อยากรู้ไหมคุณคือ "ชนชั้นกลาง" ประเภทไหน

18/09/20   |   55.8k   |  

 

 

 

JobThai Mobile Application สมัครงานง่าย ได้งานเร็ว

iOS

Android

Huawei AppGallery

 

มนุษย์ไม่ว่าจะอยู่ทวีปไหนในโลกก็ล้วนเป็น “สัตว์สังคม” เราต้องอยู่ในร่วมกันในสังคมเหมือนสัตว์สังคมอื่น ๆ และเมื่อเราทุกคนเกิดมาแตกต่าง หรือเรียกง่าย ๆ คือต่างมีต้นทุนชีวิตไม่เท่ากัน ทำให้ชนชั้นในสังคมเกิดขึ้นจากความไม่เท่าเทียมกันของมนุษย์ โดยทั่วไปผู้คนก็มักจะมองกว้าง ๆ ว่ามีชนชั้นบน ชนชั้นกลาง และชนชั้นล่าง แต่วันนี้ JobThai จะมาพูดถึงชนชั้นที่ถูกพูดถึงบ่อย ๆ ในสังคมไทยอย่าง ”ชนชั้นกลาง” (Middle Class)

 

"ชนชั้นกลาง" เป็นแบบไหน เกิดขึ้นยังไง

ชนชั้นกลางเป็นคนฐานะกลาง ๆ ไม่รวยไม่จน ส่วนมากจะเป็นคนที่สร้างตัวได้ด้วยความรู้ความสามารถของตัวเอง และใช้การศึกษาเป็นเครื่องมือหากิน ซึ่งผู้นำหลายคนเชื่อว่าชนชั้นกลางเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างชาติให้มีความเจริญก้าวหน้า

 

คำว่า "ชนชั้นกลาง (Middle Class) ถูกใช้ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2288 ในสิ่งพิมพ์ที่มีชื่อว่า Scheme to prevent running Irish Wools to France ของเจมส์ แบรดซอส์  เพื่ออธิบายกลุ่มคนที่อยู่ระหว่างชาวนากับคนชั้นสูง ได้รับความนิยมและใช้คำนี้อย่างแพร่หลายในยุโรปเพื่อแบ่งแยกชนชั้นใหม่ออกจากขุนนาง และชาวนา หรือที่เรียกว่า "กระฎุมพี" ซึ่งหมายถึงคนที่อยู่ในเมืองที่เป็นศูนย์กลางทางการค้า และช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ได้บอกว่าชนชั้นกลางคือ กลุ่มคนที่อยู่ระหว่างชนชั้นนำกับชนชั้นแรงงาน ส่วนมากจะเป็นผู้จัดการ เจ้าของกิจการขนาดเล็ก ข้าราชการระดับสูง นักวิชาการ หรือแกนนำกรรมกร

 

เราคือชนชั้นกลางประเภทไหน

สมัยก่อนชนชั้นจะแบ่งเป็นแค่คนที่รวยมากกับจนมาก แต่ต่อมาเมื่อชนชั้นกลางได้ถือกำเนิดขึ้นมาเป็นหัวใจสำคัญในระบบเศรษฐกิจ และใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ปัจจุบันจึงเกิดความสับสนว่าลักษณะแบบนี้คือชนชั้นกลางประเภทไหน ดังนั้นมาดูดีกว่าว่าแต่ละประเภทประเภทมีความแตกต่างอย่างไรกันบ้าง

 

ชนชั้นกลางระดับบน (Upper Middle Class)

