- ตั้งเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง วัดผลได้ และจินตนาการว่าเราบรรลุเป้าหมายเรียบร้อยแล้ว จะช่วยทำให้สมองจดจำภาพความสำเร็จเหล่านั้นเอาไว้
- บอกเป้าหมายของเราให้คนอื่นรู้ เพื่อที่พวกเขาจะช่วยเหลือคุณ หรือมองหาคนที่มีเป้าหมายเดียวกัน เพื่อแชร์ความรู้หรือประสบการณ์ร่วมกัน รวมทั้งอาจสร้างการแข่งขันขึ้นเพื่อสร้างแรงกระตุ้นที่นำไปสู่ความสำเร็จ
- เริ่มวางแผนการและตั้งกำหนดเวลาที่แน่นอน เพื่อที่เราจะได้มีแนวทางในการปฏิบัติ รวมถึงสามารถตรวจเช็กได้เมื่อถึงเวลาที่ตั้งไว้
- ลงมือทำจริงและทบทวนแนวทางอยู่เสมอ ให้รางวัลตัวเองบ้างเมื่อสามารถทำเป้าหมายเล็ก ๆ ได้สำเร็จ
|
|
JobThai Mobile Application หางานง่าย ได้งานที่ใช่
|
|
"ปีนี้เราจะทำ…ให้ได้"
ประโยคเติมคำที่ทุกคนสามารถใส่อะไรลงไปก็ได้ แต่จะมีสักกี่คนที่ทำสิ่งนั้นได้สำเร็จ หลายคนตั้งใจว่าเมื่อขึ้นปีใหม่แล้วต้องตั้งเป้าหมายอะไรบางอย่างให้กับชีวิต แต่เมื่อเจอปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ก็เลือกที่จะลืมมันไป เพราะการตั้งเป้าหมายนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายถ้าไม่มีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน และที่สำคัญเราไม่จำเป็นต้องรอปีใหม่แล้วค่อยมาตั้งเป้าหมาย แต่สามารถเริ่มต้นใหม่ได้ทุกเวลา ดังนั้น JobThai จึงมีวิธีการที่จะช่วยให้คุณตั้งเป้าหมายแล้วทำมันให้สำเร็จมาฝาก
เป้าหมายต้องชัดและวัดผลได้
การตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน มีความเฉพาะเจาะจง และวัดผลได้ จะช่วยทำให้เราเข้าใจว่ามีแนวโน้มในการทำเป้าหมายนั้นสำเร็จหรือไม่ การตั้งเป้าหมายที่ดีคือการสร้างเป้าหมายที่ให้คุณค่ากับชีวิตของเรา ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันให้สามารถทำตามเป้าหมายได้อย่างต่อเนื่อง
ตัวอย่างการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและวัดผลได้ เช่น การตั้งใจลดน้ำหนัก 10 กิโลกรัม ใน 2 เดือน หรือ ตั้งใจจะเพิ่มยอดขายขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์ภายในสิ้นปี เป็นการตั้งเป้าที่ให้คุณค่ากับชีวิตแถมยังมีตัวเลขสำหรับการวัดผลที่ระบุไว้แน่นอน ซึ่งสองสิ่งนี้จะช่วยขับเคลื่อนเราให้ทำอย่างต่อเนื่องนั่นเอง
จินตนาการตัวเองตอนบรรลุเป้าหมาย
