- เบอร์โทรศัพท์ อีเมล บล็อก เว็บไซต์ หรือข้อมูลโซเชียลมีเดียควรตรวจสอบให้ถูกต้องแม่นยำ เพราะถ้าข้อมูลไม่ถูกต้อง HR จะไม่สามารถติดต่อเพื่อนัดสัมภาษณ์ได้
- การจัดรูปแบบของเรซูเม่ หรือ Format ให้เหมาะสมจะทำให้ฝ่ายบุคคลใช้เวลาอ่านเรซูเม่น้อยลงและเข้าใจได้ง่ายขึ้น
- ทักษะจะเป็นคีย์เวิร์ดสำคัญที่ทำให้เรซูเม่น่าสนใจ จึงควรใส่ทักษะที่เรามีและตรงกับที่เขาต้องการ ซึ่งดูได้จากรายละเอียดประกาศงาน
- ลองให้คนรอบตัวอ่าน เพื่อให้เขาแนะนำว่าสิ่งที่เขียนเป็นตัวเราจริง ๆ หรือเปล่า พวกเขาอาจจะมองเห็นทักษะอื่น ๆ ที่เรามองไม่เห็นในตัวเอง
|
|
JobThai Mobile Application หางานง่าย สมัครงานง่าย ได้งานที่ใช่ โหลดเลย
|
|
เราทุกคนต้องได้ทำ Resume ใบแรกของตัวเองอยู่แล้ว แต่ก็ยังอาจจะมีคนที่ทำ Resume ไม่เป็น ทั้งไม่มีไอเดียในการดีไซน์ และรวบรวมข้อมูลไม่ดีพอ จนทำให้พลาดโอกาสได้งานไปง่าย ๆ แถมการทำ Resume ก็ยังควรปรับเปลี่ยนรูปแบบให้เหมาะตำแหน่งที่เราต้องการสมัครอีกด้วย เพราะมันจะทำให้เราเป็นผู้สมัครที่โดดเด่นขึ้น
JobThai ขอบอกว่าการทำ Resume ที่ดีถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการถูกเรียกสัมภาษณ์หรือได้งานมากขึ้น เพราะการสมัครเข้าทำงานในทุกองค์กรนั้น สิ่งแรกที่จะทำให้องค์กรรู้จักกับเราก็คือ Resume นั่นเอง
เตรียมข้อมูลให้แม่นยำ
เวลาที่ต้องทำ Resume จะต้องทำให้คนที่อ่าน Resume เห็นความสามารถเราจากสิ่งที่เคยทำในช่วงก่อนที่จะมาสมัครงาน เช่น ประสบการณ์การทำงาน ประวัติการศึกษา กิจกรรมที่เคยทำสมัยมหาวิทยาลัยหรือในช่วงมัธยม ในกรณีที่เป็นเด็กจบใหม่ หรือประกาศนียบัตรที่เคยได้รับก็จะทำให้มีเรื่องที่จะเขียนลงเรซูเม่มากขึ้น การรวบรวมเอกสารจะทำให้เราไม่ลืมข้อมูลที่สำคัญไป และประสบการณ์ต่าง ๆ นอกเหนือจากการเรียนยังเป็นสิ่งที่ HR ให้ความสำคัญในเรซูเม่ด้วย
สิ่งสำคัญคือข้อมูลติดต่ออย่าง เบอร์โทรศัพท์ อีเมล บล็อก เว็บไซต์ หรือข้อมูลโซเชียลมีเดีย ก็ควรเขียนให้ครบและถูกต้อง เพราะว่าหากเราเป็นที่สนใจแต่ให้ข้อมูลไม่ถูกต้อง HR จะไม่สามารถติดต่อเพื่อนัดสัมภาษณ์ได้และทำให้เราพลาดโอกาสไปได้ง่าย ๆ เลย
จัดระเบียบและนำเสนอให้ง่ายต่อการอ่าน
สาเหตุที่ต้องจัดโครงสร้างหรือ Format ของ Resume ให้เหมาะสม เพราะแต่ละวันมีคนสมัครงานมากมาย ทำให้ฝ่ายบุคคลใช้เวลาอ่านเรซูเม่โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 6 – 10 วินาที ต่อหนึ่งเรซูเม่เท่านั้น โครงสร้างของ Resume ที่ไม่เรียบร้อยหรือดูยากก็จะหลุดออกจากความสนใจของ HR ได้ทันที โอกาสที่มีก็จะหลุดลอยตามไปด้วย
เราควรวางโครงสร้างก่อนว่าข้อมูลส่วนตัวอย่างที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ หรืออีเมลติดต่อกลับที่ต้องทำให้เด่นชัด ควรจะวางตรงไหน ส่วนประสบการณ์การทำงาน ประวัติการศึกษา กิจกรรมต่าง ๆ และทักษะความสามารถก็อาจจะให้อยู่ด้วยกัน โดยแบ่งออกเป็น 2 คอลัมน์ หรือทำเป็นตารางสี่เหลี่ยม เพื่อง่ายต่อการสแกนอ่าน และอย่าลืมว่าสิ่งที่ควรทำในการทำ Resume ที่สำคัญอย่างหนึ่งก็คือควรจะเป็นลิสต์ข้อมูลเป็นข้อ ๆ เพื่อไม่ให้ยาวและอ่านยากจนเกินไป
เลือกใช้คีย์เวิร์ดใน Resume ให้ถูกต้อง
