หากคุณเพิ่งเริ่มทำงานได้ไม่นาน แต่อยากพัฒนาตัวเองและเป็นกำลังสำคัญของทีม ลองจินตนาการว่าตัวเองเป็น Spider-man ที่อยู่ในทีม The Avengers ที่เต็มไปด้วยคนเก่ง ๆ มากประสบการณ์ ต่างคนต่างทำงานสนับสนุนกันและกันเพื่อให้บรรลุภารกิจและเป้าหมายขององค์กร แม้การทำงานในโลกแห่งความเป็นจริง เราจะไม่มีพลังเหนือมนุษย์แบบในการ์ตูน แต่เรื่องราวที่น่าทึ่งของตัวละครเหล่านี้ก็สร้างความประทับใจและเป็นแรงบันดาลใจให้แฟน ๆ นำแบบอย่างที่ดีไปใช้ในชีวิตประจำวันและการทำงานได้
JobThai จะพาไปรู้จักตัวตนของซูเปอร์ฮีโร่ของจักรวาล Marvel กันว่า ถ้าเปรียบเทียบกับคนทำงานแล้ว พวกเขามีคุณสมบัติและแนวทางในการทำงานอย่างไรบ้าง แล้วถ้าเราอยากทำงานให้ได้แบบนั้น ต้องฝึกฝนทักษะอะไรกันบ้าง
ทักษะเด่นที่ต้องมี: การคิดวิเคราะห์เชิงลึก (Critical Thinking), การริเริ่มและลงมือทำ (Initiative) และ การคาดการณ์ล่วงหน้า (Prediction)
Tony Stark เป็นทั้งอัจฉริยะด้านการคิดค้นนวัตกรรม และมหาเศรษฐีที่เพียบพร้อมในทุกด้าน ถึงเขาจะไม่มีพลังพิเศษเหนือมนุษย์ แต่ถ้าว่ากันด้วยเรื่องของการทำงานแล้ว Tony Stark ก็คือมันสมองของทีมอย่างแท้จริง เขาเก่งทั้งการใช้เทคโนโลยี การวิเคราะห์ข้อมูล การคาดการณ์เหตุการณ์ล่วงหน้าอย่างแม่นยำ และเมื่อทีมเผชิญกับวิกฤต เขาก็มีแผนสำรองเผื่อทางรอดไว้ให้ทีมอยู่เสมอ นอกจากนี้ Tony Stark ยังมีความมั่นใจในตัวเองสูง เพราะเขาเข้าใจและเห็นคุณค่าในตัวเอง Tony Stark สามารถเปลี่ยนไอเดียจากสมองด้วยสองมือของเขาให้กลายเป็นอาวุธและชุดเกราะ Ironman ที่ทรงพลัง แม้อยู่ช่วงเวลาคับขันก็ยังใช้ไหวพริบหาทางรอดได้ เหมือนกับคำกล่าวที่ว่าสถานการณ์สร้างวีรบุรุษ
สำหรับคนทำงานก็เช่นกัน หากเราได้รับมอบหมายให้ศึกษาหาวิธีแก้ปัญหาบางอย่างให้บริษัท นอกจากจะต้องรู้ว่าจะหาแหล่งข้อมูลที่ถูกต้องในการทำงานได้จากที่ไหนบ้างแล้ว ยังต้องมีทักษะในการวิเคราะห์เพื่อระบุปัญหาได้อย่างตรงจุด เข้าใจปัญหานั้นอย่างลึกซึ้ง สามารถประเมินสถานการณ์ล่วงหน้า ตลอดจนคิดวิธีการแก้ปัญหา และหาทางเลือกสำรองไว้หลาย ๆ ทางหากเกิดปัญหาเฉพาะหน้าที่ทำให้งานไม่เป็นไปตามแผน เมื่อมีไอเดียที่ดีแล้ว ก็ต้องมีการกำหนดเป้าหมายที่ทำได้จริงด้วย งานถึงจะสำเร็จและออกมาเป็นรูปเป็นร่าง เป็นที่เชื่อถือและยอมรับของคนในทีม
ทักษะเด่นที่ต้องมี: ความเป็นผู้นำ (Leadership), ความซื่อสัตย์และยึดมั่นในความถูกต้อง (Integrity) และความเป็นมืออาชีพ (Professionalism)
