“ขอให้คำตอบพรุ่งนี้ได้ไหมครับ” เมธีถามออกไป หลังจากที่ปลายสายแจ้งว่าอยากให้เขานั้นไปทำงานที่บริษัท ซึ่งคำตอบรับอย่างใจดีของ HR ก็ทำให้เขารีบกล่าวขอบคุณทันทีก่อนจะกดวางสาย

เมธีเป็นนักศึกษาจบใหม่ที่ไปสัมภาษณ์งานมาแล้วหลายบริษัท และบริษัทที่โทรมาแจ้งผลเมื่อสักครู่ก็เป็นที่แรกที่รับเขาเข้าทำงาน เขาดีใจมากที่ในที่สุดก็มีบริษัทที่เห็นถึงศักยภาพของเขา แต่สิ่งที่รั้งเขาไว้ไม่ให้ตอบตกลงไปทันทีก็คือ บริษัทนี้เป็นบริษัท Startup ซึ่งเขาเองก็ไม่มั่นใจว่าการเริ่มต้นชีวิตการทำงานในองค์กรแบบนี้ มันดีหรือไม่ อย่างไร

สำหรับใครที่กำลังคิดไม่ตกเช่นเดียวกันกับเมธี วันนี้ JobThai ได้รวบรวมข้อดีข้อเสีย ในการทำงานกับ Startup มาให้ลองอ่านดู ซึ่งถ้าคุณคิดว่ามันเหมาะกับตัวคุณก็ยื่นใบสมัครหาพวกเขาได้เลย

ในยุคนี้เราอาจจะเคยได้ยินคำว่า Startup กันหนาหู ซึ่งทุกคนมักจะนึกถึงภาพกลุ่มคนเล็ก ๆ ที่มีไอเดียสุดเจ๋งที่อยากจะเปลี่ยนโลกได้ด้วยกำลังเล็ก ๆ ของตน ถ้าเปรียบกับการเดินเรือ Startup ก็เปรียบเสมือน เรือเล็กที่มีลูกเรือเพียงไม่กี่คน มุ่งหน้าออกจากฝั่งเพื่อไปหาดินแดนใหม่ พร้อมกับความฝันและ Passion ที่เต็มเปี่ยม โดยระหว่างทางพวกเขาต้องเผชิญกับคลื่นลมมากมาย ทุกคนต้องช่วยกันแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าอย่างไม่หยุดหย่อน โดยมีเดิมพันอยู่ที่การได้เป็นคนแรกที่ค้นพบแผ่นดินใหม่ ซึ่งหลายคนอาจจะจมหายไปในท้องทะเลโดยที่ไม่ได้เห็นฝั่งที่ได้วาดฝันไว้ หรือบางคนอาจจะเจอเรือใหญ่ที่ผ่านมาเห็นและช่วยสนับสนุนให้เดินทางไปถึงฝั่งฝันได้สำเร็จ

หลายคนมีความสนใจที่จะสมัครเข้าทำงานกับ Startup เพราะมีความฝันที่ใกล้เคียงกัน ชอบวิธีการคิด หรือต้องการประสบการณ์แปลกใหม่ที่หาไม่ได้จากการทำงานในองค์กรทั่วไป ซึ่งอันที่จริงแล้วในการทำงานกับบริษัท Startup นั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่าจะคิดว่าข้อเสียต่าง ๆ นั้นมันคุ้มค่าที่จะยอมรับ และเสี่ยง เพื่อโอกาสดี ๆ ที่รออยู่หรือไม่เท่านั้นเอง

