Oh My Job! Podcast EP.2: อยากโดดเด่นในสายตา HR ต้องทำยังไง?

02/12/20   |   7.1k   |  

 

 

 

 

ในยุคที่การหางานมีการแข่งขันสูง การมีคุณสมบัติที่เหมาะสมจนถูกเรียกสัมภาษณ์จากบริษัทเป็นเรื่องที่หลายคนคิดว่ายากแล้ว แต่การต้องสู้กับผู้สมัครคนอื่น ๆ บางทีอาจยากยิ่งกว่า กว่าจะถูกเรียกไปสัมภาษณ์งานได้ต้องสู้กับเรซูเม่นับสิบนับร้อยใบที่ HR ได้รับในแต่ละวัน รวมถึงพอได้มาสัมภาษณ์แล้วก็ไม่รู้ว่าจะเข้าตาได้ทำงานหรือเปล่า ดังนั้นวันนี้  JobThai เลยจะพาทุกคนไปรู้ถึงที่เคล็ดลับการเป็นผู้สมัครงานที่โดดเด่น จาก HR ตัวจริงอย่างพี่กุล หรือ คุณกุลจรรยา คฤหเดช Chief People Officer (CPO) จาก RS GROUP พร้อมแนวทางการดูแลพนักงานของ RS GROUP

 

ทำ Resume ให้เหมาะกับตำแหน่ง และควรทำเรซูเม่ภาษาอังกฤษเพื่อโชว์ทักษะไปในตัว

ในแต่ละวัน HR จะได้รับเรซูเม่จำนวนมาก คนหางานจึงต้องทำให้เรซูเม่ของตัวเองโดดเด่นเข้าตา HR มากที่สุด ในเรื่องของดีไซน์ควรจะต้องทำให้เหมาะสมกับตำแหน่งที่ต้องการสมัคร เช่น จะสมัครตำแหน่งกราฟิกก็ควรใส่ความครีเอทีฟเข้าไปในนั้น ถ้าเป็นตำเเหน่งที่ไม่ต้องโชว์ความคิดสร้างสรรค์ก็อาจจะเรียบร้อยหน่อย ไม่ต้องดีไซน์หวือหวามาก แต่ที่สำคัญคือต้องดูไม่เยอะ สั้น ๆ ได้ใจความ

 

แนะนำว่าควรทำเรซูเม่เป็นภาษาอังกฤษด้วย เพราะสามารถโชว์ให้ HR เห็นว่าคุณมีทักษะด้านภาษาไปได้ในตัว ถ้าเป็นไปได้ควรทำไว้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษก็จะดี อย่างไรก็ตามถึงคุณจะทำเรซูเม่ออกมาดีเลิศแค่ไหน ก็ไม่ได้หมายความว่าจะได้งานเสมอไป เพราะบางคนโปรไฟล์ดีมากแต่มาสัมภาษณ์แล้ว HR ไม่ถูกใจก็มี หรือบางคนโปรไฟล์สั้น ๆ ง่าย ๆ แต่คุยแล้วได้งานก็มีเหมือนกัน

 

นอกจากคุณสมบัติการทำงานแล้ว การมี Mindset ที่ดี และเข้ากับวัฒนธรรมองค์กรได้ก็เป็นสิ่งที่สำคัญ

แน่นอนว่าการจะรับใครสักคนเข้าทำงาน อย่างแรกที่ดูคือคุณสมบัติ ว่าคุณมีความสามารถเหมาะสมกับตำแหน่งที่พวกเขาต้องการไหม และเมื่อคุณผ่านด่านแรกจนได้มาสัมภาษณ์ ผู้สัมภาษณ์อาจจะอธิบายข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทคร่าว ๆ ให้ฟัง รวมถึง Core Values ของบริษัท ซึ่งจุดนี้สำคัญมากเพราะเขาจะสังเกตว่าคุณมีปฏิกิริยาตื่นเต้นกับสิ่งที่เขาเล่าไหม หรือคุณเข้าใจ Core Values ที่เขาบอกมากน้อยเพียงใด รวมถึงการกระตือรือร้น อยากรู้อยากเห็น และกล้าที่จะถามในสิ่งที่ไม่รู้ ก็เป็นสิ่งที่ทำให้คุณดูโดดเด่นขึ้นมาได้เหมือนกัน ดังนั้นหากผ่านด่านเรื่องคุณสมบัติในการทำงานมาได้แล้ว อย่าลืมแสดงเรื่องของ Mindset และบุคลิกหรือทัศนคติที่เข้ากับวัฒนธรรมองค์กรของเขาให้เขาเห็นด้วยว่าคุณมีเป้าหมายเดียวกัน

