“เป็นไปได้อย่างไร… ทำไมผลถึงออกมาแบบนี้”
นิกรถามตัวเองด้วยความฉงน หลังจากเห็นผลตรวจร่างกายประจำปีรอบนี้ ที่ค่าคลอเรสเตอรอลสูงเกินเกณฑ์ปกติไปมาก ทั้ง ๆ ที่เขาเองก็เป็นคนผอม จนต้องกลับมาคิดทบทวนว่าที่ผ่านมาเขาใช้ชีวิตอย่างไร… และข้อสงสัยต่าง ๆ ก็เริ่มคลี่คลายหลังจากที่ได้นั่งคิดอย่างจริงจัง
ด้วยความที่เป็นคนผอม ช่วงที่ผ่านมาเขาจึงชะล่าใจ กินทุกอย่างที่ขวางหน้าเพราะหลงคิดไปเองว่าร่างกายมีระบบเผาผลาญที่ดี ซึ่งความคิดแบบนี้นี่เอง ทำให้เขาไม่สนใจที่จะออกกำลังกาย และเข้าใจว่าแค่ไม่อ้วนก็น่าจะพอแล้ว
หลายคนก็คงหลงเข้าใจผิดเหมือนนิกร เพราะถ้าพูดถึงเรื่องการดูแลสุขภาพ เรามักจะรณรงค์ให้คนที่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์มาตรฐานหันมาลดความอ้วนด้วยการออกกำลังกายให้มากขึ้น แต่รู้ไหมว่าสิ่งที่น่าตกใจคือ บางครั้งการไม่ออกกำลังกายก็อาจอันตรายร้ายแรงกว่าการเป็นโรคอ้วนเสียอีก
- มหาวิทยาลัย Cambridge ได้เก็บข้อมูลจาก กลุ่มตัวอย่างจำนวน 334,000 คน เป็นระยะเวลาถึง 12 ปี และพบว่าสาเหตุการเสียชีวิตของคนเกิดจากการไม่ออกกำลังกายมากกว่า การตายที่เกิดจากโรคอ้วนถึง 2 เท่า
- การออกกำลังกายในระดับที่พอเหมาะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดอัตราการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรได้เป็นอย่างดี
- โครงสร้างร่างกายคนถูกออกแบบมาให้เคลื่อนไหว ซึ่งถ้าเราไม่หมั่นขยับร่างกาย ระบบการทำงานส่วนต่าง ๆ จะช้าลง และเกิดผลเสียตามมา ทั้งในเรื่องอวัยวะเสื่อม เช่น หัวใจ สมอง กระดูก และโรคร้ายแรงอื่น ๆ เช่น เบาหวาน และมะเร็ง
- การออกกำลังกายช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันชั้นดี ส่งเสริมการทำงานของระบบเผาผลาญและการย่อย สร้างเสริมมวลกล้ามเนื้อ และกระดูก ลดโอกาสเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ มะเร็งและเบาหวาน
|
|
ทีมวิจัยที่นำทีมโดย Ulf Ekelund นักค้นคว้าทางวิทยาสตร์อาวุโส ของส่วนงานที่ปรึกษาด้านการแพทย์เฉพาะด้านระบาดวิทยาของมหาวิทยาลัย Cambridge ได้เก็บข้อมูลจาก กลุ่มตัวอย่างชายและหญิง จำนวน 334,000 คน เป็นระยะเวลาถึง 12 ปี โดยพวกเขาทั้งหมดจะได้รับการวัดส่วนสูง รอบเอว และมีการประเมินระดับความมาก-น้อยในการเคลื่อนไหวร่างกายของแต่ละคน Ekelund พบว่าสาเหตุของการเสียชีวิตของคนเรานั้นเกิดจากการไม่ออกกำลังกายมากกว่าสาเหตุการตายที่เกิดจากโรคอ้วนถึง 2 เท่า และได้ข้อสรุปว่าการออกกำลังกายในระดับที่พอเหมาะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดอัตราการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรได้เป็นอย่างดี
