ในขณะที่ทุกคนกำลังนั่งคุยนั่งทำงานกันอย่างผ่อนคลาย อีกมุมหนึ่งของออฟฟิศ กวินทร์กำลังเก็บข้าวของส่วนตัวลงกล่อง หลังจากที่ได้รับรู้จากหัวหน้าว่า การทำงานช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาของเขานั้นยังทำได้ไม่ดีพอที่จะบรรจุเป็นพนักงานของที่นี่
ความรู้สึกของกวินทร์ตอนนี้อาจไม่ใช่ความเสียใจที่ตกงานและต้องหางานใหม่ทีเดียว แต่มันเป็นความผิดหวังและอับอายจากการถูกปฏิเสธจนท้อแท้ใจไม่อยากทำอะไรต่อ
ในโลกของการทำงานและการใช้ชีวิตก่อนจะพบกับความสำเร็จ หลายคนต้องพบเจอกับอุปสรรคต่าง ๆ นานา บางคนท้อแท้และสิ้นหวังกับความล้มเหลว ในขณะเดียวกันหลายคนกลับใช้อุปสรรคเหล่านั้นเป็นแรงผลักดันเพื่อนำไปสู่สิ่งที่ดีกว่า และพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสได้
JobThai ขอเสนอเรื่องราวเพื่อเป็นแรงบันดาลใจและเป็นกำลังใจให้คนที่กำลังเผชิญความยากลำบากในชีวิต ให้คุณได้เรียนรู้และเห็นมุมมองด้านบวกจากประสบการณ์ของ สตีเวน สปีลเบิร์ก ผู้กำกับภาพยนตร์ผู้มีชื่อเสียงระดับโลก
- สตีเวน สปีลเบิร์ก ผู้กำกับหนังชื่อดังเคยผ่านความล้มเหลว และถูกปฏิเสธมาไม่น้อย เช่น ถูกปฏิเสธจากการเข้าเรียนโรงเรียนสอนภาพยนต์ชื่อดัง และถูกปฏิเสธผลงานครั้งแล้วครั้งเล่า
- เหตุผลหลักที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จได้ เพราะเขาไม่เคยยอมแพ้ หรือเลิกล้มจากสิ่งที่ตัวเองรัก พร้อมทั้งหมั่นฝึกฝนพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ
- University of Southern California คือมหาวิทยาลัยที่เคยปฏิเสธการเข้าเรียนของเขา ได้มอบปริญญากิตติมศักดิ์ให้กับ สปีลเบิร์กในภายหลังเพื่อเป็นการยอมรับในฝีมือของผู้กำกับมากความสามารถคนนี้
|
|
ไม่เคยยอมแพ้หรือล้มเลิกจากสิ่งที่ตัวเองรัก
ถ้าพูดถึงผู้กำกับในวงการภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด น้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก สตีเวน สปีลเบิร์ก (Steven Spielberg) ผู้กำกับหนังดังขึ้นหิ้งอย่าง E.T. Jaws Jurassic Park Saving Private Ryan และ Indiana Jones แต่ใครจะรู้ว่าครั้งหนึ่งผู้กำกับมือทองคนนี้ ก็เคยไม่ผ่านการคัดเลือกเพื่อเข้าเรียนในโรงเรียนภาพยนตร์มาก่อน โดยเขาถูกปฏิเสธถึงสองครั้งจาก University of Southern California School of Theater, Film and Television โรงเรียนภาพยนตร์ชื่อดังของสหรัฐอเมริกา ทำให้เขาต้องจำใจเข้าเรียนที่ California State University ที่มีชื่อเสียงเป็นรองกว่าในเมือง Long Beach แทน แต่นี่ไม่ใช่ความผิดหวังแค่ครั้งเดียวในชีวิตที่เขาต้องเผชิญ...
