-
ถามตัวเองให้ดี ว่านี่คืองานที่เราอยากจะทำจริง ๆ หรือเปล่า
-
อย่าโอ้อวดคุณสมบัติมากเกินไป พูดเฉพาะส่วนที่จำเป็นเท่านั้น
-
ใช้ Cover Letter ให้เป็นประโยชน์ เพื่อให้ได้โอกาสเข้าไปสัมภาษณ์งาน และอธิบายตัวเอง
-
เลือกสิ่งที่จะใส่ลงไปใน Resume เลือกเฉพาะส่วนที่มีประโยนช์ต่องานที่จะสมัครเท่านั้น
-
ยืดหยุ่นกับเงินเดือน บอกผู้สัมภาษณ์ถึงเป้าหมายที่อาจจะไม่ใช่แค่การเลื่อนขั้น
-
ทำให้คนสัมภาษณ์เห็นว่าคุณอยากทำตำแหน่งนี้จริง ๆ และจะไม่เปลี่ยนใจ
|
|
JobThai Mobile Application หางานง่าย สมัครงานง่าย ได้งานที่ใช่ โหลดเลย
|
|
“Overqualified คือ การมีคุณสมบัติที่มากเกินกว่าที่บริษัทต้องการสำหรับตำแหน่งนั้น”
ต้องยอมรับว่าบางครั้งการเป็นคนเก่งไม่ใช่ว่าจะดีเสมอไป การที่คุณมีคุณสมบัติดีเลิศ เงินเดือนก็สูงขึ้นตามความสามารถจนบางบริษัทอาจสู้เงินเดือนไม่ไหว และที่สำคัญเมื่อคุณมีความสามารถเกินกว่าตำแหน่งที่สมัคร บริษัทอาจกลัวว่าคุณจะเบื่อหรืออยู่กับเขาไม่ยาว และอยากไปทำอะไรที่ท้าทายความสามารถมากกว่า
การรับพนักงานใหม่มีค่าใช้จ่าย และต้องผ่านขั้นตอนต่าง ๆ ไม่น้อย บริษัทส่วนใหญ่จึงไม่อยากให้มีการเข้าออกของพนักงานบ่อย ๆ วันนี้ JobThai เลยมีคำแนะนำดี ๆ มาฝาก สำหรับใครที่ไม่อยากโดนปฏิเสธด้วยคำว่าดีเกินไป
อยากทำงานนี้จริง ๆ รึเปล่า
ลองถามตัวเองว่าเรามั่นใจไหมว่าอยากได้งานนี้จริง ๆ ถึงแม้จะได้เงินที่ต่ำกว่าความสามารถของเรา ลองพิจารณาให้ละเอียดด้วยว่างานนี้จะช่วยให้เราพัฒนาตัวเองได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าคำตอบคืองานนี้จะทำให้เราได้เรียนรู้อะไรบางอย่างที่ต้องการ และเป็นงานที่เราอยากจะทำจริง ๆ ก็อย่ามัวแต่ลังเล ส่งใบสมัครได้เลย
อย่าใส่อะไรที่ Overqualified ใน Resume
ถ้าไม่อยากจะให้ HR ใช้คำว่า Overqualified เป็นเหตุผลในการคัด resume เราทิ้ง เราก็ไม่ต้องใส่ความสามารถหรือประสบการณ์ทั้งหมดที่มีลงไปใน Resume เลือกแค่ประสบการณ์หรือวุฒิการศึกษาที่เพียงพอสำหรับการสมัครงานที่ต้องการ หรือใส่สิ่งที่จะทำให้เราได้เปรียบคนอื่นบ้าง โดยที่ยังไม่ Overqualified เช่น ถ้างานที่เราสนใจ ไม่ได้ต้องการวุฒิปริญญาโท หรือประสบการณ์ที่ไม่เกี่ยวอะไรกับตำแหน่งงานนั้น เราก็ไม่ต้องใส่ลงไป การทำแบบนี้จะทำให้เรซูเม่หลุดจากคำว่า Overqualified ได้
แนะนำตัวเองตอนส่ง Resume
การถูกคัด Resume ทิ้งทั้งที่เรายังไม่มีโอกาสได้เข้าไปสัมภาษณ์นั้นน่าเจ็บใจนัก ดังนั้นเราก็ต้องชิงอธิบายสาเหตุที่อยากจะทำงานตำแหน่งนี้ทั้ง ๆ ที่ Overqualified และสิ่งที่เราคิดว่าจะทำให้บริษัทเพิ่มเติมได้ก่อนซะเลย เช่น ถ้าเราใช้วิธีส่งไฟล์เรซูเม่ไปทางอีเมล เราก็ควรจะเขียน Cover Letter ไปในอีเมลด้วย หรือถ้าสมัครงานผ่านฟีเจอร์ Easy Form ของ JobThai Mobile Application ก็จะสามารถแนะนำตัวเองสั้น ๆ ได้เลย การแนะนำตัวเองก่อนแบบนี้ อาจจจะเพิ่มโอกาสที่ HR จะสนใจและเรียกเราไปสัมภาษณ์ได้
