เทคนิคการเขียน Resume แบบเจาะลึก: ข้อมูลติดต่อพื้นฐาน (Contact Information)

07/03/25   |   221   |  

 

สิ่งแรกใน Resume ควรเป็นข้อมูลพื้นฐานสำคัญ อย่างชื่อ นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ และที่อยู่อีเมล รวมถึงอาจเพิ่มข้อมูลติดต่อช่องทางอื่น ๆ เพื่อให้บริษัทมีช่องทางเพิ่มเติมในการติดต่อเราได้ เช่น เราอาจใส่ลิงก์ไปยังหน้าแพลตฟอร์ม พอร์ตโฟลิโอออนไลน์ หรือใส่ที่อยู่

 

JobThai Mobile Application สมัครงานง่าย ได้งานเร็ว

iOS

Android

Huawei AppGallery

 

ควรใส่ข้อมูลพื้นฐานอะไรบ้างลงใน Resume

  • ชื่อ-นามสกุล: ใช้ชื่อจริงและนามสกุลตามกฎหมาย หลีกเลี่ยงการใช้ชื่อเล่น 
  • เบอร์โทรศัพท์: ใช้เบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้สะดวก 
  • อีเมล: ใช้ที่อยู่อีเมลที่ดูเป็นทางการ (เช่น firstname.lastname@mailservice.com) หลีกเลี่ยงการใช้ที่อยู่อีเมลที่ดูไม่เป็นมืออาชีพ อีเมลของบริษัทที่ทำงานอยู่ หรืออีเมลนักศึกษา
     

ข้อมูลเพิ่มเติม (อาจใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)

  • URL Social Media: ที่เป็นช่องทางที่นิยมที่คาดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับการสมัครงานในตำแหน่งนี้ เช่น LinkedIn ที่มีความเป็นมืออาชีพสูง หรือใครที่เป็นนักสร้าง Content ชอบตัดต่อวิดิโอ แล้วอยากจะนำเสนอผลงาน ก็สามารถใส่ชื่อช่อง Youtube, Instagram หรือ Tiktok ลงในส่วนนี้ได้
     
  • URL เว็บไซต์/พอร์ตโฟลิโอออนไลน์ (ถ้ามี): การใส่ลิงก์ไปยังพอร์ตโฟลิโอออนไลน์หรือเว็บไซต์ที่แสดงผลงานถือเป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะหากเราอยู่ในสายงาน Creative(เช่น การออกแบบ การเขียน การพัฒนาเว็บไซต์)
     
  • ที่อยู่อาศัย (อำเภอและจังหวัด): โดยทั่วไปแล้ว ที่อยู่สั้น ๆ อย่าง อำเภอ (เขตสำหรับ กทม.) และจังหวัดถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ในบางกรณีเราสามารถละข้อมูลในส่วนนี้ไว้ได้ เว้นแต่จะได้รับการร้องขอเป็นพิเศษจากบริษัท
     
  • บุคคลอ้างอิง (References): รายชื่อบุคคลที่สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้สมัคร โดยบุคคลอ้างอิงไม่ควรเป็นญาติพี่น้อง แต่ควรเป็นผู้ที่สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงาน ความสามารถ และประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมาได้ ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยเสริมความน่าเชื่อถือในการพิจารณาของบริษัท ซึ่งเป็นการยืนยันคุณสมบัติและความเหมาะสมของผู้สมัครจากบุคคลภายนอก โดยปกติแล้วจะเป็นเพื่อนร่วมงาน หรือหัวหน้างาน ในขณะเดียวกันถ้าเราเป็นเด็กจบใหม่ก็สามารถใส่ชื่อหัวหน้างานของบริษัทที่เราฝึกงาน หรืออาจารย์ที่ปรึกษาที่รู้จักเราเป็นอย่างดี เมื่อคิดว่าจำเป็นต้องใส่ชื่อบุคคลอ้างอิง ให้แจ้งผู้ที่ถูกอ้างอิงและบอกกล่าวล่วงหน้าว่าเราจะนำชื่อของพวกเขาใส่ไปใน Resume เพื่อการสมัครงาน และอาจมีการติดต่อไปจากทางบริษัท

 

ตำแหน่งการวางข้อมูลส่วนตัว

  • ตำแหน่ง: โดยส่วนใหญ่แล้วควรวางข้อมูลติดต่อไว้ส่วนบน ๆ ของ Resume ที่มองเห็นได้ง่ายและชัดเจน แต่ถ้า Resume เป็นแบบแบ่งครึ่งหน้ากระดาษก็สามารถไปวางไว้ด้านซ้ายหรือขวาได้ตามความเหมาะสม
     

ตัวอย่างการจัดวางข้อมูลส่วนตัว

แบบบรรทัดเดียวใต้ชื่อ-นามสกุล

นางสาว สมัครใจ มีงานทำ

(02) 123 4567  Samakjai@email.com  https://www.linkedin.com/samakjai

 

แบบหลายบรรทัด

นางสาว สมัครใจ มีงานทำ

(02) 123 4567

Samakjai@email.com

https://www.linkedin.com/samakjai

กรุงเทพมหานคร

 

สิ่งสำคัญที่ห้ามลืม

  • ความสม่ำเสมอและความถูกต้องของข้อมูล: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ใส่ในแต่ละส่วนของใบสมัครถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ มีคำที่สะกดผิดเพราะการพิมพ์ขาดหรือเกินหรือเปล่า เพราะข้อมูลเพียงจุดเดียวที่ผิดพลาดใน Resume นอกจากจะแสดงถึงความไม่ใส่ใจในรายละเอียดแล้ว ในบางกรณี อย่างการใส่หมายเลขโทรศัพท์หรือที่อยู่อีเมลที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้เราพลาดการติดต่อสัมภาษณ์งานจากบริษัทได้
     

หากทำได้ตามนี้ก็มั่นใจได้เลยว่าข้อมูลติดต่อใน Resume ของเราจะมีความเป็นมืออาชีพ และบริษัทที่สนใจก็จะสามารถเข้าถึงได้ง่าย ไม่พลาดทุกโอกาสในการถูกเรียกสัมภาษณ์

 

สรุป

การเขียนข้อมูลพื้นฐานของ Resume แม้จะเป็นสิ่งที่ง่ายที่สุด แต่หลายคนมักจะทำผิดพลาดด้วยการไม่เช็กข้อมูลในส่วนนี้ให้ถูกต้อง และอาจพลาดโอกาสในการถูกเรียกสัมภาษณ์เพราะบริษัทไม่สามารถติดต่อได้ ดังนั้นก่อนส่ง Resume ทุกครั้งอย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีอะไรตกหล่นในการเขียนข้อมูลการติดต่อพื้นฐานเหล่านี้

 

เทคนิคการเขียน Resume แบบเจาะลึก ในส่วนอื่น ๆ

หางานใหม่ที่ใช่ ได้เป็นตัวของคุณเอง ที่ JobThai สมัครสมาชิกและฝากประวัติที่นี่เลย

 

tags : jobthai, งาน, หางาน, สมัครงาน, contact information, ข้อมูลติดต่อ, career & tips, จบใหม่ต้องรู้, นักศึกษาจบใหม่



ติดตามข่าวสารและเรื่องราวดีๆ ทาง Email

ขอบคุณสำหรับการติดตาม