 

ไม่เกิน 3 คำถามก็พอจะรู้แล้วว่า Candidate คนไหนใช่หรือไม่ใช่

การจะเป็น Candidate ที่เข้าตาในการสัมภาษณ์ คุณต้องทำให้บทสนทนาน่าสนใจตั้งแต่วินาทีแรก เพราะการที่คุณเครื่องติดช้า ก็มีโอกาสเสี่ยงสูงที่คนสัมภาษณ์จะถอดใจและปัดคุณทิ้งไป ถ้าเขาคุยกับคุณคำแรกแล้วรู้สึกไม่ใช่ เขาจะให้โอกาสโดยการคุยหรือถามคำถามอีกสัก 2-3 คำถาม แต่ถ้าหลังจากนี้คำตอบของคุณยังไม่ใช่ นั่นหมายความว่าคุณอาจต้องเผื่อใจเอาไว้ แต่ในกรณีที่ยิ่งคุยยิ่งใช่ หรือใช้เวลาสัมภาษณ์นานกว่าปกติ หมายความว่าคุณมีแววเข้าตาเขาแล้ว

 

HR ชอบคนที่ตรงปก เขียนในเรซูเม่มาแบบไหนของจริงก็ต้องทำได้ ต้องตอบคำถามแบบคนรู้จริง คุณควรมีทักษะเเก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่ดี รวมถึงบุคลิกภาพที่แสดงออกมาก็ต้องดีด้วย เพราะภาษากายสามารถบอกได้ชัดว่าคนคนนี้พกความมั่นใจมามากแค่ไหน เช่น การนั่งหลังตรง การตอบคำถามชัดถ้อยชัดคำ รวมถึงมี Eye Contact กับคนสัมภาษณ์

 

“Get right to the point.” ตอบให้ตรงคำถาม ไม่รู้คือไม่รู้ อย่าพูดอ้อมโลก

ผู้สมัครที่พลาดส่วนใหญ่จะเกิดจากการไม่เข้าใจคำถาม หรือเข้าใจแต่ไม่รู้จะตอบอะไร “Get right to the point.” หรือตอบให้ตรงคำถามจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการสัมภาษณ์งาน ไม่รู้ต้องยอมรับว่าไม่รู้ หรือถ้าฟังคำถามแล้วไม่เข้าใจก็ต้องกล้าบอกตรง ๆ ว่าไม่เข้าใจ ผู้สัมภาษณ์จะได้อธิบายอีกครั้ง เพราะบางทีเขาอาจจะถามคำถามไม่เคลียร์เองก็ได้ และในตอนสุดท้ายอย่าอายที่จะขอ Feedback หลังสัมภาษณ์ เพราะคุณสามารถขอคำแนะนำจากพวกเขาได้เพื่อที่จะเอาไปปรับปรุงพัฒนาตัวเองในการสัมภาษณ์ครั้งต่อไป

 