ผู้กำกับหน้าใหม่ที่ไม่มีใครยอมรับ
เมื่อสตีเวน สปีลเบิร์ก ทำงานในวงการภาพยนตร์ใหม่ ๆ เขาได้ถ่ายทำหนังที่มีขนาดฟิล์ม 8 ม.ม.โดยหวังให้ผู้อำนวยการสตูดิโอหนังรายใหญ่รับไปพิจารณา แต่พวกเขากลับปฏิเสธผลงานของสปีลเบิร์ก โดยให้เหตุผลว่าพวกเขาจะยอมดูหนังก็ต่อเมื่อฟิล์มมีขนาด 16 ม.ม.เท่านั้น ทว่าเมื่อสปีลเบิร์กนำผลงานมาเสนออีกครั้งพร้อมกับฟิล์มขนาดใหม่ที่พวกเขาต้องการ พวกเขากลับเรียกร้องว่าฟิล์มควรจะมีขนาด 35 ม.ม. มากกว่า ซึ่งนั่นทำให้ สปีลเบิร์ก ต้องกลับไปตัดต่อม้วนฟิล์มใหม่อีกรอบ แต่ด้วยความมุ่งมั่นและความพยายามที่ไม่ลดละของสปีลเบิร์ก ทำให้บรรดาผู้อำนวยการสตูดิโอเกิดความประทับใจและยอมรับเขาในที่สุด
เขาพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลาเพื่อรอคอยโอกาส
สปีลเบิร์ก เรียนการสร้างภาพยนตร์ที่ California State University ไปพร้อมกับการฝึกงานในกองถ่ายภาพยนตร์เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์จริง เขาจะคอยติดตามและสังเกตเทคนิคการถ่ายทำหนังทุกเรื่องที่กำลังถ่ายอยู่ในสตูดิโออยู่เสมอ หรือแม้แต่ในช่วงที่เขาเป็นวัยรุ่นเขาก็ใช้เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการตัดต่อม้วนฟิล์มของหนังที่เขาถ่ายทำขึ้นเอง แม้ว่าตลอดชีวิตของเขาจะถูกปฏิเสธมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ในทุกครั้ง เขาก็จะพยายามใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะเขาเชื่อมั่นในศักยภาพของตัวเอง ไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ และไม่ยอมให้ใครมาตัดสินว่าเขาทำไม่ได้ ซึ่งการมุ่งมั่นพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องของเขาก็เห็นผล
จากช่วงแรกที่ฝึกงานโดยไม่ได้ค่าตอบแทนใด ๆ กับทาง Universal Studios แต่เมื่อผลงานภาพยนตร์ของเขาเข้าตาผู้ใหญ่ในบริษัท สปีลเบิร์กก็ได้เซ็นสัญญาในฐานะผู้กำกับภาพยนตร์ และกลายเป็นผู้กำกับที่มีอายุน้อยที่สุดที่เคยได้รับสัญญาระยะยาว ด้วยอายุเพียง 20 ต้น ๆ เท่านั้น
เขาเรียนไม่เก่งแต่ก็ประสบความสำเร็จได้
การเรียนหนังสือเก่งเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็ไม่ได้การันตีว่าคุณจะประสบความสำเร็จในชีวิตการทำงานเสมอไป ในขณะเดียวกัน การเรียนไม่เก่ง ก็ไม่ได้แปลว่าคุณจะล้มเหลวตลอดไปเช่นกัน สตีเวน สปีลเบิร์ก ถูกปฏิเสธ จากมหาวิทยาลัยดังๆอย่าง University of Southern California และ University of California, Los Angeles เพราะเกรดเฉลี่ยของเขาไม่ดีพอ และหลังจากเข้าเรียนที่ California State University ได้ไม่นาน เขาก็ออกจากการเรียนเพื่อไล่ตามฝันในการเป็นผู้กับกำอย่างจริงจัง อย่างไรก็ตามทุกวันนี้ เขาก็ได้พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่าศักยภาพที่แท้จริงในตัวเองต่างหากที่สำคัญ ไม่จำเป็นต้องเรียนในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง หรือจบการศึกษาด้วยเกรดสูง ๆ เขาก็ประสบความสำเร็จในชีวิตได้
จากชีวิตของ สตีเวน สปีลเบิร์ก เราพอจะสรุปได้ว่า ความล้มเหลวนั้นเป็นก้าวหนึ่งสู่ความสำเร็จในอนาคต ด้วยการทุ่มเท ทำในสิ่งที่ตัวเองเชื่อมั่นอย่างต่อเนื่อง ไม่ถอดใจเมื่อเจออุปสรรคที่ท้าทาย ประกอบกับทัศนคติเชิงบวกในการดำเนินชีวิต
ในท้ายที่สุดก็ทำให้เขาประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ทั้งในวงการภาพยนตร์สหรัฐอเมริกาและในระดับโลก แม้แต่มหาวิทยาลัย Southern California ที่เคยทำให้เขาผิดหวังในช่วงต้นของชีวิต ยังต้องมอบปริญญากิตติมศักดิ์ให้แก่เขา ในปี 1994 เพื่อเป็นการยอมรับในความสามารถ ของผู้กำกับคนดังคนนี้
JobThai มี Line แล้วนะคะ
ติดตามสาระความรู้สำหรับคนทำงาน ที่ย่อยง่าย อ่านสนุก และพูดคุยทุกแง่มุมเกี่ยวกับการทำงานอย่างใกล้ชิดที่
ที่มา:
inspire99.com
evancarmichael.com