เพียงเอ่ยชื่อ Captain America ภาพลักษณ์ในการเป็นผู้นำทีม The Avengers ของเขาก็น่าจะเป็นสิ่งแรกที่ทุกคนนึกถึง ด้วยพลังพิเศษที่ได้มาจากการทดลองโครงการ Super Soldier ที่เขาเป็นอาสาสมัครเพื่อปกป้องประเทศให้รอดพ้นจากภัยสงคราม ทำให้เขาไม่มีวันแก่ชรา แต่พลังพิเศษที่แท้จริงของเขากลับเป็นจิตใจที่เข้มแข็ง การยึดมั่นในอุดมการณ์ความถูกต้อง และการเสียสละเพื่อส่วนรวม ซึ่งเขามีคุณสมบัติเหล่านี้มาก่อนจะได้รับพลังพิเศษจากการทดลองเสียอีก และถ้าพูดถึงประสบการณ์การทำงาน เขาคนนี้ก็ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากกว่าใคร ๆ ไม่ว่าจะยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เขาเพิ่งได้เป็นฮีโร่มือใหม่ หรือ ในยุคปัจจุบัน Steve Rogers ก็ได้แสดงให้เห็นถึงภาวะผู้นำ และอุดมการณ์ที่แรงกล้าและมั่นคงมาโดยตลอด จนเป็นที่นับถือของฮีโร่ทุกคนที่เคยร่วมงานด้วย ยิ่งไปกว่านั้น Captain America ยังมีความเป็นมืออาชีพในการทำงาน ให้เกียรติและปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน คุณสมบัติเหล่านี้เป็นสิ่งที่ผู้นำที่ดีต้องมี ไม่ว่าคนธรรมดา หรือ ซูเปอร์ฮีโร่
เมื่อต้องทำงานร่วมกันเป็นทีมแล้ว ก็ต้องมีผู้นำที่ดีพาทีมไปสู่เป้าหมาย หากผู้นำทีมอ่อนแอ หรือ คนในทีมไม่เชื่อมั่นในตัวหัวหน้า ต่างคนต่างทำงานไปคนละทิศคนละทาง การทำงานก็จะไร้ระเบียบ และไม่สามารถไปถึงจุดหมายที่วางไว้ได้ ทั้งนี้การเป็นหัวหน้างาน นอกจากต้องมีการวางแผนเพื่อการทำงานในแต่ละขั้นตอนอย่างรัดกุมแล้ว ยังต้องใส่ใจในรายละเอียดในอีกหลายเรื่อง เช่น การบริหารจัดการเวลา การแบ่งงานให้เหมาะสมกับความสามารถของสมาชิกในทีม และการสร้างความสัมพันธ์ของคนในทีม ซึ่งทักษะต่าง ๆ นี้เราสามารถสร้างได้ตั้งแต่วันแรกที่ได้ทำงาน ในอนาคตเมื่อเราก้าวหน้าได้เลื่อนตำแหน่งและเป็นหัวหน้า เราก็จะมีความพร้อมในการเป็นหัวหน้าทีม และดูแลทีมของเราได้
ทักษะเด่นที่ต้องมี: การแก้ปัญหา (Problem-solving), ความเด็ดขาดในการตัดสินใจ(Decisiveness) และ ความสามารถในการฟื้นฟูกลับสู่สภาพเดิม (Resilience)
