การเขียน Cover Letter สำหรับเด็กจบใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์การทำงาน สามารถเริ่มต้นได้จากการอธิบายวิชาความรู้ที่เรียนมาจากมหาวิทยาลัยที่ได้เรียนมา วิชาไหนที่ชอบหรือถนัดก็สามารถเล่าได้เต็มที่ตราบใดที่มีความเชื่อมโยงกับตำแหน่งงานที่กำลังสมัคร ยิ่งถ้าใครมีประสบการณ์การฝึกงานที่เป็นประโยชน์กับการทำงานแล้วละก็ อาจทำให้เราได้เปรียบในการสมัครงานเมื่อเทียบกับผู้สมัครงานที่เป็นเด็กจบใหม่ด้วยกันได้

ตัวอย่างตำแหน่งที่ต้องการสมัคร: Junior Accountant

รายละเอียดการเขียน Cover Letter แต่ละส่วน

คำขึ้นต้น

“Dear Hiring Manager,”

ให้ระบุชื่อหรือตำแหน่งของผู้อ่าน Cover Letter (หากทราบ)  หากไม่แน่ใจอาจระบุถึง HR Team, Recruitment Team หรือ Hiring Team ก็ได้

ข้อความแนะนำตัว

“I am writing to express my strong interest in the Junior Accountant position at Superb Finance. With a solid educational background in accounting and a passion for numbers, I am confident that my skills and enthusiasm make me an excellent fit for this role.”

ให้ระบุชื่อตำแหน่งที่ต้องการสมัครให้ชัดเจน แนะนำตัวด้วยประวัติการศึกษา ทักษะเด่นที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่สมัคร หรือจุดมุ่งหมายในการทำงานเพื่อดึงดูดความสนใจให้บริษัทอยากอ่านต่อ

ยกตัวอย่างทักษะหรือความรู้ที่ได้เรียนมาซึ่งเกี่ยวข้องกับสาขาอาชีพหรือตำแหน่งที่ต้องการสมัคร

“As a recent graduate with a Bachelor's degree in Accounting, I have a solid grasp of financial analysis, budgeting, and taxation. My academic studies have provided me with a comprehensive understanding of accounting principles and practices, which I am eager to apply in a real-world work environment.”

นักศึกษาจบใหม่หลายคนคงกังวลว่าตัวเองไม่เคยมีประสบการณ์การทำงานมาก่อน เลยไม่รู้ว่าจะเขียนนำเสนอตัวเองยังไงให้บริษัทสนใจ สิ่งที่ใกล้ตัวและควรพูดถึงเป็นอันดับแรกคือสาขาวิชาที่เราจบมา รวมถึงวิชาที่เราถนัดหรือชื่นชอบเป็นพิเศษ โดยเลือกมาเฉพาะวิชาที่สำคัญและสอดคล้องกับที่บริษัทลงไว้ประกาศรับสมัครงาน ลองเขียนอธิบายว่าความรู้และทักษะอะไรบ้างที่สามารถประยุกต์ใช้ในการทำงานจริงได้ เพื่อให้บริษัทพอเห็นภาพรวมความสามารถของเราในเบื้องต้น ดังเช่นตัวอย่างด้านบนที่ผู้สมัครได้บอกว่าตัวเองเป็นคนจบใหม่ที่มีความรู้ในเรื่องในวิชาการเงินเป็นอย่างดีและมีความกระตือรือร้นที่จะได้ลองใช้ความรู้ที่เรียนมากับโลกการทำงาน

“My internship at a prominent accounting firm allowed me to contribute to the preparation of financial statements, data analysis, and account reconciliations under the guidance of experienced accountants. This experience enhanced my technical skills and provided me with a deep understanding of industry standards. Additionally, my effective communication and teamwork skills will foster strong relationships with clients and colleagues.”

นอกเหนือจากความรู้เฉพาะทางที่ได้จากการเรียนในมหาวิทยาลัยแล้ว ยังมีอีกหลายกิจกรรมที่แสดงออกถึงศักยภาพในการทำงานจริงของเราได้ โดยจากตัวอย่างที่ยกมาด้านบนพูดถึงการฝึกงานที่ทำให้ผู้สมัครได้ลองเรียนรู้งานด้านการเงินกับบริษัท ได้เจอลูกค้าจริง ๆ และนำความรู้ที่ได้จากการเรียนไปสู่การปฎิบัติงานในสถานการณ์จริง นอกจากจะได้ฝึกทักษะตามสายงานแล้ว ยังได้พัฒนาทักษะอื่น ๆ อย่างการสื่อสารและการทำงานเป็นทีมซึ่งเป็นทักษะจำเป็นต่อการทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อีกด้วย

