ช่วงที่โควิด-19 ยังคงระบาดอยู่แบบนี้ หลาย ๆ บริษัทยังคงมีมาตรการ Work from Home อยู่ ในช่วงแรก ๆ ที่ได้ทำงานที่บ้านมันก็อาจจะน่าตื่นเต้นและชิลแบบสุด ๆ แต่พอต้องทำงานอยู่ที่บ้านนาน ๆ ไม่ได้ออกไปไหน ไม่ได้เจอใคร ก็อาจจะมีความรู้สึกเบื่อหรือมีปัญหาตามมา ไม่ว่าจะเป็น ความกระตือรือร้นในการทำงานหายเกลี้ยง หรือชีวิตทำงานกับชีวิตส่วนตัวซ้อนทับกันซะจนยุ่งเหยิงไปหมด วันนี้ JobThai มี 8 ไอเดียดี ๆ ที่จะทำให้คุณแฮปปี้กับชีวิตการ Work from Home มากขึ้น ถ้าอยากรู้ก็ตามมาเลย
ในเมื่อคุณไม่จำเป็นต้องใช้เวลาช่วงเช้าโหนราวรถไฟฟ้าหรือนั่งติดแหง็กอยู่บนถนนที่แสนรถติดแล้ว ก็นับเป็นโอกาสดีที่จะสร้างรูทีนใหม่ในยามเช้า อย่างการออกกำลังกายในตอนเริ่มต้นวันใหม่ อาจเริ่มจากการเดินเร็ว กระโดดเชือก หรือวิ่งบนลู่ เพื่อให้ตัวคุณมีความกระปรี้กระเปร่าและตื่นตัวตลอดวัน
นอกจากนี้ คุณสามารถเตรียมความพร้อมให้กับตัวเองได้ด้วยการอาบน้ำ ชะล้างความง่วงซึมให้ไหลไปกับน้ำ ให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นขึ้น แต่งตัวดี ๆ สักหน่อย ไม่ต้องถึงขั้นทางการเหมือนเวลาเข้าออฟฟิศก็ได้ แค่แต่งให้พอรู้สึกว่าได้เลือกชุดที่เราชอบและอยากจะใส่ไปตลอดวันก็พอ สำหรับผู้หญิง การแต่งหน้าในยามเช้าแม้จะไม่ได้ออกไปไหน ก็เป็นการสร้างบรรยากาศให้คุณเตรียมพร้อมสำหรับก่อนเวลาเริ่มงานได้
บางครั้งการนั่งทำงานอยู่กับเก้าอี้ตัวเดิม ในมุมเดิม ๆ อาจทำให้คุณรู้สึกห่อเหี่ยวใจ คุณสามารถเปลี่ยนมุมนั่งทำงานได้เพื่อให้จิตใจไม่รู้สึกว่าเราอยู่ที่เดิมจนเบื่อ อาจจะนั่งทำงานตรงสวนหลังบ้านตอนช่วงเช้า รับลมและแดดอ่อน ๆ ยามเช้า ปล่อยให้เสียงนกร้องเบา ๆ ผ่านหูระหว่างนั่งทำงาน พอแดดเริ่มร้อนก็ยก Laptop เข้ามานั่งทำงานในตัวบ้าน
หากที่บ้านของคุณไม่มีโต๊ะสำหรับทำงานโดยเฉพาะ การมีชั้นเก็บของเล็ก ๆ สำหรับเก็บอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำงานอย่าง Laptop, สมุดโน้ต, เครื่องเขียน ฯลฯ เป็นไอเดียที่ดีมาก นอกจากจะทำให้บริเวณที่ทำงานไม่รกแล้ว เมื่อใกล้เวลาเริ่มงานการมาหยิบของจากตรงนี้ก็เหมือนว่าคุณกำลังจะเข้าโหมดพร้อมทำงาน และเมื่อถึงเวลาเลิกงานก็หยิบทุกอย่างใส่กลับคืนลงไปในลิ้นชัก เป็นการสร้างมายด์เซ็ตว่าการทำงานในวันนี้กำลังจะเริ่มต้นหรือสิ้นสุดลงแล้ว และเราสามารถเลิกงานแล้วไปทำสิ่งอื่น ๆ ได้
ถ้าคุณยังคงต้องทำงานที่บ้านไปอีกยาว การลงทุนหาซื้อเก้าอี้ทำงานดี ๆ สักตัวหนึ่งมาไว้ที่บ้าน จะเป็นอะไรที่ดีมาก ๆ มันจะทำให้คุณพร้อมทำงานมากกว่าการนั่งเก้าอี้จากโต๊ะกินข้าวหรือการนั่งจมอยู่กับโซฟาในห้องนั่งเล่น นอกจากการนั่งบนเก้าอี้ทำงานจะช่วยให้คุณรู้สึกพร้อมเคลียร์งานที่คั่งค้างแล้ว ยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย และถ้าคุณรู้สึกเมื่อล้าคุณก็ยืดเหยียดหลังได้เต็มที่