การออกกำลังกาย ที่ทำให้เกิดการเผาผลาญพลังงานประมาณ 90 - 100 แคลอรี หรือเทียบเท่ากับการเดินเร็ว ๆ เพียงวันละ 20 นาที ก็เพียงพอสำหรับการลดความเสี่ยงของการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ได้มากถึง 16 - 30 เปอร์เซ็นต์ และไม่ใช่เพียงแค่คนที่มีน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ปกติเท่านั้นที่ได้ประโยชน์จากการออกกำลังกายอย่างพอเหมาะแบบนี้ แต่คนที่มีน้ำหนักเกิน รวมไปถึงคนที่เป็นโรคอ้วนก็ยังได้ประโยชน์ด้วยเช่นกัน
ข้อเสียของการไม่ออกกำลังกาย
Samantha Heller นักโภชนาการคลินิกอาวุโสและนักสรีรศาสตร์ด้านการออกกำลังกายจากศูนย์การแพทย์ของ New York University กล่าวว่า โครงสร้างของกล้ามเนื้อและกระดูกของมนุษย์เรานั้นถูกออกแบบมาให้เอื้อต่อการเคลื่อนไหวได้ง่ายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ถ้าร่างกายของเราไม่เคลื่อนไหวเป็นระยะเวลานานย่อมต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงที่เป็นผลเสียเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าใครยังไม่เชื่อว่าการไม่ออกกำลังกายนั้นส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อร่างกายได้ ลองมาดูเหตุผลสนับสนุนที่จะทำให้คุณเปลี่ยนความคิดใหม่
Dr. James Levine ผู้บริหารของ Mayo Clinic และศูนย์วิจัยโรคอ้วน ของ Arizona State University ได้ทำการค้นคว้าเกี่ยวกับผลกระทบด้านสุขภาพของการนั่งอยู่กับที่เป็นเวลานานโดยเฉพาะการนั่งทำงานในออฟฟิศทั้งวัน จากการวิจัยของเขาพบว่า เมื่อคนเรานั่งอยู่กับที่เป็นเวลานาน ๆ แล้วลุกขึ้น ระบบกล้ามเนื้อและเซลล์ในร่างกายที่ควบคุมน้ำตาลในเลือด ไตรกลีเซอไรด์ และคอเลสเตอรอล จะถูกกระตุ้นให้ทำงานอีกครั้งภายใน 90 วินาทีแรกหลังจากที่เรายืน ซึ่งกระบวนการเหล่านี้เกิดขึ้นได้จากการเคลื่อนไหวตามปกติของร่างกาย นั่นหมายความว่าถ้าเราเคลื่อนไหวเป็นประจำ โอกาสที่เสี่ยงที่เราจะเป็นโรคเบาหวานและโรคอ้วนก็จะน้อยลง เทียบกับคนที่นั่งอยู่เฉยๆทั้งวันไม่ลุกไปทำกิจกรรมอื่น ๆ สรุปได้ว่า ในระดับโมเลกุลนั้น ร่างกายของเราถูกสร้างมาให้ต้องเคลื่อนไหวตลอดทั้งวัน ถ้าเราไม่เคลื่อนไหวเป็นเวลานาน ๆ ร่างกายของเราจะปรับสภาพตามซึ่งส่งผลให้ระบบการทำงานของส่วนต่าง ๆ ช้าลง ตลอดจนเกิดผลเสียอื่นที่อาจเกิดขึ้นกับร่างกายตามมา เช่น
อวัยวัยวะเสื่อม
- หัวใจ เมื่อคุณนั่งเฉย ๆ เลือดจะหมุนเวียนช้าลง กล้ามเนื้อเผาผลาญไขมันน้อยลง โอกาสที่ไขมันจะไปอุดตันตามเส้นเลือดในหัวใจเพิ่มมากขึ้น
- สมอง ประสิทธิภาพของสมองของคุณจะลดต่ำลง หากคุณนั่งอยู่กับที่นานเกินไป เลือดที่ไปเลี้ยงสมองของคุณจะมีปริมาณออกซิเจนที่ลดน้อยลงซึ่งส่งผลต่อการทำงานของสารเคมีที่ควบคุมอารมณ์ความรู้สึกในสมอง
- กล้ามเนื้อหน้าท้อง เมื่อเรายืนหรือเคลื่อนไหว กล้ามเนื้อหน้าท้องของเราจะช่วยทำให้เราเคลื่อนไหวได้สะดวก แต่ถ้าเรานั่งเฉย ๆ กล้ามเนื้อหน้าท้องจะอ่อนแอลงเพราะไม่ถูกใช้งาน
