Resume แต่ละส่วนสำคัญยังไง ต้องเขียนแบบไหนให้ถูกใจบริษัท

07/03/25   |   231   |  

 

 

Resume คือ ประตูบานแรกที่จะเปิดโอกาสไปสู่การร่วมงานกับบริษัทในฝัน หัวใจสำคัญของการเขียน Resume คือการนำเสนอคุณสมบัติที่สำคัญและโดดเด่นที่สุดของเราให้บริษัทเห็น ในขณะเดียวกันเราก็ต้องหาวิธีให้คนที่อ่าน Resume มองเห็นสิ่งที่พวกเขากำลังตามหาได้เร็วที่สุด นอกจากการจัดลำดับความสำคัญว่าจะเลือกนำเสนอเนื้อหาอะไรลงใน Resume แล้ว ผู้สมัครงานทุกคนยังต้องคำนึงถึงรูปแบบการนำเสนอ และการเรียงลำดับข้อมูลในแต่ละส่วน ให้มีความน่าสนใจและดึงดูดคนอ่านได้ภายในเวลาสั้น ๆ ด้วย วันนี้ JobThai ได้รวบรวมเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับแต่ละส่วนของ Resume พร้อมเทคนิคในการเขียนเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้คนที่กำลังจะสมัครงานทุกคน

 

JobThai Mobile Application สมัครงานง่าย ได้งานเร็ว

iOS

Android

Huawei AppGallery

 

โครงสร้างของ Resume แต่ละส่วน

Resume คือการสื่อสารกันครั้งแรกระหว่างผู้สมัครงานและบริษัท เนื้อหาในแต่ละส่วนของResume จึงมีความสำคัญสำหรับการแนะนำตัวให้บริษัทที่เราอยากสมัครงานซึ่งไม่รู้จักตัวตนของเรามาก่อนสามารถทำความเข้าใจคุณสมบัติต่าง ๆ ของเราในเบื้องต้น ถ้าเราเขียนข้อมูลในแต่ละส่วนได้ดี มีเนื้อหาครบถ้วนและสอดคล้องกับสิ่งที่บริษัทกำลังตามหาอยู่ ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสในการถูกเรียกสัมภาษณ์งานได้

 

ไปดูกันว่ากว่าจะเป็น Resume สำหรับใช้สมัครงานได้ เนื้อหาแต่ละส่วนมีความสำคัญอย่างไรบ้าง

 

1. ข้อมูลติดต่อพื้นฐาน

การเขียนข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลสำหรับติดต่อลงใน Resume แม้จะเป็นสิ่งที่ง่ายที่สุด แต่หลายคนอาจลืมตรวจสอบว่าเราใส่ข้อมูลติดต่อกลับไว้ถูกต้องหรือไม่ ทำให้บางครั้งเราอาจพลาดโอกาสในการถูกเรียกสัมภาษณ์เพราะบริษัทไม่สามารถติดต่อได้ ดังนั้นก่อนส่ง Resume ทุกครั้งอย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีอะไรตกหล่นในการเขียนข้อมูลการติดต่อพื้นฐานเหล่านี้

อ่านเทคนิคการเขียนข้อมูลติดต่อพื้นฐานแบบเจาะลึกได้ ที่นี่

 

2. รูปถ่าย

เมื่อบริษัทระบุให้เราแนบรูปมาใน Resume ด้วย เราต้องเลือกภาพที่สะท้อนตัวเราได้เป็นอย่างดี ในขณะเดียวกันก็ต้องสอดคล้องกับทั้งวัฒนธรรมองค์กรและตำแหน่งงานที่สมัคร การเลือกรูปภาพที่เหมาะสมในการสมัครงาน นอกจากจะแสดงถึงความเป็นมืออาชีพแล้ว ยังแสดงถึงความใส่ใจในรายละเอียดและการทำตามความต้องการที่บริษัทระบุมาในประกาศรับสมัครงานด้วย

 

อ่านเทคนิคการใส่รูปถ่ายแบบเจาะลึกได้ ที่นี่

 

3. สรุปข้อมูลการทำงาน/เป้าหมายอาชีพ

แต่ละวันบริษัทต้องเจอ Resume จำนวนมาก การเขียนสรุปประวัติการทำงานและเป้าหมายอาชีพใน Resume จึงเป็นส่วนที่สามารถดึงดูดความสนใจจากหัวหน้างานหรือ HR ที่เข้ามาอ่านประวัติของเราได้ เพราะทำให้พวกเขาเห็นคุณสมบัติที่หรือทักษะการทำงานคร่าว ๆ รวมไปถึงเป้าหมายในการสมัครงานของเราได้ตั้งแต่บรรทัดแรก ๆ ของ Resume ทำให้บริษัทอยากอ่านประวัติของเราต่อเพื่อดูว่าเราเป็นคนที่ใช่สำหรับพวกเขาหรือไม่