อย่ากลัวการสัมภาษณ์งาน เพราะมันคือการเพิ่มสกิล

ในยุคที่งานหายากแบบนี้ เด็กรุ่นใหม่หรือหลาย ๆ คนอาจกลัวการสัมภาษณ์ เพราะกลัวการถูกปฏิเสธจากบริษัท ลองเปลี่ยน Mindset จากความกลัวเหล่านั้นมาเป็นความคิดที่ว่าการสัมภาษณ์งานทุกครั้งเป็นเสมือนสนามประลองความสามารถที่มีไว้ให้คุณฝึกซ้อมไปในตัว ลองฝึกฝนตัวเองบ่อย ๆ เช่น อ่านบทความเกี่ยวกับการสัมภาษณ์งาน ฝึกตอบคำถามสัมภาษณ์งานยาก ๆ เพราะหลายบริษัทก็จะมีการสัมภาษณ์ในรูปแบบที่คล้ายกัน พอเริ่มรู้แนวและฝึกบ่อย ๆ คุณจะจับทางได้ แต่ที่สำคัญที่สุดคือความมั่นใจที่ต้องพกไปตลอด

 

รวมบทความเคล็ดลับสำหรับการสัมภาษณ์งาน

 

เด็กจบใหม่ก็สู้คนมีประสบการณ์ได้ ถ้ารู้จักเพิ่ม Advanced Skills

ปกติเด็กจบใหม่ก็หางานยากกว่าคนมีประสบการณ์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่เหตุการณ์ COVID-19 ทำให้ Demand และ Supply ในตลาดแรงงานสวนทางกันมากขึ้นกว่าเดิม บริษัทมีตัวเลือกเยอะขึ้น พวกเขาจึงสนใจผู้สมัครที่มีประสบการณ์ประมาณ 1-2 ปี มากกว่าเด็กจบใหม่เพราะมีเรทเงินเดือนแตกต่างกันไม่มาก แต่สิ่งที่เด็กจบใหม่หรือคนที่กำลังจะจบทำได้ตอนนี้คือการเพิ่มทักษะที่มีอยู่ให้เก่งมากขึ้น เช่น รู้พื้นฐาน Excel แล้วก็ลองศึกษาระดับ Advance ให้รู้ลึกมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสูตรคำนวณต่าง ๆ และการทำ Pivot Table หรือพัฒนาทักษะด้านภาษาด้วยการฟังข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศ ที่จะช่วยฝึกทักษะด้านการฟังให้มากขึ้น เมื่อในอนาคตได้ทำงาน ค่อยมาเพิ่ม Professional Skills ในสายงานของตัวเองต่อไป

 

ในช่วงที่ผ่านมา RS GROUP ได้รีแบรนด์องค์กรครั้งใหญ่ มีการปรับเปลี่ยนการบริหารและการดูแลพนักงาน ซึ่งพี่กุลก็ได้แชร์ถึงการบริหารจัดการพนักงานของ RS GROUP ด้วย

 

วัฒนธรรมที่ทรงพลังจะทำให้คนในองค์กรพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง

เนื่องจาก RS GROUP มีการรีแบรนด์และปรับเปลี่ยนโมเดลทางธุรกิจ เขาจึงต้องทำให้วัฒนธรรมขององค์กรแข็งแรงและพร้อมรับความเปลี่ยนแปลงไปด้วยกัน เพราะวัฒนธรรมขององค์เป็นเหมือนตัวกำหนดเป้าหมาย การตัดสินใจ และกระบวนการให้ทุกคนทำงานไปในแนวทางเดียวกัน ก่อนจะหล่อหลอมให้กลายเป็น DNA ขององค์กร ซึ่ง Core Values ของ RS GROUP เองมีทั้งหมด 4 ตัว ได้แก่ แรงบันดาลใจ (Inspiring) ความชอบ มีแรงพลักดัน (Passionate) ความอยากรู้อยากเห็น ตั้งคำถาม(Inquisitive) และ เป้าหมายที่เเน่วเเน่ (Goal-Oriented) นอกจากนี้การสื่อสารในองค์กรก็สำคัญ เพราะต้องสื่อสารออกไปให้พนักงานทุกคนเข้าใจว่าการเปลี่ยนแปลงมีประโยชน์ยังไงกับพวกเขาและองค์กร ถ้าพวกเขารับรู้และเข้าใจไปในทางเดียวกัน ทุกคนในองค์กรก็จะพร้อมใจรับการเปลี่ยนแปลงได้อยู่แล้ว

