ปัจจัยที่ทำให้คน Gen Z อยากเปลี่ยนงาน และปัจจัยที่คนกลุ่มนี้ให้ความสำคัญ

12/03/19   |   21.9k   |  

โลกของการทำงานในทุกวันนี้เต็มไปด้วยความหลากหลาย ในองค์กรขนาดใหญ่อาจมีคนหลาย Generations เข้ามาทำงานร่วมกัน บางแห่งก็มีตั้งแต่ผู้บริหารใหญ่รุ่น Baby Boomers ไปจนถึง Gen Y ที่มีสัดส่วนมากที่สุด กลายเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนบริษัทไปข้างหน้า แต่ปัจจุบันคลื่นลูกล่าสุดกำลังทยอยเข้าสู่โลกการทำงาน ก็คือคน Gen Z ที่มีอายุตั้งแต่ 9 - 22 ปี  ซึ่งหมายความว่า Gen Z ที่อายุมากที่สุดทยอยเรียนจนจบในระดับปริญญาตรีและกำลังมองหาที่ทำงาน ถ้าองค์กรของคุณยินดีต้อนรับเด็กจบใหม่เข้าทำงาน ก็หมายความว่าคุณได้ต้อนรับ Gen Z มาเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรแล้ว 

 

ซึ่ง Gen Z นี้เรียกได้ว่าเป็น Digital Native เป็นเจเนอเรชั่นที่เติบโตมาในสิ่งแวดล้อมที่รายล้อมไปด้วยเทคโนโลยี ทำให้คนรุ่นนี้มีทั้งความรู้และความสามารถด้านนี้เป็นอย่างมากเพราะได้คลุกคลีมาตั้งแต่เด็ก มีโลกทัศน์ที่กว้างเพราะการติดต่อสื่อสาร แถมการเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ จากทั่วโลกก็ทำได้ง่าย และด้วยความที่พวกเขาเติบโตมาในยุคที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและตลอดเวลา ทำให้คน Gen Z นี้เรียนรู้เรื่องต่าง ๆ ได้เร็ว และปรับตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้ดีอีกด้วย

 

แม้ว่าตอนนี้องค์กรของคุณอาจจะยังไม่ได้ต้อนรับคน Gen Z แต่ในอนาคตอันใกล้พวกเขาจะเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่แน่นอน เพื่อเป็นการเตรียมตัวสำหรับการดูแลคน Gen นี้ JobThai จะพาไปเข้าใจคน Gen Z ว่าพวกเขามีพฤติกรรมและความคิดอะไรบ้างเกี่ยวกับการทำงาน

 

 

  • ไม่พอใจกับเงินเดือน เป็นเหตุผลสำคัญอันดับแรกที่คน Gen Z มองเรื่องการเปลี่ยนงาน

  • สวัสดิการไม่ตรงใจ เพราะคน Gen Z มองเรื่องการทำงานให้เข้ากับวิถีชีวิตตัวเองด้วยเช่นกัน

  • ทำงานไปก็ไม่ก้าวหน้า ไม่มีใครที่อยากทนอยู่กับงานเดิม ตำแหน่งเดิมนาน ๆ แน่นอน และคน Gen Z ก็มองเรื่องความก้าวหน้าเหมือนกับ Gen อื่นเช่นกัน

  • โบนัสได้ไม่เท่าที่หวัง เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หลาย ๆ คนถอดใจจากการทำงานและอยากเปลี่ยนงาน

  • วัฒนธรรมและสภาพแวดล้อมขององค์กรไม่ตอบโจทย์ชีวิต เพราะเราใช้เวลาในที่ทำงานมากกว่าอยู่บ้านในแต่ละวัน ถ้าวัฒนธรรมองค์กรและสภาพแวดล้อมไม่ตอบโจทย์แล้วก็ยากที่จะทำงานต่อได้

 

 