 

อ่านเทคนิคการเขียนสรุปประวัติการทำงานและเป้าหมายอาชีพแบบเจาะลึกได้ ที่นี่

 

4. ประสบการณ์การทำงาน

ประสบการณ์การทำงานเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ทุกบริษัทต้องการอ่านใน Resume เพื่อประเมินว่าเรามีประสบการณ์ตรงกับที่เขาต้องกานไหม และมีแนวโน้มจะทำงานได้ดีมากน้อยแค่ไหนก่อนตัดสินใจเรียกสัมภาษณ์ ถ้าประสบการณ์ทำงานและทักษะที่เราเขียนไว้ใน Resume ตรงกับคุณสมบัติที่พวกเขาตามหา ก็มั่นใจได้เลยว่าโอกาสถูกเรียกสัมภาษณ์นั้นมีสูงแน่นอน

 

อ่านเทคนิคการเขียนประสบการณ์การทำงานแบบเจาะลึกได้ ที่นี่

 

5. ทักษะการทำงาน

ทักษะในการทำงานคือความสามารถในการทำงานของเรา บริษัทจะประเมินคร่าว ๆ ว่าทักษะที่เราใส่ไปใน Resume สามารถเทียบเคียงกับหน้าที่การทำงานในตำแหน่งที่พวกเขากำลังหาคนอยู่ได้ยังไงบ้าง ไม่ว่าจะเป็น ทักษะเฉพาะทาง (Hard Skills) หรือทักษะการทำงานทั่วไปที่สามารถประยุกต์ใช้ได้กับทุกตำแหน่ง (Soft Skills) หรือทักษะอื่น ๆ อย่างทักษะทางภาษา

 

อ่านเทคนิคการเขียนทักษะการทำงานแบบเจาะลึกได้ ที่นี่

 

6. ประวัติการศึกษา

ประวัติการศึกษาบ่งบอกองค์ความรู้ที่เรามีสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ตามสายงาน บริษัทจะตรวจสอบเนื้อหาส่วนนี้ว่าเรามีคุณสมบัติด้านวุฒิการศึกษาครบถ้วนตามที่กำหนดไว้หรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำแหน่งที่ต้องจบตรงสาย หรือต้องมีการสอบใบอนุญาตในการประกอบอาชีพเฉพาะทาง เช่น อาชีพแพทย์ พยาบาล วิศวกร ทนายความ หรือครู

 

อ่านเทคนิคการเขียนประวัติการศึกษาแบบเจาะลึกได้ ที่นี่

 

7. ความสำเร็จในการทำงาน

ความสำเร็จที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นประสิทธิภาพการทำงาน หรือรางวัลที่มีการมอบให้อย่างเป็นทางการคือความสำเร็จที่เป็นรูปธรรมและทำให้บริษัทเห็นถึงผลกระทบในทางที่ดีที่เราเคยทำได้และตั้งตารอว่าเราจะนำเอาความสามารถที่ได้รับการการันตีมาใช้กับบริษัทของพวกเขายังไงบ้าง

 

อ่านเทคนิคการเขียนความสำเร็จในการทำงานแบบเจาะลึกได้ ที่นี่

 

8. การฝึกอบรมและใบประกาศนียบัตรอื่น ๆ

การฝึกอบรมและประกาศนียบัตรที่จะช่วยเสริมให้ข้อมูลใน Resume ของเรามีความน่าเชื่อถือมากขึ้น HR หรือหัวหน้างานในอนาคตที่ได้เห็น Resume จะมั่นใจในคุณสมบัติของเราผ่านการรับรองโดยสถาบันฝึกอบรมที่น่าเชื่อถือ ทำให้เราดูโดดเด่นกว่าผู้สมัครคนอื่น ๆ ที่ไม่ได้ใส่ข้อมูลเรื่องการพัฒนาทักษะการทำงานมาด้วย

 

อ่านเทคนิคการเขียนการฝึกอมรมและใบประกาศนียบัตรอื่น ๆ แบบเจาะลึกได้ ที่นี่

 

ข้อมูลแต่ละส่วนของ Resume ล้วนมีความสำคัญและอาจทำให้บริษัทสนใจอยากเรียกเราไปสัมภาษณ์ได้ อย่างไรก็ตาม ไม่มีกฎที่ตายตัวสำหรับการเรียบเรียงเนื้อหาใน Resume ถ้าเรารู้จักตัวเองเป็นอย่างดี รู้ว่าจะต้องนำเสนอข้อมูลส่วนไหนให้โดดเด่น จะปรับ เพิ่ม ลด หรือเรียงลำดับใหม่ก็สามารถทำได้ตามสไตล์ที่แต่ละคนถนัด 

 