เจ้าชายแห่งอาณาจักร Asgard และเทพเจ้าแห่งสายฟ้าอย่าง Thor เป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแกร่งในพลังการต่อสู้ในสนามรบ และหลายครั้งเขาก็ต้องเผชิญหน้ากับตัวร้ายที่เก่งกว่าที่มารุกรานความสงบสุขและความปลอดภัยของพลเมืองในอาณาจักรของเขา แต่เขาก็ไม่เคยกลัวและสู้สุดใจทุกครั้ง จนสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาชนะได้ นอกจากความสามารถเฉพาะตัวแล้ว เขาก็ต้องอาศัยการร่วมแรงร่วมใจของเพื่อน ๆ ในการฝ่าวิกฤตความเป็นความตายไปด้วยกัน Thor รู้ว่าเขาจะแพ้ไม่ได้เพราะยังมีชาวเมืองที่เขาต้องปกป้องรออยู่
สิ่งที่คนทำงานจะเรียนรู้ได้จาก Thor ได้แก่ การมีสติในการรับมือกับปัญหาเฉพาะหน้าที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ความเด็ดขาดในการตัดสินใจและยึดมั่นตามแนวทางนั้น ถ้าเราตั้งใจทำอะไรอย่างเต็มที่ และไตร่ตรองมาอย่างดีแล้วว่าการตัดสินใจของเรานั้นถูกต้อง ก็ขอให้ยึดมั่นไม่เปลี่ยนใจง่าย ๆ หรือ ถ้าล้มแล้ว ก็ลุกให้ไว้ เมื่อเจอกับสถานการณ์ที่ดูเหมือนจะไร้ทางออก ก็อย่าเพิ่งถอดใจ เพราะทุกปัญหาย่อมมีทางออกเสมอ การเป็นผู้นำที่ดีจึงต้องอาศัยความเชื่อมั่นในความสามารถของตัวเองและความเชื่อมั่นในศักยภาพของทุกคนในทีม การเป็นแบบอย่างที่ดีของหัวหน้าที่มีความมั่นคงในการตัดสินใจจะทำให้คนในทีมเกิดความศรัทธาและเป็นแรงผลักดันให้คนอื่น ๆ ในทีมปฏิบัติตามด้วยความเชื่อใจ จนเกิดความสามัคคี และจับมือกันรอดพ้นจากปัญหาที่กำลังเผชิญได้
ทักษะที่ต้องมี: การค้นคว้าหาข้อมูล (Research), การโน้มน้าวโดยอาศัยเหตุผล (Persuasion) และ การฟังอย่างเข้าใจ (Active Listening)
Bruce Banner อีกหนึ่งตัวตนของ The Hulk เจ้ายักษ์เขียวจอมพลัง กลับเป็นเพียงนักวิทยาศาสตร์สาขาฟิสิกส์นิวเคลียร์ที่ชอบเก็บตัว แต่ก็มีนิสัยอ่อนโยน รับฟังปัญหาของคนอื่นอย่างเห็นอกเห็นใจ (แม้ตัวเองก็มีปัญหา) รวมถึงพร้อมช่วยเพื่อนฮีโร่คนอื่น ๆ ด้วยความสามารถทางวิชาการที่เขามีหากทีมต้องการ แม้ความเป็นอัจฉริยะจะเป็นพรสวรรค์ที่ไม่สามารถลอกเลียนแบบได้ง่าย ๆ แต่การทำงานที่ยากและซับซ้อนให้เนี้ยบเหมือนนักวิจัยอย่าง Bruce Banner นั้นสามารถฝึกฝนกันได้ โดยอาศัยกระบวนการการทำงานที่มีหลักเกณฑ์ เป็นขั้นเป็นตอน เหมือนกระบวนการทดลองทางวิทยาศาสตร์ ที่สามารถตั้งสมมติฐาน ทดลอง และ พิสูจน์ความถูกต้องได้
ถ้าเรายึดเอาแนวทางการทำงานของนักวิชาการแบบ Bruce Banner มาใช้กับการพัฒนาการทำงานของตัวเราเอง จะทำให้งานของเรามีความน่าเชื่อถือ หากถูกตั้งคำถาม เราก็สามารถตอบได้อย่างเป็นเหตุเป็นผลตามหลักการและเอกสารอ้างอิงที่เราค้นคว้ามา นอกจากนี้การเป็นผู้ฟังที่ดี จะทำให้เราเข้าใจเนื้อหาของการทำงาน และรับรู้อารมณ์ความรู้สึกของเพื่อนร่วมงานในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี เป็นประโยชน์ทั้งเรื่องการทำงาน และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อเพื่อนร่วมงานไปในตัว