 

ลดช่องว่างระหว่างผู้บริหารกับพนักงาน เพื่อแก้ปัญหาการสื่อสารที่ล้มเหลว

เหตุการณ์ COVID-19 ส่งผลให้มีการ Work from Home เป็นเวลานาน คนในองค์กรจึงพบปัญหาในเรื่องการสื่อสารที่น้อยลง และก่อให้เกิดความไม่เข้าใจกันตามมาภายหลัง RS GROUP จึงสร้างกิจกรรมให้ผู้บริหารและพนักงานสามารถสื่อสารกันได้อย่างตรงไปตรงมามากขึ้น ลดช่องว่างระหว่างกัน โดยให้พนักงานได้มาเจอกับผู้บริหาร พูดคุยและถามคำถามให้ผู้บริหารตอบ ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้จะทำให้พนักงานรู้สึกมีความสำคัญกับองค์กรมากขึ้น

 

สวัสดิการที่ดีจะทำให้พนักงานรู้สึกพิเศษ

RS GROUP เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ให้ความสำคัญกับสวัสดิการของพนักงาน นอกจากจะขยายออฟฟิศใหม่ให้ใหญ่และสวยขึ้นกว่าเดิมแล้ว ยังกำลังจะมีกิจกรรมที่น่าสนใจให้พนักงานอย่าง RS GROUP Money Expo หรือ งานมหกรรมทางการเงินด้วย โดยจะเชิญธนาคารต่าง ๆ มาเปิดบูธที่บริษัท และมีข้อเสนอสุดพิเศษให้กับพนักงานของ RS GROUP เท่านั้น เช่น สมัครบัตรเครดิตแล้วได้ของแถมสุดพิเศษ หรือให้สินเชื่อกู้บ้านในเรทที่ดีกว่าปกติ เรียกง่าย ๆ คือให้ธนาคารมาแข่งกันเสนอสิทธิพิเศษต่าง ๆ ที่พนักงานหาไม่ได้จากข้างนอกนั่นเอง

 

สนใจรวมงานกับ RS GROUP ได้ ที่นี่

 

สุดท้ายแล้วถึงแม้ว่าคุณจะยังไม่ได้งานในตอนนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่ดี เพียงแค่อาจจะยังดีไม่พอในเวลานี้ หรือยังไม่เจอกับบริษัทเหมาะสม แต่ถึงแบบนั้นก็อยากให้ทุกคนพยายามเดินหน้าสมัครงานต่อไปเรื่อย ๆ คิดซะว่ามันคือการฝึกฝน เอาประสบการณ์หรือคำติชมเหล่านั้นมาพัฒนาปรับปรุงตัวเองไปเรื่อย ๆ เพราะเราเชื่อว่าสักวันนึงคุณจะได้งานที่เหมาะสมกับตัวเองแน่นอน

 

สมัครสมาชิกกับ JobThai เพิ่มโอกาสง่าย ๆ ในการได้งานที่ใช่

 

Oh My Job! Podcast ออนไลน์ทุกวันอังคาร ติดตามได้ในช่องทางต่าง ๆ ดังนี้

 

ติดตามบทความอื่น ๆ จากรายการ Oh My Job! Podcast ได้ที่นี่

 

JobThai Mobile Application สมัครงานง่าย ได้งานเร็ว

iOS

Android

Huawei AppGallery

 

 
JobThai Official Group เพื่อการหางาน หาคน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำงาน
Public group · 42,947 members
Join Group
 

 

tags : jobthai, jobs, omj, oh my job, freshgrade, เด็กจบใหม่, หางาน, งาน, podcast, คนทำงาน, นักศึกษาจบใหม่, rs group, สมัครงาน, เทคนิคการหางาน, สัมภาษณ์งาน, job interview, career & tips, คนหางาน, oh my job!



ติดตามข่าวสารและเรื่องราวดีๆ ทาง Email

ขอบคุณสำหรับการติดตาม