คีย์เวิร์ด (Keyword) ที่จะใส่ใน Resume จะต้องเขียนให้ชัดเจนและถูกต้อง โดยคีย์เวิร์ดจะเป็นคำสั้น ๆ ที่แสดงให้เห็นว่าเรามีความสามารถหรือทักษะอะไรบ้าง ซึ่งทักษะเหล่านี้สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ส่วน คือ Hard Skill ที่เป็นลักษณะการทำงานเชิงเทคนิค หรือทักษะที่ต้องอาศัยความรู้เฉพาะทาง กับ Soft Skill ทักษะเสริมเกี่ยวกับบุคลิกภาพและการเข้าสังคม ที่จะช่วยให้การทำงานของเราลื่นไหลมากขึ้น เป็นต้น
ควรตรวจสอบก่อนว่าเรามี Hard Skill กับ Soft Skill อะไรบ้าง จากนั้นจึงไปดูประกาศรับสมัครงานในตำแหน่งที่ต้องการ อาจจะเป็นเว็บไซต์หางาน หรือหน้าเว็บไซต์ของบริษัทที่เราสนใจว่าเขากำลังต้องการทักษะอะไร แล้วเรามีทักษะตรงกับความต้องการหรือไม่ หากมั่นใจจริง ๆ ว่าตนเองมีคุณสมบัติที่ตรงกับบริษัทต้องการ ก็ควรทำส่วนนี้ให้โดดเด่นเพื่อให้องค์กรเห็น และสนใจในตัวเรามากขึ้น
ขอความช่วยเหลือจากคนรอบตัว
เมื่อทำ Resume เสร็จแล้ว ลองให้เพื่อนสนิทหรืออาจารย์ที่ปรึกษาอ่านก่อน เพื่อให้คนอื่นแนะนำว่าสิ่งที่เราเขียนนั้นมีข้อผิดพลาดอะไรบ้าง ดูเกินจริงไปไหม และพวกเขายังอาจจะมองเห็นทักษะอื่น ๆ ที่เราเผลอมองข้ามไปด้วยความเคยชินหรือไม่ได้สังเกตเห็นความสามารถของตัวเอง การให้คนอื่นช่วยอ่านก็ถือว่าเป็นการตรวจสอบคำผิดใน Resume ของเราอีกรอบไปในตัวด้วย
Resume Hack
สิ่งที่จะทำให้ Resume ของเราน่าสนใจ ดูเป็นมืออาชีพ ก็คือการที่เราสื่อสารเกี่ยวกับตัวเองบนพื้นที่ที่จำกัดได้อย่าง “ครบถ้วน” และ “ง่าย” ต่อการอ่าน ซึ่งอาจจะพิจารณาจาก 3 ข้อต่อไปนี้
1. รูปแบบและความสวยงาม
สำหรับบางองค์กรที่เป็นองค์กรรุ่นใหม่ หรือสายงานที่เกี่ยวข้องกับความครีเอทีฟ อาจต้องใช้สีสันและลวดลายเพื่อให้ Resume ดูสร้างสรรค์ แต่ถึงจะใช้สีสันหรือลวดลายเพื่อเน้นข้อความ ก็ควรจะให้เด่นแค่เพียงบางจุดที่สำคัญเท่านั้น โดยเฉพาะจุดที่แสดงความสามารถของเราเอง อย่าเน้นมากจนอ่านไม่รู้เรื่อง เพราะในสายอาชีพออกแบบ“ Resume ”ก็เป็นอีกตัวอย่างที่เราจะได้แสดงออกว่าเรามีกึ๋นในการออกแบบงานแค่ไหนได้อีกด้วย
ค้นหาตำแหน่งงานที่ต้องมีความครีเอทีฟ
|
|
2. ลักษณะฟอนต์
อาจคิดว่าการใช้ฟอนต์ธรรมดา ๆ จะดูน่าเบื่อเหมือนการเขียนรายงาน เลยเลือกที่จะสร้างความแตกต่างให้กับ Resume โดยการใช้ฟอนต์ที่แปลกตา แต่นั่นกลับจะทำให้ HR โยน Resume ของเราทิ้งไปได้ เพราะฟอนต์ที่อ่านยากเกินไป จะทำให้ HR ไม่ได้โฟกัสกับเนื้อความใน Resume และไปมัวหงุดหงิดกับเรื่องฟอนต์ หรือถ้าฟอนต์แปลกเกินไปและไม่ได้มีในคอมพิวเตอร์ทุกเครื่อง ก็อาจจะมีปัญหาเวลาเปิดอ่าน นอกจากนั้นอย่าลืมว่าเมื่อเลือกฟอนต์ที่เหมาะสมแล้วก็ควรใช้ให้เป็นแบบเดียวกันทั้ง Resume ด้วย
3. ขนาดฟอนต์
ควรอยู่ที่ 14 – 16 ขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกใช้ฟอนต์อะไร เพราะฟอนต์แต่ละตัวก็ใช้พื้นที่ (Space) ที่แตกต่างกันออกไป และควรดูเรื่องของการจัดตำแหน่งอักษรด้วย ซึ่งการเลือกจัดให้ข้อความชิดซ้ายจะดีที่สุดเพราะสอดคล้องกับวิธีการอ่านหนังสือแบบสากล แต่สำหรับคนที่ชอบให้ฟอนต์ชิดหน้าหลังเสมอกัน (Justify Text) ก็ใช้ได้ แต่อาจจะต้องตรวจสอบซ้ำอีกครั้งว่ามีข้อความที่ตกหล่น หรือห่างจนอ่านลำบากหรือไม่
JobThai Official Group เพื่อการหางาน หาคน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำงาน