สุชาติกดปิดหน้าจอโทรศัพท์มือถือลงหลังจากอ่านเรื่องราวของ Tucker Hughes จบพร้อมกับนึกชื่นชมถึงความสามารถของเขาที่พาตัวเองประสบความสำเร็จ และกลายเป็นเศรษฐีได้แม้จะอยู่ในวัยเพียงแค่ 20 ต้น ๆ เท่านั้น
Tucker Hughes เป็นนักธุรกิจหนุ่มผู้มีตำแหน่ง Managing Director ของ Hughes Marino บริษัทตัวแทนในการลงทุนและให้คำปรึกษาในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา เขาได้เป็นผู้บริหารด้วยวัย 22 ปี หลังจบปริญญาโทจาก University of San Diego เมื่อตอนอายุเพียง 20 ปี วันนี้ JobThai จึงจะพาไปดูว่าเขามีแนวความคิดอย่างไร ที่ทำให้ประสบความสำเร็จและกลายมาเป็นเศรษฐีอย่างในทุกวันนี้
- อย่าใช้อายุเป็นข้ออ้างของการไม่ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่หรืออยู่ในสถานการณ์ไหน ทุกคนก็สามารถประสบความสำเร็จได้หากพยายามไขว่คว้า
- ลงทุนกับตัวเอง ทำในสิ่งที่จะเป็นประโยชน์กับตัวเองในอนาคต ทั้งในด้านการพัฒนาทักษะ ความสามารถ รวมทั้งความรู้ในด้านอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวกับสายงานของตัวเอง
- เก็บพลังสมองไว้ใช้กับเรื่องสำคัญ อย่ามัวเสียเวลาใช้สมองไปกับการคิดเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ มากเกินไป
- สังเกตว่าเรื่องอะไรที่อาจจะกลายเป็นปัญหากับเราในอนาคต เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันสมาธิและจิตใจของเรา ไม่ให้ปัญหาเหล่านั้นมารบกวนการทำงานของเรา
- วางแผนอนาคตของตัวเองให้ชัดเจน และเตือนตัวเองด้วยการทบทวนเป้าหมายนั้นเป็นประจำ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจไปสู่ความสำเร็จ
- วางแผน และสร้างระบบในการทำงานต่าง ๆ ให้เรียบร้อย เพื่อให้ทำงานได้ง่ายขึ้น และลดโอกาสการเผชิญกับความยุ่งเหยิ่งต่าง ๆ
- เชื่อมั่นในตัวเอง และไม่หยุดที่จะเรียนรู้ และแก้ไขปัญหา แม้จะต้องเจอกับอุปสรรคต่าง ๆ
|
|
1. อายุเป็นเพียงตัวเลข
เมื่อใดก็ตามที่คุณใช้ตัวเลขของอายุมาเป็นข้ออ้างในการที่จะไม่ประสบความสำเร็จ เช่น อ้างว่าอายุน้อยเกินไปยังไม่มีประสบการณ์ หรืออ้างว่าตัวเองแก่เกินไปหมดไฟในการตามหาฝัน นั่นแหละคือช่วงเวลาที่คุณจะพบกับความล้มเหลวอย่างแท้จริง ถ้าคุณมีคุณสมบัติมากพอ จะอายุเท่าไหร่หรืออยู่ในสถานการณ์ไหน คุณก็จะไขว่คว้าหาความสำเร็จได้ นอกจากนี้สิ่งที่คนอื่น ๆ อยากเห็นจากคุณคือความขยัน ความฉลาด และการอุทิศตนต่อสิ่งที่ทำ เมื่อคุณมีไฟและมีพลังในการขับเคลื่อนชีวิต คนอื่น ๆ ที่อยู่ภายใต้การนำของคุณก็จะเห็นดีเห็นงามด้วยเอง
