก็อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุตามมาได้
ถ้าบริษัทไม่มีสวัสดิการวันลาในวันเกิดให้กับพนักงาน แต่ก็ไม่อยากปล่อยให้วันเกิดของพนักงานกลายเป็นวันธรรมดาทั่ว ๆ ไป การมีเค้ก ไอศกรีม หรือเมนูพิเศษมอบให้พนักงานก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยสร้างความประทับใจได้เหมือนกัน
เวลาเลือกงาน คนทำงานย่อมมองหางานที่มีโอกาสได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ และได้พัฒนาตัวเอง องค์กรจึงควรมีสวัสดิการส่งเสริมการเรียนรู้ของพนักงาน โดยอาจจัดโปรแกรมเทรนนิ่งให้กับพนักงานแผนกต่าง ๆ หรือมีงบสนับสนุนให้พนักงานสามารถไปลงคอร์สเรียนเพื่อพัฒนาทักษะตามตำแหน่งงานและความสนใจ นอกจากจะเป็นประโยชน์กับตัวพนักงานแล้ว ยังเป็นประโยชน์กับการพัฒนาองค์กรของเราด้วย
ไม่ว่าใครก็อยากมีเสถียรภาพทางการเงิน แต่ไม่ใช่ทุกคนที่บริหารจัดการการเงินเป็น ดังนั้นถ้าบริษัทมีการจัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการวางแผนการเงินและการลงทุนให้กับพนักงาน เช่น การบริหารเงินสไตล์มนุษย์เงินเดือน การซื้อกองทุนลดหย่อนภาษี การออมเงินเพื่อเกษียณ รวมถึงมีบริการให้คำปรึกษาด้านนี้ก็คงดีไม่น้อย โดยเฉพาะคนทำงานวัย Gen Z ที่เติบโตมาในยุคเศรษฐกิจผันผวนและอยากรีบสร้างความมั่นคงในชีวิต สวัสดิการนี้ก็ถือเป็นอีกสวัสดิการที่น่าจะถูกใจคนกลุ่มนี้
ค่าที่พักและค่าเดินทางถือเป็นรายจ่ายหลักในทุก ๆ เดือนของคนทำงาน ซึ่งการมีสวัสดิการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ย่อมช่วยแบ่งเบาภาระให้พนักงานได้มาก โดยเฉพาะคนที่เช่าบ้านอยู่ในโซนกลางเมืองติดรถไฟฟ้าซึ่งมีราคาแพง หรือคนที่บ้านอยู่ไกล ทำให้ต้องเสียค่าเดินทางเยอะเพราะเดินทางหลายต่อ
สำหรับคนทำงานที่เป็นคุณพ่อคุณแม่ นอกจากค่าที่พัก ค่าเดินทาง ค่ากินอยู่ต่าง ๆ แล้ว ยังอาจมีค่าเล่าเรียนศึกษาของลูกเพิ่มมาอีกด้วย ซึ่งก็เป็นจำนวนเงินที่ไม่ใช่น้อย ๆ เลย แถมยังเป็นค่าใช้จ่ายระยะยาวอีกต่างหาก ดังนั้นถ้าองค์กรมีสวัสดิการทุนการศึกษาให้กับบุตรพนักงานก็ย่อมช่วยลดภาระไปได้มาก
ถ้าบริษัทของเรามีนโยบายให้พนักงานทำงานแบบ Hybrid Working หรือ Work from Anywhere แม้จะช่วยลดค่าเดินทาง แต่ก็อาจเป็นการเพิ่มภาระด้านค่าไฟและค่าอินเทอร์เน็ตให้กับพนักงานด้วยเช่นกัน ทำให้พนักงานบางคนอาจรู้สึกเหมือนโดนผลักภาระมาให้ ดังนั้นถ้าบริษัทมีสวัสดิการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ควบคู่ไปด้วยก็จะช่วยให้พนักงานทำงานได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าไฟที่เพิ่มขึ้นมา
ปัจจุบันการจะซื้อคอนโดหรือบ้านสักหลังต้องคิดแล้วคิดอีก ต้องคำนวณดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย รวมถึงวางแผนการผ่อนอย่างรัดกุม องค์กรที่มีสวัสดิการเงินกู้และสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยเลยกลายเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับพนักงานที่วางแผนจะซื้อบ้านสักหลัง เพราะช่วยเพิ่มโอกาสให้ธนาคารพิจารณาให้สินเชื่อได้ง่ายขึ้น รวมถึงได้รับดอกเบี้ยอัตราพิเศษ และอาจมีสิทธิ์ได้วงเงินกู้สูงอีกด้วย
การจัดงาน ทั้งงานมงคลรื่นเริงอย่างงานแต่งงานหรืองานบวช และงานฌาปนกิจศพย่อมมีค่าใช้จ่าย แม้ราคาจะขึ้นอยู่กับขนาดงานและสถานที่ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าต้นทุนในการจัดงานเหล่านี้ค่อนข้างสูง ซึ่งถ้าบริษัทมีสวัสดิการเงินช่วยเหลือค่าจัดงานก็ถือเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระให้กับพนักงานได้อีกแรง
นอกจากการส่งเสริมการเรียนรู้ของพนักงานแล้ว บางองค์กรยังมีงบพิเศษเพื่อส่งเสริม Productivity ของพนักงานอีกด้วย โดยเป็นงบที่ให้พนักงานนำไปใช้จ่ายหรือซื้อสินค้าเพื่อกระตุ้นการทำงาน ทำให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น ซื้อแอปพลิเคชันจดโน้ต จ่ายค่า Subscription แอปพลิเคชันสตรีมมิ่งเพลงเอาไว้ฟังเวลาทำงานให้ Productive มากขึ้น ซื้อหนังสือ ซื้อคีย์บอร์ด หูฟัง และอุปกรณ์ไอทีต่าง ๆ โดยขอบเขตของการใช้จ่ายก็ขึ้นอยู่กับการกำหนดขององค์กร
ถ้าองค์กรของเรามีสวัสดิการที่ตอบโจทย์ ช่วยยกระดับชีวิตของพนักงานให้ดีขึ้น นอกจากจะช่วยดึงดูดให้คนอยากมาทำงานกับเราแล้ว ยังมีส่วนช่วยในการรักษาพนักงานปัจจุบันให้อยู่กับองค์กรไปนาน ๆ อีกด้วย แต่ที่สำคัญที่สุด เมื่อเรามีสวัสดิการดี ๆ ให้กับพนักงานแล้ว อย่าลืมทำ Employer Branding เพื่อโปรโมตให้คนภายนอกเห็นด้วยว่าองค์กรของเรามีสวัสดิการอะไร มีแนวทางในการดูแลพนักงานยังไง และวัฒนธรรมองค์กรเป็นแบบไหน เพราะถ้าเราไม่สนใจทำ Branding ให้กับองค์กร ต่อให้มีสวัสดิการดีแค่ไหนก็ไม่มีใครรับรู้ และทำให้เราอาจกลายเป็นตัวเลือกที่ถูกแคนดิเดตตัดทิ้งไปได้
JobThai Official Group เพื่อการหางาน หาคน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำงาน
ที่มา:
austinbenefits.com, indeed.com, spendmystipend.com, velocityglobal.com, incentfit.com, timesofindia.indiatimes.com, amarintv.com, bamboohr.com