คนพวกนี้ส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ในเขตเมืองหลวงที่เจริญแล้ว มีการศึกษาสูง หรือจบจากต่างประเทศ  มีหน้ามีตาในสังคม อาจจะเป็นผู้บริหาร หรือมีตำแหน่งผู้จัดการขึ้นไป มีบ้านขนาดที่มีบริเวณให้เลี้ยงสัตว์ได้ ถ้าพวกเขามีลูก ก็อาจจะมีเงินส่งค่าเทอมลูกเทอมละหลายหมื่นไปจนถึงแสน  มีรถขับราคาหลายแสนขึ้นไปจนถึง7หลัก ขับพาลูกไปส่งที่โรงเรียน ไม่มีหนี้สินอะไรให้ต้องกังวลใจ และจะคบเพื่อนที่อยู่ในชนชั้นเดียวกันซะส่วนมาก ทำให้สังคมมองว่าพวกเขาคือกลุ่มคนรวย

 

ชนชั้นกลางระดับล่าง (Lower Middle Class)

คนพวกนี้มีความสามารถในการทำงาน ส่วนใหญ่เรียนจบปริญญาตรีหรือสูงกว่านั้น ทำงานในบริษัทที่ดี เข้าออกงานเป็นเวลาคล้ายพนักงานออฟฟิศ ไม่จำเป็นต้องใช้แรงงาน อาจจะมีหนี้บัตรเครดิตบ้างแต่ก็สามารถจัดการได้เมื่อเงินเดือนออก มีเงินไปเที่ยว และใช้จ่ายได้แบบสบาย ๆ การได้รับโบนัสจะเป็นสิ่งที่พวกเขารอคอย และการหาช่องทางรายได้เพิ่มโดยการทำธุรกิจก็เป็นสิ่งที่พวกเขาสนใจ แต่บางคนอาจจะไม่ค่อยขวนขวายมากนักเพราะถือว่าตัวเองมีงานที่มั่นคง และโอเคกับสถานะตัวเองแล้ว

 

สำหรับในประเทศไทยชนชั้นกลางส่วนใหญ่นั้นอาจจะเป็นกลุ่มคนที่มีงานที่มั่นคง อาจจะเป็นพนักงานออฟฟิศที่มีรายได้ที่แน่นอน แต่รายได้ก็ไม่ได้มากมายขนาดที่จะใช้จ่ายฟุ่มเฟือยได้บ่อย ๆ อาจมีช่วงที่การเงินมีปัญหาบ้าง ได้เงินเดือนทุกเดือนแต่ก็ต้องใช้จ่ายหนี้สินไปด้วย เป็นกลุ่มที่มีความเป็นอยู่ที่ต้องตื่นตัวพอสมควร  เมื่อเศรษฐกิจมีปัญหาเพราะโควิด-19 พวกเขาจะกระทบเป็นกลุ่มแรก ๆ ต้องดิ้นรนเอาตัวรอดให้ได้ท่ามกลางความไม่แน่นอนหลายอย่าง คนกลุ่มนี้อยากมีชีวิตที่ดีขึ้นโดยเอาความกดดันผลักดันให้ตัวเองก้าวไปสู่จุดที่สูงขึ้น เพราะพวกเขาไม่มีวันยอมจะตกลงมาเป็นชนชั้นล่างเด็ดขาด

 

ชนชั้นกลางคิดกันแบบไหน

พวกเขาออกแนวบริโภคนิยม ประมาณว่าตัวเองเลือกได้ มีเงินซื้อของราคาไม่แพงมากนัก หรือของลดราคาก็ซื้อได้ มีเงินพอสำหรับดูหนังเข้าใหม่ ซื้อเสื้อผ้าตามเทรนด์ ซื้อตั๋วคอนเสิร์ตศิลปินที่ชอบ หรือบางคนชอบซื้อของมาตั้งโชว์แต่ไม่ใช้ก็มี และเนื่องจากพวกเขาเลือกได้ ทำให้การเลือกซื้อสินค้าเป็นตัวบ่งบอกถึงไลฟ์สไตล์และความเป็นตัวตนของเขา

 