จาก ผลการสำรวจพฤติกรรมและความคิดของเหล่ามนุษย์เงินเดือนเกี่ยวกับสถานการณ์การทำงานในปัจจุบัน ของ JobThai ที่สำรวจกลุ่มตัวอย่างคนทำงานทั่วประเทศกว่า 1,800 คน พบว่ามีกลุ่มคนที่เรียกว่าเป็น Active Job Seekers หรือเป็นกลุ่มคนที่อยากเปลี่ยนงาน คิดเป็น 59.26% เมื่อเจาะลึกลงไปในคนกลุ่มนี้พบว่า Gen Z เป็นกลุ่มคนที่มีแผนจะเปลี่ยนงานภายในระยะเวลาอันใกล้มากที่สุดคือ 1 - 3 เดือน คิดเป็น 31.82% ในขณะที่คนทำงาน Gen X และ Gen Y มีทิศทางไปในแนวเดียวกันคือมีแผนจะเปลี่ยนงานแต่ยังไม่มีกำหนดชัดเจนว่าต้องเปลี่ยนงานเมื่อไหร่

 

 

ปัจจัยที่ทำให้คน Gen Z อยากเปลี่ยนงานในระยะเวลาอันใกล้ ได้แก่

 

ไม่พอใจกับเงินเดือนที่ได้อยู่

ไม่ใช่เฉพาะแค่คน Gen Z หรอกที่ไม่พอใจกับเงินเดือนที่ได้ จากผลสำรวจของ JobThai ก็ตอกย้ำว่าไม่ว่าคน Gen ไหน ๆ ต่างก็อยากได้รายได้ที่มากขึ้นด้วยกันทั้งนั้น ซึ่งผลสำรวจนี้พบว่าความไม่พอใจเงินเดือนที่ได้อยู่นี่แหละที่ส่งผลให้คน Gen Z ต้องการจะเปลี่ยนงานถึง 66.67% เลยทีเดียว

 

สวัสดิการไม่ตรงใจ

โลกการทำงานยุคใหม่ นอกจากเงินเดือนแล้วสวัสดิการก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้หลายคนตัดสินใจเปลี่ยนงานโดยเฉพาะคน Gen Z เพราะคนกลุ่มนี้มีความเชื่อมั่นและชื่นชอบการปรับสิ่งต่าง ๆ ให้เข้ากับวิถีชีวิตตัวเอง หากบริษัทมีสวัสดิการ เช่น เวลาทำงานที่ยืดหยุ่น, ทำงานจากที่บ้านได้ หรือมีคอร์สส่งเสริมการเรียนรู้ นี่ก็จะเป็นส่วนช่วยให้คน Gen Z อยู่กับบริษัทนานขึ้น เพราะคนกลุ่มนี้เลือกจะเปลี่ยนงานเพราะไม่พอใจสวัสดิการถึง 56.06%

 

ทำงานไปก็ไม่ก้าวหน้า

ใครบ้างจะอยากนั่งทำงานเดิม ๆ ในตำแหน่งเดิมไปตลอดชีวิต นอกจากจะไม่ได้ก้าวหน้าไปไหนแล้ว ยังไม่ท้าทายกับความสามารถที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย คน Gen นี้ถ้าเขามองว่างานที่ทำอยู่ไม่มีความก้าวหน้าและไม่ท้าทาย คน Gen Z ก็เลือกที่จะเปลี่ยนงานเหมือนกัน ซึ่งผลสำรวจพบว่า Gen Z ให้ความสำคัญกับตำแหน่งที่ก้าวหน้าขึ้นกว่า 53.03%

 

โบนัสได้ไม่เท่าที่หวัง 

เรื่องของโบนัสเองก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ทำให้ Gen Z ถอดใจจากองค์กรเดิม แล้วเลือกที่จะเปลี่ยนงานใหม่ โดยผลสำรวจพบว่าคน Gen นี้อยากจะเปลี่ยนงานใหม่ด้วยสาเหตุว่าไม่พอใจเรื่องโบนัสถึง 39.39%