ทักษะเด่นที่ต้องมี: การคิดเชิงสร้างสรรค์ (Creative Thinking), การปรับตัว (Adaptability) และ ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี (Tech Savvy)
นอกเหนือจาก Gadget สุดล้ำ อย่างเครื่องยิงใยแมงมุมที่เขาประดิษฐ์ขึ้นเองจากความเก่งกาจด้านเทคโนโลยี และพลังพิเศษเหมือนกับแมงมุงแล้ว Peter Parker ก็คือเด็กวัยรุ่นธรรมดาคนหนึ่ง ที่ต้องเจอกับปัญหาชีวิตเหมือนกับคนทั่วไป นั่นทำให้เขาเป็นหนึ่งในตัวละครยอดนิยมของแฟน ๆ ทั่วโลก เนื่องจากเรื่องราวของเขาเข้าถึงได้ง่ายกว่าฮีโร่คนอื่น จะว่าไปแล้วก็คล้ายกับเส้นทางการเรียนรู้งานของเด็กจบใหม่ ที่เพิ่งเริ่มต้นชีวิตการทำงานได้ไม่นาน สิ่งที่คนทำงานวัยนี้ทำได้คือ ตั้งใจทำงาน เก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปเรื่อย ๆ รับอาสาทำงานที่ตัวเองไม่เคยทำ แต่อยากลองทำเพื่อช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีมและได้พัฒนาทักษะของตัวเองไปในตัว
นอกจากนี้ Spider-man มักจะพบกับศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าอยู่เสมอ แต่เขาก็สามารถใช้ไหวพริบในการแก้ไขปัญหาได้ทุกครั้ง (แม้จะรอดแบบเฉียดฉิวก็ตาม) ก็เหมือนกับคนที่เพิ่งเริ่มทำงานที่ยังมีหลายสิ่งที่เรายังต้องเรียนรู้ ยิ่งเราปรับตัวได้ดีและเรียนรู้งานได้เร็ว และอาศัยความได้เปรียบเรื่องเทคโนโลยี เหมือน Spider-man เพื่อทำให้การทำงานง่ายขึ้น ทักษะเหล่านี้จะกลายเป็นแต้มต่อให้คนทำงานรุ่นใหม่พัฒนาได้แบบก้าวกระโดด
ทักษะเด่นที่ต้องมี: องค์ความรู้จากหลากหลายสาขา (Cross-Disciplinary Knowledge), การเป็นที่ปรึกษาสอนงาน (Coaching) และ การคิดอย่างมีวิสัยทัศน์ (Visionary Thinking)
Doctor Stephen Strange หรือที่คนไทยเรียกกันติดปากว่า หมอแปลก เป็นตัวอย่างของคนทำงานที่เก่งหลายด้าน แม้โชคร้ายจากอุบัติเหตุจะทำให้เขาต้องจำใจเปลี่ยนสายงาน จากศัลยแพทย์มือดีกลายมาเป็นพ่อมดที่ใช้เวทย์มนต์เป็นพลังพิเศษ แต่นั่นก็ทำให้เขาได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ในชีวิต นอกจากนั้น Doctor Strange ยังเปรียบเสมือนคลังความรู้เคลื่อนที่ได้สำหรับคนอื่นในทีมที่ต้องการความช่วยเหลือ เพราะเขาศึกษาตำราเวทย์มนต์โบราณมากมายเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการปกป้องโลกจากภัยคุกคามจากนอกโลกและมิติอื่น ๆ