การจินตนาการว่าเราบรรลุเป้าหมายแล้วอาจฟังดูแปลกประหลาดไปสักหน่อย แต่การได้สัมผัสความรู้สึกของความสำเร็จจะทำให้สมองจดจำภาพนั้นเอาไว้ซึ่งอารมณ์เหล่านี้จะส่งผลต่อจิตใต้สำนึกของเราโดยตรง สิ่งที่เราคิดไม่ถึงคือ เมื่อสมองเราจดจ่ออยู่กับเรื่องอะไรมาก ๆ มันจะเริ่มดึงดูดสิ่งนั้นเข้ามาหาตัวเราไม่ว่าจะเป็นผู้คน ความคิด หรือทรัพยากร ซึ่งส่งเสริมเป้าหมายของเรา
ลองนึกภาพถึงตัวเองตอนที่น้ำหนักลดลงไป 10 กิโลกรัม และสามารถหยิบเอาชุดเก่าเก็บตัวสวยออกมาปัดฝุ่นแล้วใส่ออกไปโชว์หุ่นได้อีกครั้ง หรือจิตนาการว่ากำลังนั่งอาบแดด ฟังเสียงคลื่นและลมทะเลที่มัลดีฟส์จากการทำยอดขายเพิ่มขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์ได้ก่อนสิ้นปี นี่คือความสำคัญของจินตนาการที่จะช่วยทำให้เราไปถึงเป้าหมายเร็วขึ้นอีกทางหนึ่งด้วย
บอกเป้าหมายของเราให้คนอื่นรู้
บางคนอายเกินกว่าจะบอกเป้าหมายของตัวเองกับคนอื่น เพราะกลัวว่าถ้าตัวเองทำไม่ได้ตามที่เคยพูดเอาไว้จะทำให้รู้สึกขายหน้าอะไรแบบนั้น แต่ข้อดีของการบอกเป้าหมายให้คนอื่นรู้คือพวกเขาเหล่านั้นจะช่วยให้เราไปถึงเป้าหมายได้ง่ายและเร็วขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือในทางปฏิบัติ หรือให้กำลังใจในวันที่เราย่อท้อต่ออุปสรรค แต่ยังไงก็ตามถึงแม้เป้าหมายของเราอาจไม่น่าสนใจหรือไม่มีใครสนับสนุน ก็จงอย่าหมดศรัทธา อย่าหมดกำลังใจ ถึงแม้บางครั้งอาจฟังคนอื่นได้ แต่สุดท้ายก็ต้องอย่าให้คำวิจารณ์ของคนอื่นมาสำคัญกว่าเป้าหมายของตัวเอง
มองหาคนที่มีเป้าหมายเดียวกัน
บางทีการทำอะไรคนเดียวอาจทำให้รู้สึกโดดเดี่ยว ลองมองหาเพื่อนที่มีเป้าหมายเหมือนกันและมีความคิดคล้าย ๆ กัน เริ่มจากการตั้งเป้าหมายและสร้างแผนไปสู่ความสำเร็จนั้นด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการแชร์ความรู้หรือประสบการณ์ เช่น ถ้าอยากลดน้ำหนักให้ได้ 10 กิโลกรัม ภายในสองเดือน เราและเพื่อนก็อาจจะช่วยกันหาวิธีลดน้ำหนักมาแชร์กัน หรือเวลาที่กำลังตามใจปากก็อาจจะมีเพื่อนข้าง ๆ คอยห้ามปรามไว้ทัน
ถ้าจะลองทำเป็นการแข่งขันระหว่างเรากับเพื่อนก็เป็นอีกทางที่น่าสนใจ เพราะจะทำให้มีแรงกระตุ้นอยากชนะและทำสำเร็จ การมีเพื่อนทำอะไรด้วยกันย่อมดีกว่าการทำคนเดียว และที่สำคัญเมื่อบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้แล้ว ความสำเร็จนี้จะยิ่งใหญ่มากขึ้นเพราะมีอีกคนร่วมยินดีไปพร้อมกัน
วางแผน และกำหนดเวลาให้ชัดเจน