- กล้ามเนื้อสะโพกและบั้นท้าย กล้ามเนื้อบริเวณสะโพกจะไม่ยืดหยุ่น ทำให้เคลื่อนไหวได้ยากขึ้น ความมั่นคงในการยืน เดิน หรือกระโดดลดน้อยลง
- กล้ามเนื้อขา การนั่งนาน ๆ จะทำให้เกิดอาการเส้นเลือดขอดจากการการที่เลือดไหลเวียนได้ไม่ดี ไม่ต่างจากการยืนนาน ๆ เกิดอาการบวมตามข้อเท้า หรือมีลิ่มเลือดอุดตันตามเส้นเลือดในขา
- กระดูก การเดิน วิ่ง หรือการทำกิจกรรมอื่น ๆ จะทำให้มวลกระดูกแข็งแรงและหนาแน่นขึ้น กลับกันถ้าไม่ขยับร่างกายบ่อย ๆ อาจทำให้กระดูกเปราะบาง และอาจเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคกระดูกพรุนได้
โรคร้ายแรงอื่น ๆ
- เบาหวาน งานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน Diabetologia วารสารการวิจัยเฉพาะเรื่องเบาหวาน พบว่าคนที่นั่งนาน ๆ มีโอกาสที่จะเป็นโรคเบาหวานและโรคหัวใจมากกว่าคนที่เคลื่อนไหวตลอดทั้งวัน นอกจากนี้คนนั่งเป็นเวลา 8 ชั่วโมงต่อวันยังมีโอกาสเสี่ยงเพิ่มขึ้นถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ที่จะเป็นโรคเบาหวานประเภทที่ 2
- มะเร็ง การนั่งนาน ๆ อาจทำให้เกิด โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งเต้านม มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก นอกจากนี้ ผลวิจัยที่ได้รับการนำเสนอในงานประชุม Inaugural Active Working Summit 2015 ซึ่งเป็นงานที่เกิดขึ้นเพื่อสร้างความตระหนักต่อการมีสุขภาพดีในที่ทำงาน ชี้ให้เห็นว่า การนั่งนาน ๆ ยังเพิ่มโอกาสในการเกิดมะเร็งปอด 54 เปอร์เซ็นต์ มะเร็งมดลูก 66 เปอร์เซ็นต์ และมะเร็งลำไส้ใหญ่ 30 เปอร์เซ็นต์ โดยมีการสันนิษฐานว่า อัตราเสี่ยงของมะเร็งที่เพิ่มขึ้นที่เป็นผลจากการนั่งอยู่กับที่เป็นเวลานานนั้นเกิดขึ้นพร้อมกับปัจจัยอื่น ๆ ประกอบกัน เช่น น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ความผิดปกติของกระบวนการเผาผลาญของร่างกาย เป็นต้น
ผลของการศึกษาเหล่านี้อาจทำให้เราต้องเปลี่ยนความคิดเรื่องสุขภาพเสียใหม่ การออกกำลังกายไม่ได้จำเป็นเฉพาะคนที่ต้องการลดน้ำหนักเท่านั้น คนทั่วไปที่ไม่ได้อ้วนก็ยังต้องออกกำลังกายเช่นกัน เพราะการออกกำลังกายนั้นจะกระตุ้นให้ร่างกายของเราสร้างภูมิคุ้มกันชั้นดี ส่งเสริมการทำงานของระบบเผาผลาญและการย่อย สร้างเสริมมวลกล้ามเนื้อ และกระดูก ลดโอกาสเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ มะเร็งและเบาหวาน เมื่อคุณหันมาใส่ใจสุขภาพของตัวเองด้วยการออกกำลังกาย โอกาสในการเจ็บป่วยหรือเสียชีวิตก็จะลดน้อยลง และทำให้ชีวิตของคุณยืนยาวขึ้นได้อย่างแน่นอน
JobThai มี Line แล้วนะคะ
ติดตามสาระความรู้สำหรับคนทำงาน ที่ย่อยง่าย อ่านสนุก และพูดคุยทุกแง่มุมเกี่ยวกับการทำงานอย่างใกล้ชิดที่
ที่มา
bigthink.com
forbes.com
smithsonianmag.com
huffingtonpost.com
fitness.mercola.com