นอกจากนั้นชนชั้นกลางค่อนข้างมีแนวคิดคล้าย ๆ กัน เช่น ต้องมีบ้าน มีรถ มีงานมั่นคง ต้องเเต่งงานอายุเท่านี้ มีลูกอายุเท่านี้ และลูกก็จะต้องเรียนจบที่ดี ๆ ยิ่งถ้าจบต่างประเทศได้จะดีมาก ๆ ถ้าทำได้ทุกอย่างตามนี้ถือว่าประสบความสำเร็จในชีวิต แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็มีกลุ่มที่ต่อต้านแนวคิดนี้ และตั้งคำถามขึ้นมาว่าชีวิตของเราใครเป็นคนกำหนด หรือทำไมเราต้องทำตามคนอื่น

 

ชนชั้นกลางในยุคใหม่เป็นยังไง

เด็กสมัยนี้มีความสนใจไม่เหมือนผู้ใหญ่สมัยก่อน อาจจะเพราะเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ความรู้ที่กว้างขึ้นทำให้พวกเขามองหาความจริงที่ลึกซึ้งขึ้น เช่น คนสมัยก่อนอาจจะมองว่าการเมืองเป็นเรื่องไกลตัว แต่เด็กสมัยนี้กลับคิดว่าการเมืองคือเรื่องใกล้ตัวที่จำเป็นต้องรู้ รวมถึงพวกเขาเป็นคนที่มีจุดยืน และอยากแสดงตัวตนของตัวเองออกมา โดยบางคนก็ใช้เงินซื้อของเพื่อบ่งบอกความเป็นตัวเองจนไม่รู้ลิมิต และปัญหาที่ตามมาคือการเป็นหนี้นั่นเอง

 

ชนชั้นกลางมีความเครียดมากกว่าทุกชนชั้น

สิ่งหนึ่งที่ชนชั้นบนกับชนชั้นล่างเหมือนกันคือการไม่ได้แคร์สายตาคนอื่น เช่น คนจนจะสนใจแค่การใช้ชีวิตแบบวันต่อวัน ในขณะที่คนรวยจะสนใจแต่สังคมของตัวเอง แต่สำหรับชนชั้นกลาง พวกเขาจะคิดอยู่ในหัวตลอดว่าทำยังไงให้รวยขึ้น หรือทำยังไงไม่ให้แย่ลง เมื่อเอาแต่คิดแต่เรื่องรายได้ก็เกิดความเครียด กดดัน และเมื่อเกิดความเครียด พวกเขาก็จะมองหาความสุขให้ตัวเองด้วยการเสียเงินซื้อของ และเนื่องจากชนชั้นกลางเป็นชนชั้นที่มีฐานะค่อนข้างอยู่ตัว จึงทำให้รัฐบาลมักมองข้ามความเป็นอยู่ของพวกเขาบ่อย ๆ ซึ่งนั่นทำให้พวกเขาเครียดสะสมมากขึ้นไปอีก

 

อย่างไรก็ตามการระบุแน่ชัดว่าชนชั้นไหนคือ “ชนชั้นกลาง” ยังคงเป็นเรื่องที่ได้รับการถกเถียงทางวิชาการอยู่ตลอด แต่สุดท้ายแล้วไม่ว่าคุณจะอยู่ชนชั้นไหน ทุกคนต่างก็มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาประเทศแทบทั้งสิ้น

 

ฝากประวัติเพื่อหางานได้ ที่นี่

 

 
JobThai Official Group เพื่อการหางาน หาคน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำงาน
Public group · 23,411 members
Join Group
 

 

 

ที่มา :

thevapor.world

voicetv.co.th

ispacethailand.org

siamrath.co.th

 

tags : jobthai, jobs, หางาน, งาน, สมัครงาน, lifestyle, คนทำงาน, ชนชั้นกลาง, middle class, มนุษย์เงินเดือน, พนักงานออฟฟิศ, ไลฟ์สไตล์



ติดตามข่าวสารและเรื่องราวดีๆ ทาง Email

ขอบคุณสำหรับการติดตาม