-
ยังไม่ได้อ่านข้อความ: ลองกำหนดเวลาในแต่ละวัน เพื่อมาไล่เช็กอีเมลหรือข้อความต่าง ๆ ดู ว่ามีเรื่องสำคัญเรื่องไหนที่เราตกหล่นไปหรือเปล่า
-
ไม่มีเวลา: ถ้าไม่มีเวลาจริง ๆ เราอาจจะต้องอธิบายให้ชัดเจนว่าเอาเวลาไปทำอะไร เพื่อให้คนอื่นเห็นว่าเรามีสิ่งที่สำคัญกว่าต้องทำ ไม่ใช่แค่ตอบเพื่อปัดบทสนทนา
-
อินเทอร์เน็ตล่ม: ถ้างานของเราไม่ใช่งานที่จำเป็นต้องใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงตลอดเวลา ก็อาจจะใช้วิธีในการปล่อยสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากสมาร์ทโฟนเพื่อส่งงาน หรือใช้สัญญาณฟรีที่ปัจจุบันมีอยู่มากมายดู
-
รถติด: ลองเปลี่ยนเวลาตื่นนอนให้เช้าขึ้น และวางแผนการเดินทางให้ดี เพราะข้ออ้างนี้นอกจากจะไม่น่าเชื่อถือแล้ว ยังแสดงออกถึงการที่เราไม่สามารถจัดการชีวิตของตัวเองได้อีกด้วย
-
เมื่อคืนอดนอน: อย่าปล่อยให้ตัวเองนอนดึกจนเกินไปแม้จะเป็นนอกเวลางาน เพราะหากมันส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการทำงานในเช้าวันถัดไป ก็คงไม่ใช่เรื่องที่ดี
|
|
JobThai Mobile Application
หางานที่ใช่ได้ง่าย ๆ ไม่ต้องอ้างว่าไม่รู้จะไปสมัครงานที่ไหน โหลดเลย!
|
|
มีข้ออ้างมากมายที่คนทำงานอย่างเรามักจะใช้กันในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลที่มาทำงานสายอย่างรถติด ไม่ได้อ่านข้อความเลยไม่รู้ว่าติดต่อมา หรือการโยนความผิดในการทำงาน ซึ่งข้ออ้างเหล่านี้จะทำให้ความเป็นมืออาชีพในการทำงานของเราถูกลดลงไปอย่างมาก และไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าไหร่ คำแหล่านี้ก็ยังเป็นข้ออ้างยอดฮิตที่ยังใช้กันมาตลอด ซึ่งการติดนิสัยต้องอ้างบ่อย ๆ จะทำให้เพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้ามองว่าเป็นคนไม่มีความรับผิดชอบ JobThai เลยอยากชวนไปอ่าน "ข้ออ้างยอดแย่ที่คนทำงานควรเลิกใช้" ก่อนปีใหม่นี้จะมาถึง
1. ยังไม่ได้อ่านข้อความ
การอ้างว่า “ไม่ได้อ่าน” ทั้งอีเมลหรือแชทสำหรับการพูดคุยในแผนก นอกจากจะทำให้เราดูไม่มีความรับผิดชอบแล้ว ยังอาจส่งผลให้เกิดปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้ทันหากมีอะไรที่เร่งด่วน สิ่งที่เราควรทำคือการพยายามหาเวลาเช็กข้อความของตัวเอง เลื่อนสายตาไปมองการแจ้งเตือนข้อความเข้า หรือเปิดอ่านข้อความเป็นระยะ ๆ ก็ได้ แต่ถ้าคิดว่าข้อมูลที่ได้รับในแต่ละวันมีมากเกินไป ให้แบ่งเวลาสัก 10 นาทีก่อนเลิกงาน ไล่เช็กดูข้อความหรืออีเมลต่าง ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าวันนี้เราไม่ได้พลาดอะไรที่สำคัญไป
2. ไม่มีเวลายุ่งทั้งวันเลย
ทุกคนก็มีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากันทั้งนั้น อยู่ที่ว่าในเวลา 24 ชั่วโมง เราจัดการหรือแบ่งเวลายังไงมากกว่า หากไม่มีเวลาจริง ๆ ก็ต้องรู้ว่าสาเหตุเป็นเพราะอะไร อย่างเรากำลังเคลียงานด่วนที่เพิ่งเข้ามาเมื่อเช้า จัดการอีเว้นท์ใหญ่ที่กำลังรับผิดชอบอยู่ หรือบอกไปตามตรงว่ามีงานอื่นที่เร่งด่วนหรือสำคัญกว่าที่จะต้องทำ แทนการบอกว่า “ไม่มีเวลา” เพื่อปัดความรับผิดชอบและตัดบทสนทนาไปดื้อ ๆ หรือถ้าบริษัทให้ทำงานที่บ้าน (Work from Home) เราก็ต้องแน่ใจด้วยว่าเหตุผลในการไม่ว่างของเรา ไม่ได้เป็นเพราะการต้องไปซักผ้าหรือทำงานบ้าน หากเวลานั้นเป็นเวลางานอยู่