2. ลงทุนกับตัวเอง
การลงทุนของ Tucker Hughes คือการลงทุนเพื่ออนาคตของตัวเอง เขาแนะนำว่าเราควรจะทำในสิ่งที่จะกลายเป็นประโยชน์กับเราในวันข้างหน้าทั้งในด้านทักษะ ความสามารถ หรือโอกาส หาเวลาอ่านหนังสือดี ๆ วันละ 30 นาที ไม่ปล่อยเวลาให้เสียไปโดยเปล่าประโยชน์ด้วยการฟัง Podcast ที่ให้ความรู้ขณะเดินทางไปไหนมาไหน การรู้ในสาขาอาชีพที่คุณทำงานอาจไม่เพียงพออีกต่อไป คนเราจะประสบความสำเร็จได้ต้องมีความเก่งรอบด้าน และรอบรู้ในเรื่องราวต่าง ๆ รอบตัวด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเงิน การเมือง ข่าวสาร ทั่วไป หรือแม้แต่เรื่องกีฬา หมั่นแสวงหาและให้ความสำคัญกับองค์ความรู้เหล่านี้ให้เหมือนกับที่คุณให้ความสำคัญกับอากาศที่เราหายใจเข้าไป
3. หลีกเลี่ยงเรื่องเปลืองสมอง
ความสนใจของเรามีผลโดยตรงต่อความสามารถในการตัดสินใจ ไม่ว่าคุณจะเก่งมาจากไหนแต่ถ้าสมองคุณต้องเจอหลายเรื่องให้ต้องตัดสินใจ ท้ายที่สุดสมองของคุณก็จะล้าและช่วงเวลานั้นเองความสามารถในการตัดสินใจของคุณจะลดต่ำลงอย่างไม่ต้องสงสัย เก็บพลังสมองของคุณไว้ใช้กับเรื่องที่สำคัญ อย่ามัวเสียเวลากับเรื่องจุกจิก หรือกิจกรรมประจำวันที่สามารถวางแผนล่วงหน้าได้ง่าย ๆ
4. สร้างภูมิคุ้มกันจิตใจให้เข้มแข็ง
ความแตกต่างสำคัญระหว่างการทำอะไรครึ่ง ๆ กลาง ๆ กับการประสบความสำเร็จคือ ความสามารถในการสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ถูกรบกวนจากปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ถ้าคุณเพิ่งทำงานได้ไม่นาน คุณคงสู้คนเก่ง ๆ ที่เคยผ่านโครงการธุรกิจใหญ่ยักษ์มานักต่อนักไม่ได้เพราะพวกเขาคุ้นเคยดีกับการทำงานอย่างเป็นระบบภายใต้สถานการณ์ที่กดดันในโลกของธุรกิจที่ซับซ้อน
เริ่มเสริมสร้างภูมิคุ้มกันสมาธิและจิตใจของคุณ ด้วยการสังเกตว่าเรื่องไหนที่จะกลายเป็นปัญหาและเบี่ยงเบนความสนใจของคุณ ค้นหามันให้เจอก่อนที่มันจะกลายเป็นปัญหา เท่านี้คุณก็จะมีสมาธิในการทำงานได้ยาวนานขึ้นและมีเวลาใส่ใจกับงานที่อยู่ตรงหน้าได้อย่างเต็มที่
5. ฝันให้ไกล ไปให้ถึง