เทคนิคสำคัญสำหรับการเขียน Resume

ทิ้งท้ายกันด้วยวิธีเขียน Resume ในภาพรวมที่คนสมัครงานสามารถนำไปปรับใช้ก่อนเขียนเนื้อหาในแต่ละส่วน จะมีเทคนิคอะไรบ้าง ไปดูกัน  

 

  • เขียนเนื้อหาเป็นข้อ ๆ แบบ Bullet Points ไม่ควรเกิน 2 หน้ากระดาษ
     
  • ปรับเนื้อหาของ Resume ให้เข้ากับประกาศรับสมัครงาน อย่าเขียนแบบกลาง ๆ แล้วส่งหลายบริษัทเหมือนกันหมด ในขณะเดียวกันก็ไม่จำเป็นต้องใส่ข้อมูลทุกอย่างไปในResume บริษัทต้องการรู้เฉพาะเกี่ยวกับงาน ประสบการณ์ หรือทักษะที่เกี่ยวข้องกับบทบาทที่เราสมัครเท่านั้น

 

  • ใช้คำสำคัญ (Keyword) ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับตำแหน่งที่สมัคร ลองตรวจสอบรายละเอียดประกาศรับสมัครงานเพื่อหาคำสำคัญและใส่ไว้ใน Resume อย่างเป็นธรรมชาติตามประสบการณ์จริงที่เรามี เช่น หากประกาศระบุความต้องการ "ทักษะการบริหารเวลาที่ยอดเยี่ยม" เราก็สามารถระบุการบริหารเวลาในส่วนทักษะและประวัติการทำงานได้ การใช้คำสำคัญสามารถช่วยให้บริษัทอ่านเจอคุณสมบัติของเราที่ตรงกับสิ่งที่เขากำลังตามหาได้เร็วยิ่งขึ้น ทำให้มีแนวโน้มมากขึ้นที่พวกเขาจะตรวจสอบเอกสารการสมัครที่เหลือของเราเพิ่มเติม และนำไปสู่โอกาสในการเรียกสัมภาษณ์งานได้

 

  • ถ้าอยากให้ทุกตัวอย่างที่เราอ้างอิงถึงประสบการณ์ทำงานใน Resume น่าสนใจ น่าเชื่อถือ และเข้าใจได้ง่ายในทันที ควรยกตัวอย่างที่เป็นรูปธรรม สามารถวัดปริมาณ มีตัวชี้วัดเป็น ตัวเลข หรือสถิติมารองรับ

 

  • รูปแบบของ Resume ที่มีความเป็นมืออาชีพโดยทั่วไปจะมีชื่อ-นามสกุลของเราในฟอนต์ที่ใหญ่ที่สุดในหน้ากระดาษ ตามด้วยข้อมูลติดต่อ ควรใช้ฟอนต์ที่อ่านง่าย หรือเป็นฟอนต์พื้นฐาน เช่น Times New Roman สำหรับหัวข้อใหญ่ต่าง ๆ ก็ควรใช้ตัวหนาเพื่อดูโดดเด่น และเว้นวรรคระหว่างเนื้อหาแต่ละบรรทัดอย่างเหมาะสม ไม่แน่นจนเกินไปเพื่อให้คนพิจารณา Resume ของบริษัทสามารถกวาดตาสแกนอ่านแต่ละส่วนได้อย่างชัดเจนและรวดเร็ว

 

  • ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล และคำผิดก่อนส่ง Resume ทุกครั้งเพื่อแสดงถึงความรอบคอบและความเป็นมืออาชีพในการติดต่อกับบริษัท

 

แม้เราจะรู้จักตัวเองเป็นอย่างดี มีทักษะ ความชำนาญและประสบการณ์ในการทำงานมากมาย แต่ถ้าเราเขียนเนื้อหา Resume ธรรมดาเกินไป ใส่ข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องมากเกินไปหรือไม่ได้แสดงข้อมูลเกี่ยวกับตัวเองที่ตรงกับบริษัทตามหาอยู่มากพอ บริษัทก็อาจจะไม่สนใจอ่านประวัติของเราเลยก็ได้ จำไว้เสมอว่าในการเขียน Resume เพื่อการสมัครงาน เราต้องนำเสนอคุณสมบัติที่โดดเด่นของเราให้บริษัทเห็นได้ใน 1-2 หน้ากระดาษให้ได้

หางานใหม่ที่ใช่ ได้เป็นตัวของคุณเอง ที่ JobThai สมัครสมาชิกและฝากประวัติที่นี่เลย

 

tags : jobthai, งาน, หางาน, สมัครงาน, resume, เรซูเม่, ประวัติการทำงาน, ทักษะ, เคล็ดลับการทำงาน, คนทำงาน, คนหางาน, เด็กจบใหม่, career & tips



ติดตามข่าวสารและเรื่องราวดีๆ ทาง Email

ขอบคุณสำหรับการติดตาม