โอกาส

• โอกาสในการทำงานร่วมกับเจ้าของหรือเพื่อนร่วมงานที่มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ทำงานด้วย Passion และเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น ซึ่งจะทำให้คุณซึมซับหรือได้เรียนรู้กระบวนการคิดของพวกเขาโดยตรง
• โอกาสในการทำงานในบรรยากาศที่ยืดหยุ่น ไม่มีกฎข้อบังคับมากมาย แต่งตัวตามสบายเหมือนอยู่บ้าน มีข้าวให้กิน บางที่อาจจะมี Game Room หรือ โต๊ะปิงปอง ให้เล่นด้วย
• โอกาสได้ทำสิ่งใหม่ที่ท้าทายความสามารถ เพราะคุณอาจจะได้รับมอบหมายงานสำคัญชนิดที่ว่าองค์กรใหญ่ ๆ ไม่มีทางให้คุณทำ ซึ่งถือเป็นโอกาสที่คุณจะได้พัฒนาตัวเองอย่างเข้มข้นเลยทีเดียว
• โอกาสที่จะได้เติบโตในสายอาชีพอย่างรวดเร็วเพราะถ้าไอเดียของบริษัทคุณดังขึ้นมา จากบริษัทเล็ก ๆ ที่ไม่มีใครรู้จักก็อาจกลายเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงชั่วข้ามคืน ซึ่งตำแหน่งของคุณก็อาจจะขยับขึ้นไปอย่างรวดเร็วด้วย
• โอกาสได้เรียนรู้การเป็นเจ้าของกิจการ เพราะคุณจะได้เห็นทุกขั้นตอนในการพัฒนาแนวคิดทางธุรกิจตั้งแต่เริ่มคิดจนสินค้าออกมาเป็นรูปร่าง การคำนวณต้นทุน การทำการตลาด เรียกว่าครบวงจรเลยทีเดียว

สิ่งที่ต้องรับให้ได้

• ชั่วโมงการทำงานที่ไม่สามารถกำหนดได้ บางครั้งอาจจะต้องเลิกดึก หรือนอนที่ทำงานเลย ซึ่งนี่แหละคือเหตุผลที่เขามีข้าวให้คุณกิน
• ความไม่แน่นอนของบริษัท Startup ส่วนใหญ่มักจะไปไม่รอด พูดง่าย ๆ คือมีความเป็นไปได้สูงที่คุณต้องหางานใหม่นั่นเอง จากผลสำรวจ ของ Wall Street Journal 2012 รายงานว่าจากการสำรวจ Startup ทั้งหมด 2,000 บริษัท มีเพียงแค่ 1 ใน 4 ของ Startup เท่านั้นที่อยู่รอดได้
• ทำงานมากกว่าที่คิด คุณอาจจะต้องทำงานหลายอย่างในเวลาเดียวกัน เนื่องจาก Startup มีคนจำนวนน้อย ทำให้อาจจะต้องทำงานเกินหน้าที่หลักของคุณ ซึ่งบางอย่างอาจจะไม่เคยทำมาก่อน แต่คุณก็จะต้องเรียนรู้ที่จะทำมันให้ได้
• ค่าตอบแทนต่ำ สิ่งที่คุณจะได้มากกว่าการทำงานในองค์กรใหญ่คือ ประสบการณ์และความท้าทายในชีวิต แต่ไม่ใช่รายได้แน่ ๆ เว้นเสียแต่ว่าบริษัทที่คุณทำงานจะประสบความสำเร็จในภายหลัง

สรุปง่าย ๆ คือถ้าคุณต้องการทำงานกับกลุ่ม Startup คุณจะต้องมีความยืดหยุ่นสูง พร้อมรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และที่สำคัญที่สุดคุณจะต้องเชื่อมั่นในความคิดและความฝันที่อาจจะฟังดูแปลกและดูยิ่งใหญ่เกินจะคาดคิดของผู้นำของคุณ แต่คุณจะได้ประสบการณ์อันแปลกใหม่ที่หาไม่ได้จากการทำงานในองค์กรใหญ่อย่างแน่นอน

JobThai มี Line แล้วนะคะ

ติดตามสาระความรู้สำหรับคนทำงาน ที่ย่อยง่าย อ่านสนุก และพูดคุยทุกแง่มุมเกี่ยวกับการทำงานอย่างใกล้ชิดที่

ที่มา
inc.com
monster.com
entrepreneur.com
entrepreneur.com
fastcompany.com