เมื่อรู้ว่าอะไรคือเป้าหมายของเราและเห็นภาพตัวเองบรรลุเป้าหมายแล้ว ขั้นตอนสำคัญต่อมาคือการวางแผนที่จะเดินไปสู่เป้าหมาย วิธีการที่ง่ายและช่วยให้เป้าหมายของเราเป็นจริงได้ ก็คือวางแผนจากภาพรวมแล้วค่อยย่อยสิ่งที่ต้องทำออกมาทีละอย่าง จากนั้นทำไปทีละอย่างเพื่อบรรลุไปยังเป้าหมายใหญ่ เหมือนกับการวิ่งเข้า Checkpoint หลาย ๆ ครั้งจนสามารถจบการวิ่งมาราธอนได้
การวางแผนโดยกำหนดเวลาให้ชัดเจน เช่น เราวางแผนจะลดน้ำหนักให้ได้ 15 กิโลภายในสิ้นปี เราก็ต้องเริ่มวางแผนก่อนว่าจะลดด้วยวิธีไหน ยังไงบ้าง แล้วตั้งกำหนดเวลาไว้ว่า ภายใน 1 เดือนแรกจะลดกี่กิโล ภายใน 3 เดือนจะลดอีกกี่กิโล แล้วคอยเช็กอยู่เรื่อย ๆ ว่ามันเป็นไปตามแผนไหม ตั้งปรับแก้ตรงไหนบ้างรึเปล่า
ปฏิบัติจริง ทบทวน และปรับแก้
เมื่อสามารถตั้งเป้าหมายและวางแผนการสู่เป้าหมายเรียบร้อยแล้วก็มาถึงขั้นตอนที่ต้องลงมือปฏิบัติจริง เพราะการลงมือทำคือตัวช่วยเดียวที่ทำให้เราขยับเข้าใกล้เป้าหมายได้ หลายคนยอมแพ้ในขั้นตอนนี้เพราะเป็นขั้นตอนที่ยากที่สุด เนื่องจากต้องลงมือทำจริงและมักเจอกับปัญหาต่าง ๆ นานาที่เข้ามา
อย่าลืมที่จะทบทวนผลจากการปฏิบัติในทุกวัน ทุกสัปดาห์ และทุกเดือน เพราะจะทำให้เราเข้าใจว่ากำลังมุ่งไปถูกทางหรือไม่ ซึ่งหากรู้แล้วว่าสิ่งที่ทำอยู่กำลังผิดทางจะได้ปรับแก้ได้รวดเร็วขึ้นด้วย
เมื่อบรรลุเป้าหมายต้องให้รางวัลตัวเอง
ความภาคภูมิใจในตัวเองเมื่อประสบความสำเร็จบางอย่างเป็นสิ่งที่ดีมาก แต่หากได้รางวัลอย่างการให้ตัวเองออกไปเที่ยว หรือรับประทานอาหารดี ๆ มีประโยชน์สักมื้อเมื่อบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ย่อมมีผลอย่างมากต่อความสำเร็จระยะยาว แต่ต้องระวังเช่นกันว่ารางวัลที่เราให้กับตัวเองจะไม่เป็นผลดีกับเป้าหมาย
หากกำลังตั้งเป้าอ่านหนังสือทุกวันก็ไม่ควรให้รางวัลด้วยการดูซีรีส์โดยกินเวลาพัฒนาตัวเอง หรือกำลังเก็บเงินสำหรับทริปของครอบครัวก็ไม่ควรเอาเงินส่วนนั้นไปซื้อสินค้าลดราคาจนหมด สิ่งสำคัญของการให้รางวัลกับตัวเองก็คือต้องตอบได้ว่ารางวัลนั้นสอดคล้องกับเป้าหมายที่เรากำลังทำอยู่หรือไม่
การจะบรรลุเป้าหมายในชีวิตนั้นไม่ได้ยากจนเกินไปหากเรามีความตั้งใจ ลงมือทำอย่างเป็นระบบตามแบบแผนที่วางไว้ ลองตั้งเป้าหมายขึ้นมาสักอย่างหนึ่ง อาจไม่ต้องเป็นเป้าหมายใหญ่แบบที่ใครต้องตื่นเต้นก็ได้ เพียงแค่เราเข้าใจว่าเป้าหมายนี้จะส่งผลดีต่อชีวิตก็เพียงพอแล้ว
ถ้าเป้าหมายของคุณคือหางานใหม่ ฝากประวัติกับเราเพื่อเพิ่มโอกาสได้งาน ที่นี่
|
|
JobThai Official Group เพื่อการหางาน หาคน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำงาน
ที่มา :
thebalancesmb
thebalancecareers
spanishtomove