ยืดหยุ่นเงินเดือนบ้าง
ยิ่งคุณทำ Resume ให้มีคุณสมบัติสูง เงินเดือนก็สูงตามเป็นเรื่องปกติ ซึ่งนั่นก็เป็นเหตุผลนึงที่ทำให้ HR ไม่สนใจคนที่ Overqualified เพราะเรียกเงินเดือนสูงกว่า Range ที่เขาตั้งไว้ เราควรจะยืดหยุ่นเรื่องเงินเดือนบ้าง และทำให้เขารู้ว่าเราพร้อมที่จะเจรจาเพื่อหาจุดที่ทั้งเราและเขาโอเค เพราะเราเชื่อว่าส่วนใหญ่คนที่สมัครงานทั้ง ๆ ที่รู้ว่าตัวเอง Overqualified ก็น่าจะให้ความสำคัญกับเนื้องานที่น่าสนใจ ท้าทาย หรือโอกาสในการเปลี่ยนสายงานมากกว่าเรื่องเงิน
แสดง Passion ตอนสัมภาษณ์
หลายคนคิดว่าการบอกคนสัมภาษณ์ว่าสมัครหลายที่อาจทำให้ไม่ได้งาน แต่สำหรับคนที่ Overqualified อาจไม่ใช่แบบนั้นเสมอไป เพราะการบอกว่าเราอยากทำมากถึงขนาดส่งใบสมัครตำแหน่งนี้ไปหลายที่ ทำให้คนสัมภาษณ์เห็นว่าคุณอยากทำตำแหน่งนี้จริง ๆ และจะไม่เปลี่ยนใจ และเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้เขา ลองเล่าสิว่าคุณสมบัติที่เขามองว่ามัน Overqualified นั้นมีประโยชน์อะไรกับการทำงานและบริษัทเขาบ้าง ยิ่งถ้าเรามีประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่สมัคร ก็จะยิ่งได้เปรียบ และอาจจะโดดเด่นกว่าแคนดิเดตคนอื่นได้เลยด้วยซ้ำ
การเลื่อนขั้นไม่ใช่เป้าหมายสูงสุด
เวลาสัมภาษณ์ให้บอกไปว่าเป้าหมายของคุณไม่ใช่การเลื่อนขั้น แต่อย่าสื่อออกไปว่าคุณคือคนไม่มีเป้าหมายในชีวิตอะไรเลย อาจบอกถึงสาเหตุการมาสมัครตำแหน่งนี้ว่าคุณมีเป้าหมายบางอย่างเป็นแรงผลักดันมากกว่าการเลื่อนขั้นเท่านั้นแทน เพราะการเลื่อนขั้นของแต่ละบริษัทมักมีการแข่งขันสูง และคนที่ทำงานมานานอาจมีโอกาสมากกว่า เมื่อคุณสมัครงานมาใหม่ด้วยคุณสมบัติที่ดีเกินกว่ากำหนด เป็นไปได้สูงที่คนสัมภาษณ์จะกลัวว่าเขาจะไม่สามารถเลื่อนขั้นให้ตามความสามารถของคุณในเวลาอันสั้น
อย่าอวดมากไป
ถึงเราจะมีคุณสมบัติที่โดดเด่นกว่าคนอื่น และมั่นใจว่ามันมีประโยชน์ แต่เวลาที่เราสัมภาษณ์ก็อย่าโอ้อวดคุณสมบัติที่เรามีจนมากเกินไป และไม่ต้องเอาแต่พูดว่าเรามีคุณสมบัติแบบนี้แบบนั้นที่มากกว่าคนอื่น ๆ เพราะ HR เขารู้จาก resume เราอยู่แล้ว แต่สิ่งที่เราต้องทำก็คือ อธิบายเหตุผลว่าทำไมถึงสนใจงานนี้ งานนี้สร้างความท้าทายให้กับเรายังไงมากกว่า ยิ่งเราขายความสามารถของตัวเองได้มากเท่าไหร่คนสัมภาษณ์ก็จะสนใจเรามากขึ้น
การที่เรามีคุณสมบัติ Overqualified ไม่ได้หมายความว่าเราจะพลาดงานนั้นเสมอไป ถ้าเราหาโอกาสแสดงความตั้งใจที่จะทำงานนั้น และบอกสิ่งที่เราสามารถทำให้กับบริษัทได้แล้วล่ะก็ เราก็จะสามารถเปลี่ยนตัวเองจากแคนดิเดตที่ Overqualified เป็นคนที่น่าสนใจได้ไม่ยากเลย
|
|
JobThai Official Group เพื่อการหางาน หาคน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำงาน |
Public group · 92,500 members |
|
|
|
ที่มา :
careerbuilder.com
monster.com