ถึงตัวจะอยู่ที่บ้าน แต่อย่าลืมว่าคุณก็ยังต้องทำงานเหมือนเดิม ถ้าบริษัทยังกำหนดเวลาเข้าออกงานตามเดิมก็อาจจะไม่ค่อยมีปัญหาอะไร แต่ถ้าบริษัทยืดหยุ่นเวลาการทำงานให้ ไม่มีเวลาทำงานที่เป๊ะแบบเวลาที่ไปออฟฟิศ ขอแนะนำให้คุณเริ่มทำงาน พักกลางวัน และเลิกงานตามเวลาเดิม เสมือนว่าตัวคุณทำงานที่ออฟฟิศจริง ๆ เพราะการทำงานภายใต้จำนวนชั่วโมงที่จำกัดอย่างการทำงานที่ออฟฟิศนั้นทำให้เรามีวินัย แบ่งงานได้เป็นส่วน ๆ ว่าเราควรทำงานชิ้นใดให้เสร็จบ้างในวันนั้น ๆ เพื่อเลี่ยงการหอบงานกลับมาทำต่อที่บ้าน แต่เมื่อเข้าสู่การ Work from Home ที่คุณได้รับอิสระในการบริหารเวลาทำงานมากขึ้น บางคนอาจทำงานเพลินจนเลยเวลากินข้าวกลางวัน หรือเลิกงาน 3-4 ทุ่ม ในขณะที่บางคนอาจหยุดทำงานทั้งที่ยังไม่ถึงเวลาเลิกงาน เพราะเห็นว่าทำพรุ่งนี้ก็ยังไม่สาย ทำให้เส้นบาง ๆ ที่เคยแบ่งชีวิตการทำงานกับชีวิตส่วนตัวได้หายวับไป หรืองานไม่เสร็จตามที่ควรจะเป็น
เวลาคุณอยู่ที่ออฟฟิศ คุณสามารถลุกไปดื่มน้ำ ชงกาแฟ เดินไปคุยกับเพื่อนร่วมงาน ซึ่งสิ่งเหล่านั้นถือเป็นการเปลี่ยนอิริยาบถให้คุณได้ขยับตัวในระหว่างวัน แต่พอคุณเปลี่ยนมาทำงานที่บ้านที่ดูเหมือนจะมีทุกอย่างพร้อมจนไม่ต้องเดินไปหยิบอะไรเพิ่มมากมาย ไม่มีคนให้ลุกไปหา อาจทำให้คุณปวดเมื่อยจากการอยู่ในท่าเดิมเป็นเวลานาน หรือปวดตาเพราะหน้าจอคอมพิวเตอร์แบบไม่ได้หยุดพัก คุณจึงควรจะหาเวลาให้ตัวเองได้ลุกออกจากโต๊ะบ้างแล้วหาอะไรทำอย่างเช่น รดน้ำต้นไม้นิด ๆ หน่อย ๆ ให้อาหารปลา ลุกไปเติมน้ำ ชงกาแฟในครัว หรือลุกออกไปดูต้นไม้ที่ระเบียงสักแป๊บ ให้สายตาได้ผ่อนคลาย
ช่วงเวลาหลังเลิกงาน ควรเป็นเวลาที่ได้ทำอะไรที่คุณอยากทำ อาจจะเป็นการเล่นดนตรี โทรคุยกับเพื่อนสนิท ดูซีรีส์ที่ดองไว้นานแล้ว หรือจะเป็นการได้อ่านหนังสือเล่มโปรด เพราะถึงจะเป็นการทำงานที่บ้านแต่คุณก็เหนื่อยมาตลอดทั้งวันแล้ว เวลาหลังเลิกงานที่คุณไม่จำเป็นต้องเสียไปฟรี ๆ กับการเดินทางบนถนนที่แสนรถติดแบบเมื่อก่อน ทำให้คุณมีเวลามากขึ้น ดังนั้นกอบโกยความสุขจากช่วงเวลาส่วนตัวนี้ให้เต็มที่ เป็นการชาร์จพลังเพื่อให้พร้อมสำหรับวันถัดไป
การทำงานที่บ้านไม่ได้หมายความว่าคุณจะใช้พลังในการทำงานน้อยกว่าการทำงานที่ออฟฟิศ บางครั้งคุณอาจต้องทำงานจนหัวปั่น ไม่มีเวลาพักหายใจหายคอ คุยกับคนนู้นคนนี้ผ่านแชทและวิดีโอคอลจนเหนื่อยไปหมด ดังนั้นการจะลาพักร้อนเพื่อพักเหนื่อยและฮีลจิตใจตัวเองก็ไม่เสียหาย งานที่ดีมาจากพลังใจที่พร้อม ลางานสักวัน ไม่ตอบอีเมลงาน และมีความสุขกับวันช้า ๆ วันหนึ่งของคุณ ก็ทำให้พลังใจและพลังกายของคุณกลับมาได้
วินาทีนี้เราทุกคนก็ยังคาดเดาไม่ได้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะดีขึ้นเมื่อไหร่ ไม่มีใครบอกได้ว่าการ Work from Home จะยังคงมีไปจนถึงตอนไหน ดังนั้นการปรับตัวรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นก็จะช่วยสร้างความสมดุลให้กับชีวิตการทำงานของคุณได้ ถ้าคุณชอบไอเดียไหนเป็นพิเศษก็สามารถนำไปปรับใช้กันได้เต็มที่เลย แล้วคุณอาจพบว่าชีวิตทำงานที่บ้านของคุณแฮปปี้ขึ้นก็ได้
สมัครสมาชิกกับ JobThai เลือกงานที่ใช่ ในแบบที่คุณต้องการ ได้ที่นี่!
|
|
|
JobThai Official Group |
Public group · 200,000 members |
|
|
|
ที่มา:
mindbodygreen.com
moneyduck.com
careervisathailand.com