3. อินเทอร์เน็ตล่มเลยทำงานไม่ได้
ก้าวเข้าสู่พุทธศักราชที่ 2565 แล้ว หากเราไม่ได้เป็นพนักงานที่จำเป็นต้องใช้อินเทอร์เน็ตตลอดเวลา หรือต้องใช้ความเร็วอินเทอร์เน็ตสูง ๆ ในการอัปโหลด-ดาวน์โหลดไฟล์ ข้ออ้างนี้ก็น่าจะเป็นข้ออ้างยอดแย่แห่งปีเลยทีเดียว เพราะถ้าเราจำเป็นต้องใช้อินเทอร์เน็ตในการทำงาน ก็มีตัวเลือกในการเชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตอยู่มากมาย ทั้งเสาสัญญาณอินเทอร์เน็ตของผู้ให้บริการเจ้าต่าง ๆ คาเฟ่ที่มีบริการอินเทอร์เน็ตให้ใช้ และมือถือหรือแท็บเล็ตที่สามารถปล่อยสัญญาณอินเทอร์เน็ตได้ เราก็ใช้อุปกรณ์เหล่านั้นแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน ดีกว่าแก้ตัวด้วยข้ออ้างเดิม ๆ แบบนี้
4. รถติดเลยมาทำงานสาย
รถติด อีกหนึ่งข้ออ้างง่าย ๆ ที่หลายคนเลือกใช้เวลาที่ตัวเองมาทำงานสาย ทั้ง ๆ ที่คนเหล่านั้นใช้รถไฟฟ้าในการเดินทางมาทำงานด้วยซ้ำ นอกจากข้ออ้างนี้จะไม่สมเหตุสมผลในการอ้างแล้ว ยังแสดงให้เห็นถึงความไม่รับผิดชอบ และไม่สามารถจัดการเวลาของตัวเองได้ เพราะวิธีง่าย ๆ ที่จะทำให้เราไม่มาทำงานสายอีกต่อไปก็คือ “การเผื่อเวลา” ไม่ว่าจะเป็นเวลานอนหรือเวลาในการเดินทาง ตื่นให้เช้าขึ้นและออกจากบ้านเร็วขึ้นหน่อย จะได้รู้ว่าเราก็สามารถไปทำงานอย่างตรงเวลาได้ แถมบางครั้งการออกไปทำงานเช้า ๆ ก็อาจไม่ต้องเจอกับการจารจรที่ติดขัดก็ได้
5. เมื่อคืนอดนอน เลยตื่นมาทำงานสาย
การปาร์ตี้สุดเหวี่ยง ท่องโลกโซเชียลมีเดีย เล่นวิดีโอเกม หรือดูซีรีส์ จนทำให้เราต้องอดหลับอดนอน เป็นอีกหนึ่งข้ออ้างยอดแย่ ที่ไม่ควรคิดข้ออ้างนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะถึงแม้กิจกรรมเหล่านั้นจะเป็นเรื่องส่วนตัว ที่เราทำนอกเหนือจากเวลางาน แต่ถ้ามันส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานหรือร่างกายของตัวเอง ก็คงไม่ใช่เรื่องที่ควรทำสักเท่าไหร่
นอกเหนือจากข้ออ้างในการทำงาน ก็ยังมีข้ออ้างอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นการผลัดวันทำความสะอาดบ้าน ผลัดวันออกกำลังกาย หรือผลัดงานบางชิ้นที่ยังไม่ต้องรีบทำ ซึ่งก็จริงอยู่ที่บางครั้งเราก็สามารถผลัดกิจกรรมเหล่านี้ไปได้ แต่ถ้าเผลอทำบ่อย ๆ จนเคยตัว ข้ออ้างพวกนี้นี่แหละ จะกลายเป็นสิ่งที่คอยฉุดรั้งความสำเร็จ ความก้าวหน้าในชีวิตการทำงาน และทำให้เราไม่เริ่มลงมือทำอะไรให้ชีวิตเกิดการเปลี่ยนแปลงสักที ทางที่ดีในปีใหม่นี้ลองเปลี่ยนตัวเองใหม่ ลดข้ออ้างลงและเริ่มลงมือทำให้มากขึ้น เป้าหมายที่เราต้องการก็จะชัดเจนขึ้นแน่นอน
ติดตาม Career Talk Podcast ได้ที่
|
|
|
|
JobThai Official Group |
Public group · 200,000 members |
|
|
|