-
ตั้งเป้าหมายที่ยากและท้าทายเพื่อให้คนในทีมเกิดความต้องการที่จะบรรลุผลสำเร็จ ซึ่งอาจสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้นในทีมได้ด้วย
-
ตั้งเป้าหมายด้วยหลัก SMART คือ ชัดเจน วัดผลได้ เกิดขึ้นได้จริง เกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์หลักขององค์กรและมีการกำหนดช่วงเวลาที่แน่นอน
-
เมื่อมีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้วก็ต้องสื่อสารให้คนในทีมรับรู้ รวมทั้งมีการวางแผนและกำหนดหน้าที่รับผิดชอบของแต่ละคนเพื่อให้งานบรรลุตามเป้าหมาย
-
แม้ระหว่างทางไปยังเป้าหมายอาจจะมีอุปสรรค แต่ทุกคนในทีมต้องยึดมั่นในเป้าหมาย รวมถึงมีการประเมินผลการทำงานเป็นระยะ ๆ เพื่อให้ทุกคนเห็นถึงความก้าวหน้าและปัญหาต่าง ๆ ด้วย
-
หากประสบความสำเร็จแล้วก็อย่าลืมรักษามาตรฐานเอาไว้ และตั้งเป้าหมายใหม่ ๆ ด้วย
|
|
ทีมที่ใช่หาได้ง่าย ๆ ที่ JobThai Mobile Application โหลดเลย
|
|
“เป้าหมาย” หัวใจสำคัญที่จะทำให้การทำงานของทีมสามารถมุ่งเป้าไปในทิศทางเดียวกัน แต่การที่หัวหน้าบอกเพียงเป้าหมายให้ทุกคนฟังคงไม่พอ อาจจะต้องคอยบอกวิธีที่แต่ละคนจะสามารถไปหาเป้าหมายนั้นได้ด้วย เพราะแต่ละคนก็มีจุดเด่นจุดด้อยและประสบการณ์ที่แตกต่างกัน
JobThai เลยรวบรวม 5 กฎเหล็กที่ใช้ในการตั้งเป้าหมายให้กับทีมมาให้ สำหรับคนที่กำลังตั้งเป้าหมายให้กับทีม แผนก หรือแม้แต่องค์กร ซึ่งไม่ว่าหัวหน้ามือใหม่หรือหัวหน้าที่มีประสบการณ์มานานแล้วก็สามารถทำได้แน่นอน
1. ตั้งเป้าหมายที่สร้างแรงกระตุ้น
สร้างเป้าหมายที่ดีและสามารถกระตุ้นสมาชิกในทีมได้เสมอ หากเป้าหมายของคุณไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ แต่แฝงไปด้วยความสนุก ความท้าทาย ก็จะทำให้สมาชิกในทีมสามารถนำไปพัฒนาตัวเองได้ด้วย โดยคุณสามารถแบ่งเป้าหมายออกมาเป็น 2 ประเภท
-
เป้าหมายที่มีความท้าทายสูง เป้าหมายนี้มักจะเกิดในช่วงเวลาสั้น ๆ อย่างการทดลองอะไรใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยทำ หรือปัญหาที่ต้องการความร่วมมือของทุกคนในทีมเร่งแก้ไข
-
เป้าหมายที่ยั่งยืน เป้าหมายนี้จะอยู่กับองค์กรมาตั้งแต่เริ่ม เพื่อรักษาคุณภาพชิ้นงาน คุณค่าขององค์กร และรักษามาตรฐาน
2. ตั้งเป้าหมายด้วยหลักการ SMART
หลักการ SMART เป็นพื้นฐานสำคัญที่ใช้ในการตั้งเป้าหมาย ซึ่งประกอบไปด้วย
-
Specific: เป้าหมายจะต้องมีความชัดเจน เฉพาะเจาะจง และทุกคนในทีมสามารถเข้าใจได้ง่าย
-
Measurable: เป้าหมายที่ดีต้องวัดผลได้ ซึ่งจะช่วยให้รู้ว่าเราดำเนินการถึงขั้นตอนใดและสิ่งที่ทำอยู่นั้นมีประสิทธิภาพหรือไม่
-
Attainable: สามารถเกิดขึ้นได้จริง การสร้างเป้าหมายที่ท้าทายนั้นก่อให้เกิดผลดีแต่ต้องพิจารณาจากความเป็นไปได้อย่างกำลังคน งบประมาณ รวมถึงความสามารถของสมาชิกในทีมด้วย
-
Relevant: เป้าหมายจะต้องมีความเกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์หลักขององค์กร
-
Time-Bound: กำหนดช่วงเวลาที่ต้องการให้เป้าหมายบรรลุผล ซึ่งการกำหนดเวลาที่แน่นอนมีผลต่อการวางแผนการทำงาน รวมถึงยังเป็นการกระตุ้นให้สมาชิกทุกคนทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จทันช่วงเวลาที่กำหนด
3. สร้างแผนการปฏิบัติงานที่ชัดเจน
เพราะสมาชิกในทีมย่อมมีทักษะ จุดเด่น จุดด้อยแตกต่างกัน คุณจึงต้องมอบหมายงานให้ถูกคนและให้เขาได้ทราบถึงเป้าหมายที่เขาจะทำ เพื่อกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบตามทักษะและความสามารถของสมาชิกในทีม และไม่ลืมที่จะเปิดโอกาสให้เขาได้ใช้ทักษะของตัวเองอย่างเต็มที่
4. ยึดมั่นในเป้าหมาย
การตั้งเป้าหมายเป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น กว่าจะถึงจุดหมายก็มักจะมีอุปสรรคที่รอเราอยู่เสมอ อย่างระยะทาง เวลา หรืออะไรที่เราไม่คาดคิด สมาธิหรือความตั้งใจต่าง ๆ ก็อาจจะหายไป คุณจึงต้องมีการประชุมเป็นระยะเพื่อประเมินผล อาจเป็นการอัปเดตงานประจำสัปดาห์หรือประชุมก่อนทำงานสัก 10-20นาที ที่สำคัญคุณที่เป็นหัวหน้าทีมจะต้องหมั่นกระตุ้นให้สมาชิกทุกคนยึดมั่นในเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้อย่างเคร่งครัด ซึ่งในการทำงานจริงแผนอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสมของสถานการณ์
5.อย่าลืมสร้างความสำเร็จต่อเนื่อง
หากเป้าหมายต่าง ๆ ที่คุณตั้งใจไว้ได้ประสบความสำเร็จแล้ว ก็อย่าลืมรักษามาตรฐานนั้นไว้ด้วย และตั้งเป้าหมายเพื่อการเรียนรู้ใหม่ ๆ อยู่เสมอ เพราะแน่นอนว่าความสำเร็จนั้นอาจไม่ได้อยู่กับเราตลอดไป
JobThai เปิด Official Group แล้ว
ถ้ากำลังหางาน หาคน หรืออยากพูดคุยทุกเรื่องเกี่ยวกับการทำงาน มา Join กับเราเลย