ถ้าเปรียบซูเปอร์ฮีโร่คนนี้กับคนทำงานก็คงเหมือนกับพนักงานที่อยู่ในองค์กรมายาวนาน รู้จักองค์กรในทุกแง่มุม ผ่านประสบการณ์มามาก เมื่อเจอกับปัญหาในการทำงาน ก็พอที่จะมองสถานการณ์ออก และรู้ว่าต้องทำอย่างไรเพื่อแก้ไขสถานการณ์ นอกจากนี้เขายังรับบทเป็นพี่เลี้ยงให้กับ Spider-man และฮีโร่รุ่นน้องอีกหลาย ๆ คนด้วย ซึ่งก็ไม่ต่างจากคนทำงานที่เมื่อถึงวันหนึ่งที่เราสะสมทักษะในการทำงานจนชำนาญแล้ว บทบาทต่อไปที่เราจะได้รับก็คือการสอนงานให้กับคนในทีมหรือพนักงานใหม่ เพื่อสืบทอดความรู้ให้อยู่กับองค์กรต่อไป
บทเรียนสำคัญสำหรับคนทำงานอีกประเด็นหนึ่งก็คือ การเรียนรู้เพื่อการทำงานนั้น เราควรรู้ลึก รู้กว้าง รู้รอบด้าน คนทำงานอย่างเรา ๆ บางครั้งก็ควรศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมนอกเหนือจากงานที่ทำบ้าง เผื่อว่าจะได้เปิดหูเปิดตา เปิดโลกทัศน์ให้กว้างขึ้น เหมือนที่ Doctor Strange เปิดประตูมิติไปยัง Multiverse ที่มีสิ่งใหม่ ๆ ให้ได้เรียนรู้นอกเหนือจากความคุ้นเคยเดิม ๆ ซึ่งจะทำให้เราเก่งขึ้น พร้อมรับความเปลี่ยนแปลงที่ท้าทายมากขึ้นในวันข้างหน้า ถ้าเจอพี่ ๆ ที่ทำงานเก่ง ๆ แบบนี้ ก็อย่ารอช้า รีบเข้าไปทำความรู้จัก และขอแบ่งปันประสบการณ์ทำงานจากพวกเขาเพื่อต่อยอดความรู้ในการทำงานของเรา
สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าเราจะทำงานเก่งขนาดไหน ก็ไม่สามารถทำงานให้ประสบความเสร็จเพียงตัวคนเดียวได้ นอกจากเราจะต้องทำงานของตัวเองให้มีคุณภาพแล้ว ยังต้องใส่ใจกับการทำงานร่วมกับผู้อื่น รวมถึงให้ความสำคัญกับการสื่อสาร ประสานงานเพื่อให้ทุกขั้นตอนของการทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น ในการทำงานทุกคนล้วนก็มีบทบาทและหน้าที่ที่ต่างกัน แต่ความแตกต่างนั้นมีบทบาทสำคัญหนึ่งเดียวคือเพื่อขับเคลื่อนการทำงานในทีมให้สำเร็จตามเป้าหมายของแผนกและองค์กรโดยรวมของเรา หวังว่าคุณจะได้ไอเดียและแรงบันดาลใจในการทำงาน และกลายเป็นฮีโร่คนเก่ง เป็นที่รักของเพื่อนร่วมงานทุกคน
JobThai Official Group เพื่อการหางาน หาคน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำงาน
ที่มา:
edglossary.org, entrepreneur.com, fandomwire.com, jaipuria.ac.in, marvel.com, riskology.com, talentlms.com, theundercoverrecruiter.com