 

วัฒนธรรมและสภาพแวดล้อมขององค์กรไม่ตอบโจทย์ชีวิต

เราใช้ชีวิตในที่ทำงานไม่ต่ำกว่าวันละ 8 ชั่วโมง จำนวน 5 วันต่อสัปดาห์ เรียกได้ว่าเราเห็นหน้าคนในที่ทำงานเยอะกว่าคนในครอบครัวของเราเองด้วยซ้ำ ดังนั้นถ้าสภาพแวดล้อมในองค์กร รวมถึงวัฒนธรรมของทีมไม่ตอบโจทย์การใช้ชีวิต ทำให้คน GenZ อึดอัด คน Gen นี้จำนวน 24.24% ก็อยากที่จะหางานที่ใหม่ทำทันที 

 

 

แล้ว Gen Z คาดหวังอะไรจากที่ทำงานใหม่


นอกจากปัจจัยที่ทำให้คน Gen Z อยากเปลี่ยนงานแล้ว แบบสำรวจพฤติกรรมและความคิดของเหล่ามนุษย์เงินเดือนเกี่ยวกับสถานการณ์การทำงานในปัจจุบันของ JobThai นี้ ยังได้สอบถามถึงเรื่องความคาดหวังหลังจากเปลี่ยนงานใหม่อีกด้วย 

 

ในกลุ่ม Gen Z เองพบว่า 5 อันดับที่พวกเขาคาดหวังหลังจากเปลี่ยนงาน อันดับ 1 คือต้องการเงินเดือนสูงขึ้น 75.76%  มีเรื่องของลักษณะงานที่ตรงกับทักษะและความสามารถของตัวเองตามมาในอันดับที่ 2 อยู่ที่ 65.15% ในอันดับที่ 3 พวกเขาคาดหวังว่าเมื่อย้ายงานที่ใหม่แล้วตำแหน่งงานจะก้าวหน้าขึ้น จำนวน 62.12% อันดับที่ 4 คือสวัสดิการที่ดีขึ้นกว่าเดิม 59.09% องค์กรใหม่มีความมั่นคงและมีโอกาสที่จะได้เรียนรู้งานมากขึ้น อยู่ในอันดับ 5 ร่วมกันที่ 46.97%

 

แม้ว่าคนกลุ่ม Gen Z จะเพิ่งเริ่มเข้าสู่โลกของการทำงานไม่นานนัก แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าในอนาคตอันใกล้ที่เทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในโลกของการทำงาน ความเชี่ยวชาญของคนกลุ่มนี้จะกลายเป็นกำลังหลักสำหรับการขับเคลื่อนองค์กรในหลายธุรกิจ ผลการสำรวจพฤติกรรมและความคิดของเหล่ามนุษย์เงินเดือนเกี่ยวกับสถานการณ์การทำงานในปัจจุบันของ JobThai นี้จะสามารถนำไปประยุกต์ใช้สำหรับการวางแผนในการบริหารและดูแลพนักงานสำหรับองค์กร เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการก้าวเข้าสู่องค์กรของ Gen Z ได้ดีมากยิ่งขึ้น 

 

JobThai มี Line แล้วนะคะ

ติดตามสาระความรู้สำหรับคนทำงาน ที่ย่อยง่าย อ่านสนุก และพูดคุยทุกแง่มุมเกี่ยวกับการทำงานอย่างใกล้ชิดที่

เพิ่มเพื่อน

tags : คนทำงาน, hr, gen z, เปลี่ยนงาน, ทรัพยากรบุคคล, human resource, คนทำงาน, เคล็ดลับการทำงาน, รักษาพนักงานให้อยู่กับองค์กร, ความสุขในการทำงาน, เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ, ทำงานให้มีความสุข, แนวคิดในการทำงาน



ติดตามข่าวสารและเรื่องราวดีๆ ทาง Email

ขอบคุณสำหรับการติดตาม