ร่างกายยังมีเมื่อยล้า แล้วสมองที่ต้องทำงานอยู่ตลอดเวลาจะไม่ต้องการพักได้อย่างไร โดยเฉพาะในช่วงเวลาการทำงาน เคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมการงีบหลับช่วงสั้น ๆ สามารถทำให้สมองเรากลับมาตื่นตัวขึ้นได้ ไม่ต่างจากการนอนหลับอย่างเต็มอิ่ม แต่เรื่องนี้จะจริงแท้แค่ไหน เราจะพาไปไขข้อสงสัยในเรื่อง Power Nap หรือพลังแห่งการงีบหลับ ที่ช่วยปลุกสมองให้กลับมาโลดแล่นได้อีกครั้งในระหว่างวัน 

Power Nap คือการงีบหลับในช่วงสั้น ๆ ที่ไม่เกิน 15-20 นาที ซึ่งเป็นชั่วขณะที่ร่างกายยังไม่เข้าสู่ภาวะหลับลึก จึงไม่ทำให้หลังตื่นมาแล้วรู้สึกมึนงง เฉื่อยชา หรืออ่อนเพลีย จึงเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหลายองค์กรชั้นนำ ที่ได้ใช้วิธีนี้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานขององค์กรโดยรวมแล้วเห็นผล โดยเป็นการทำให้พนักงานได้คลายความเมื่อยล้าจากการทำงานช่วงเช้า และพร้อมสู้ต่อในช่วงบ่ายอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 

หลายคนอาจจะคิดว่าการงีบหลับ ก็คือการพักฟื้นร่างกายจากความเหนื่อยล้าที่นอนไม่พอ แต่ในความเป็นจริงนั้นไม่ใช่อย่างที่คิดเลย เพราะข้อดีของการทำ Power Nap มีมากกว่านั้น เพราะมีส่วนช่วยในหลายด้านที่ใช่แค่การพักผ่อน แต่ข้อดีที่ว่านั้นจะมีอะไรบ้าง เราจะมาอธิบายให้เห็นภาพชัด ๆ ไปพร้อม ๆ กัน 

1. สมองตื่นตัว ช่วยให้ความจำดีขึ้น

การงีบหลับแบบ Power Nap เป็นการนอนในช่วงระยะหลับตื้น (Non-Rapid Eye Movement Sleep) ที่ทำให้หลังตื่นนอนขึ้นมาจะไม่รู้สึกมึนงง อ่อนเพลีย แต่จะรู้สึกกระปรี้กระเปร่า สมองตื่นตัวมากขึ้น และช่วยฟื้นฟูการทำงานของสมองให้จดจำได้ดีกว่าเดิม ซึ่งส่งผลดีต่อการทำงานในช่วงบ่ายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น 

2. ผ่อนคลาย และช่วยลดความเครียด

ในระหว่างวัน เราจำเป็นจะต้องใช้สายตาอยู่ตลอดเวลา ไม่เว้นแม้กระทั่งช่วงพักเที่ยง การได้ทำ Power Nap เพื่องีบหลับช่วงสั้น ๆ จึงสามารถช่วยลดระดับความเครียดลงได้ และยังทำให้ร่างกายทุกส่วนผ่อนคลายลง ซึ่งหนึ่งในปัญหาที่คนเราเกิดออฟฟิศซินโดรม หรืออาการเครียดส่วนใหญ่ ก็มักจะมาจากการนั่งในท่าเดิมเป็นระยะเวลานาน บวกกับการใช้สายตาจ้องหน้าจอตลอดเวลาจนเครียดนั่นเอง 

3. ปรับอารมณ์ให้ดีขึ้น

เมื่อร่างกายได้ผ่อนคลายในขณะงีบหลับ โดปามีนจะถูกหลั่งออกมาโดยไม่รู้ตัว ซึ่งฮอร์โมนที่ว่านี้มีส่วนสำคัญอย่างมากในการทำให้เรารู้สึกดี มีความสุข จึงมีส่วนช่วยให้เรารู้สึกพร้อมกับการทำงานในช่วงบ่ายได้ดีขึ้น เพราะต้องไม่ลืมว่า ความเหนื่อยล้าจากการทำงานไม่ได้มาจากร่างกายที่ไม่พร้อมเท่านั้น แต่สภาวะจิตใจก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่พบเจอได้บ่อยในช่วงหลายปีหลัง หรือที่เรียกว่าอาการ Brownout

4. กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์

นอกจากช่วยให้สมองตื่นตัวแล้ว Power Nap ยังมีส่วนช่วยในเรื่องของความคิดสร้างสรรค์เช่นกัน เพราะเมื่อสมองได้รับการพักผ่อนที่ไม่ใช่การหลับลึก จะทำให้ระบบความคิดกลับมาทำงานได้เหมือนตอนตื่นนอนใหม่ ๆ ในช่วงเช้า จึงสามารถช่วยให้มีความริเริ่มในสิ่งต่าง ๆ ได้ดี และตอบโจทย์คนทำงานที่ต้องใช้ความคิดนอกกรอบได้ค่อนข้างดี  

5. ลดความดันโลหิตลง ป้องกันความเสี่ยงจากโรคหัวใจ

สุขภาพ ก็เป็นอีกเรื่องที่การงีบหลับช่วยได้นอกเหนือจากการทำงานเช่นกัน ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าการงีบเพียงสั้น ๆ ด้วยการทำ Power Nap จะช่วยลดความดันโลหิตลง และยังป้องกันความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจขึ้นด้วย แม้จะเป็นระยะเวลาสั้น ๆ แต่ก็ยังส่งผลดีต่อร่างกายมากกว่าคนที่ไม่ได้งีบเลยตลอดวัน 

ระยะเวลาที่เหมาะสมในการทำ Power Nap คือกี่นาที

การทำ Power Nap เพื่องีบหลับให้เต็มประสิทธิภาพมากที่สุด คือการงีบหลับที่ไม่เกิน 15-20 นาที เพราะเกินกว่านั้นจะทำให้ร่างกายเริ่มเข้าสู่ช่วงหลับลึก ซึ่งจะส่งผลเสียมากกว่าผลดีหลังตื่นนอน และเคล็ดลับที่ควรทำร่วมด้วยก็คือการดื่มกาแฟก่อนทำการงีบหลับ เพราะเมื่อเราตื่นนอนขึ้นมาจะเป็นช่วงที่คาเฟอีนนั้นออกฤทธิ์เต็มที่พร้อมทำงานในทันที รวมไปถึงสภาพแวดล้อมอย่างแสงในห้อง อุณหภูมิ กลิ่น และเสียงล้วนมีความสำคัญทั้งหมด

จึงควรปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศให้อยู่ที่ 22-25 องศาเซลเซียส ในความเย็นที่รู้สึกสบายตัว และควรใช้ไฟสลัวที่ใกล้เคียงกับแสงธรรมชาติ หรือเลือกที่จะปิดไฟแทนก็ได้เช่นกัน ส่วนในเรื่องกลิ่นก็สามารถหาเทียนหอม หรือก้านไม้หอมมาวางไว้เพื่อช่วยเพิ่มความผ่อนคลายระหว่างหลับได้ และในส่วนของเสียง ก็สามารถเลือกฟังเสียงธรรมชาติที่เป็นเสียงสีขาว (White Noises) หรือที่หลายคนน่าจะคุ้นเคยกันดีกับวิดีโอ ASMR ที่ใช้เสียงนี้ในการช่วยให้คนหลับง่ายมากขึ้น 

สิ่งที่ควรระวังในการทำ Power Nap

ข้อควรระวังในการทำ Power Nap ก็คือการงีบหลับเกินเวลากำหนด ซึ่งจะทำให้ร่างกายกับสมองอ่อนล้า มึนงง และเพลียเหมือนอาการเมา จนกลายเป็นส่งผลเสียแทนการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานช่วงบ่ายแทน จึงควรตั้งนาฬิกาปลุกไว้ไม่ให้พลาดเด็ดขาด 

เพราะสมองก็ต้องการการพักผ่อนในการสู้กับการทำงาน การหักโหมทำงานแบบพักผ่อนไม่เพียงพอ จึงเป็นเรื่องที่คนทำงานต้องคอยระวังไว้เสมอ เพราะในบางครั้งกว่าร่างกายจะส่งสัญญาณเตือน ก็อาจจะเป็นตอนที่เราป่วยหนักจนต้องใช้เวลาในการรักษาตัวไปแล้วก็ได้ การเลือกทำงานในองค์กรที่ให้ความสำคัญในเรื่องของสุขภาพ และบรรยากาศการทำงานที่ดี จึงมีความสำคัญอย่างมากสำหรับคนทำงานยุคนี้ ใครที่กำลังมองหาองค์กรที่ตอบโจทย์คุณภาพชีวิตการทำงานที่ดี ให้ทาง JobThai ช่วยคุณดีกว่า 

บทความเดิมได้ถูกเผยแพร่ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2024 และได้รับการอัปเดตโดยทีมงาน JobThai