สำหรับใครที่ไม่ได้ฝึกงานก็ไม่เป็นไร ประสบการณ์การทำงานในรูปแบบอื่น ๆ ก็ทำให้เห็นทักษะการทำงานได้เหมือนกัน เช่น การทำงานเสริมหารายได้พิเศษ(แม้จะคนละตำแหน่งกับงานที่สมัคร) กิจกรรมนอกห้องเรียนต่าง ๆ หรือแม้แต่การทำกิจกรรมเพื่อสังคมเป็นเจ้าหน้าที่ค่ายจิตอาสา ทุกกิจกรรมล้วนมีทักษะการทำงานอยู่ในแต่ละขั้นตอน หากเราเขียนอธิบายได้ว่าความรู้หรือทักษะอะไรบ้างที่เราได้จากการทำกิจกรรมเหล่านั้น หรือสามารถเชื่อมโยงว่าทักษะที่มีจะเป็นประโยชน์กับบริษัทได้ยังไงบ้าง  บริษัทก็ประเมินผลและจินตนาการภาพการทำงานของเราได้ดียิ่งขึ้น

“In addition to my technical expertise, I am proficient in utilizing accounting software like QuickBooks and Excel. I am confident in my ability to swiftly adapt to new systems and technologies, ensuring my contribution to Superb Finance's digital transformation.”

ถ้ามีทักษะพิเศษอื่น ๆ ที่ได้รับการรับรองเป็นใบประกาศนียบัตร ก็สามารถใส่เพิ่มเติมได้ ทักษะเหล่านี้อาจทำให้เราได้เปรียบผู้สมัครคนอื่น ๆ และอาจเพิ่มโอกาสในการถูกเรียกสัมภาษณ์

ปิดท้ายด้วยคำขอบคุณ

“Thank you for considering my application. I am enthusiastic about the prospect of joining the Superb Finance team and contributing to its ongoing achievements. I would appreciate the opportunity to further discuss how my skills and qualifications align with the company's needs. Please find my attached resume for your review.”

นอกจากการกล่าวแสดงความขอบคุณที่องค์กรสละเวลามาอ่าน Cover Letter และพิจารณา Resume ของเราแล้ว ในส่วนสุดท้ายนี้ เรายังสามารถย้ำประเด็นที่เราต้องการสื่อสารกับองค์กรได้อีก เหมือนตัวอย่างที่พูดว่าเรายินดีที่จะได้ร่วมงานกับบริษัทในอนาคต  เราพร้อมที่จะอธิบายคุณสมบัติเพิ่มเติมหากได้รับโอกาสสัมภาษณ์งาน หรือเราอยากมีส่วนร่วมในการสร้างความสำเร็จให้กับองค์กรและเติบโตไปพร้อมกัน ประโยคเหล่านี้จะใส่ เพียงบางส่วน หรือทั้งหมดก็ได้ จะเขียนให้ดูเป็นทางการ หรืออยากให้คนอ่านเห็นถึงความตั้งใจของเรา จะเลือกคำทิ้งท้ายแบบไหนก็ปรับลดได้ตามความเหมาะสม

สิ่งที่สำคัญที่สุดของ Cover Letter สำหรับเด็กจบใหม่ที่ยังไม่เคยทำงานคือการอธิบายให้เห็นภาพชัดเจนว่า องค์ความรู้และทักษะที่เราได้จากการเรียนในมหาวิทยาลัยสามารถนำมาปรับใช้กับการทำงานจริงได้ยังไงบ้าง ยิ่งน้อง ๆ คนไหนที่ผ่านประสบการณ์การฝึกงานมาแล้วหรือมีกิจกรรมพิเศษเพิ่มเติมที่สามารถเขียนนำเสนอเทียบเคียงกับทักษะการทำงานได้ คนอ่านก็จะมองเห็นได้ว่าเรามีแนวโน้มที่จะปรับตัวได้เป็นอย่างดีกับโลกการทำงานจริง

วิธีเขียน Cover Letter ภาษาอังกฤษรูปแบบอื่น ๆ เพิ่มเติม

• สำหรับการสมัครงานในทุกตำแหน่ง
• แบบเน้นการนำเสนอทักษะการทำงานเป็นพิเศษ
• แบบเล่าแรงบันดาลใจในการทำงาน
• สำหรับคนย้ายสายงาน