หากคุณยังไม่มีแผนระยะยาว ไม่ว่าจะเป็น 1 ปี 5 ปี หรือ 10 ปี ให้เริ่มเขียนแผนอนาคตของคุณตั้งแต่วันนี้ ลงรายละเอียดให้ชัดไปเลยว่าคุณจะทำอย่างไรให้คุณสามารถบรรลุเป้าหมายรายวันที่เป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายระยะยาวได้ อ่านเป้าหมายเพื่อเตือนตัวเองในทุก ๆ เช้า หรือลองถามตัวเองเล่น ๆ ว่า จะเร่งให้แผน10 ปีนั้นประสบความสำเร็จใน1 ปีได้อย่างไร
การทำเช่นนี้จะเป็นการสร้างแรงบันดาลใจเพื่อไปสู่ความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ถ้าคุณกังวลว่าจะประสบความสำเร็จช้า ก็ให้ประเมินดูใหม่ว่าเป้าหมายเล็ก ๆ ในแต่ละวัน นั้นทำให้การไปถึงเป้าหมายที่ใหญ่กว่าในระยะยาวช้าลงหรือเปล่า หมั่นเตือนตัวเองอยู่เสมอและพยายามผลักดันไปจนถึงเป้าหมายและทลายข้อจำกัดของตัวคุณเองให้ได้
6. มีระบบและระเบียบในการใช้ชีวิต
วางแผนและลงมือทำตามแผนในทุก ๆ เรื่องของชีวิตอย่างเป็นขั้นเป็นตอน วิธีเริ่มต้นง่าย ๆ คือ การสร้างรายละเอียดเนื้อหาของแผนนั้นเป็นหลาย ๆ ขั้นตอน ที่ต่อเนื่องกันตามลำดับ และติดตามผลของแผนการนั้นอย่างต่อเนื่อง วิธีการที่ว่านี้สามารถนำไปใช้ได้กับการทำทุกอย่างในชีวิต คุณอาจจะสร้างระบบในการทำงานที่มีประสิทธิภาพ หรือระเบียบการบริหารงานที่ทำให้คนอื่นทำตามได้อย่างง่ายได้ คนเราถ้ามีระบบและระเบียบ คุณจะไม่เจอกับความยุ่งเหยิงในชีวิต กลับกันถ้าคุณไม่มีสิ่งเหล่านี้ คุณอาจจะต้องเตรียมรับมือกับปัญหาที่อาจจะตามมานิสัยที่ไร้ระเบียบของคุณเอง
7. เชื่อมั่นในตัวของตัวเอง
แทบทุกคนที่ยังไม่ประสบความสำเร็จ มักจะมีข้ออ้างต่าง ๆ นานา แต่เมื่อมองดูให้ดี ข้ออ้างนั้นบางทีก็มาจากตัวของเราเอง คนที่ประสบความสำเร็จมักจะมีเรื่องราวที่พวกเขาสามารถเอาชนะอุปสรรคได้ด้วยไอเดียการแก้ปัญหาที่สร้างสรรค์ เมื่อได้ก็ตามที่คุณตระหนักได้ว่าไม่มีสิ่งใดหยุดคุณจากการเรียนรู้ที่จะแก้ไขปัญหาที่ยากที่สุดได้ นั่นแสดงว่าคุณเริ่มมาถูกทางแล้ว
Tucker Hughes ทิ้งท้ายว่า ถ้ายังไม่รู้ว่าจะเริ่มตรงไหน ให้เริ่มต้นด้วยการตั้งใจทำตามเป้าหมายในแต่ละวันก่อน สิ่งนี้เองที่ทำให้เขาสามารถสร้างพื้นฐานที่แข็งแรงก่อนการพัฒนาไปสู่ความสำเร็จ และพัฒนาความเข้มแข็งของจิตใจได้พร้อม ๆ กัน และให้จำไว้ว่าความสำเร็จไม่ใช่แค่เรื่องฉาบฉวย ถ้าคุณอยากประสบความสำเร็จ คุณก็ต้องลงมือทำเองในทุก ๆ วัน และทำอย่างต่อเนื่องไปตลอดชีวิตของคุณ
JobThai มี Line แล้วนะคะ
ติดตามสาระความรู้สำหรับคนทำงาน ที่ย่อยง่าย อ่านสนุก และพูดคุยทุกแง่มุมเกี่ยวกับการทำงานอย่างใกล้ชิดที่
ที่มา:
entrepreneur.com
linkedin.com
hughesmarino.com