เทคนิคการตอบคำถามสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษ ของ 3 คำถามสุดฮิตที่ห้ามพลาด

22/01/24   |   98.6k   |  

 

 

เมื่อเราต้องไปสัมภาษณ์งาน แค่ตอบคำถามเป็นภาษาไทยปกติก็ไม่ค่อยมั่นใจอยู่แล้ว พอต้องมาตอบคําถามสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษก็ทำให้หลายคนยิ่งไม่มั่นใจเข้าไปใหญ่ ซึ่งแนวทางคำถามภาษาอังกฤษก็ไม่ค่อยแตกต่างกันมากกับภาษาไทยแค่เราต้องฟังคำถามและตอบเป็นภาษาอังกฤษ เช่น ให้แนะนำตัวเอง บอกจุดแข็งและจุดอ่อน ถามถึงปัญหาที่เคยเจอในการทำงานและการแก้ปัญหา สิ่งสำคัญก็คือการเตรียมตัวฝึกตอบคำถามสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษล่วงหน้า เพราะยิ่งเราตอบคำถามได้ฉะฉานมากเท่าไหร่ เรายิ่งมีโอกาสได้งานมากเท่านั้น วันนี้ JobThai ก็เลยนำคำถามสัมภาษณ์งานที่ต้องเจอ และเทคนิคการตอบเป็นภาษาอังกฤษให้ปังมาฝาก

 

ฝึกภาษาอังกฤษแบบสนุก ๆ ดาวน์โหลด JADOH Learning Application เลย

IOS

Android

 

1. “Tell me about yourself.” - “แนะนำตัวเองให้ฟังหน่อย”

คำถามนี้ไม่มีคำตอบที่ถูกหรือผิด บริษัทถามเพื่อเปิดโอกาสให้คุณสร้าง First Impression หรือความประทับใจแรกกับเขา ซึ่งหลายคนชอบติดการแนะนำตัวด้วยการบอกว่าเราเป็นใครมาจากไหน แล้วจบแค่นั้น เช่น Good morning. My name is… I’m from… ซึ่งบอกไปก็ไม่ผิด แต่มันไม่จำเป็น และควรอธิบายสิ่งที่สำคัญมากกว่าเพิ่มเติม เพราะในใบสมัครเขาก็ต้องรู้อยู่แล้วว่าคุณชื่ออะไร มาจากไหน เรียนจบไหนมา ดังนั้นคำตอบควรจะมีการเล่าเรื่องเกี่ยวกับการทำงานที่สำคัญเข้าไปด้วย

 

ถ้าไม่รู้ว่าจะนำเสนอตัวเองยังไง ลองคิดว่าคำถามนี้กำลังถามคุณว่า “ทำไมบริษัทถึงต้องเลือกคุณ” “คุณจะสร้างประโยชน์อะไรให้กับบริษัทของเรา” อาจช่วยให้เลือกคำตอบได้ง่ายขึ้น โดยลองเลือกเอาความสำเร็จและประสบการณ์ในการทำงานที่ผ่านมามาเล่าก็ได้

 

ตัวอย่างการตอบ

“I have been doing social media for the last three years and I specialize in helping companies and entrepreneurs grow their Facebook fan page. My real strength is my ability to understand what your audience wants. What I’m looking for is a company that I could add value to, that I could produce a positive return on investment for.”

 

จากที่ยกตัวอย่างมา จะแยกออกเป็นประเด็นต่าง ๆ ได้ตามนี้

 

เล่าถึงประสบการณ์ที่ผ่านมา

“I have been doing social media for the last three years and I specialize in helping companies and entrepreneurs grow their Facebook fan page.” ฉันทำงานด้าน Social Media มาแล้ว 3 ปี มีความเชี่ยวชาญในการช่วยทำให้แฟนเพจ Facebook ของบริษัทและผู้ประกอบการเติบโตขึ้น

 

เล่าถึงข้อดีของคุณ

“My real strength is my ability to understand what your audience wants.” จุดแข็งของฉันคือสามารถเข้าใจความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้

 

เล่าถึงสิ่งที่กำลังมองหา หรือโอกาสที่คิดว่าคุณจะนำความสามารถไปประยุกต์ใช้ได้

“What I’m looking for is a company that I could add value to, that I could produce a positive return on investment for.” สิ่งที่ฉันกำลังมองหาคือบริษัทที่ฉันสามารถเข้าไปสร้างคุณค่า และทำให้บริษัทได้รับผลแทนที่คุ้มค่ากับการลงทุน

 

หางานที่ต้องใช้ทักษะภาษาอังกฤษได้ ที่นี่

 

2. “What are your strengths and weaknesses?” - “จุดแข็งและจุดอ่อนของคุณคืออะไร?”

เป็นคำถามที่เปิดโอกาสให้คุณพูดถึงจุดแข็งและจุดอ่อนของตัวเอง เหตุผลเพราะเขาอยากรู้ว่าคุณถนัดอะไรหรือทำอะไรได้ดีที่สุด รวมถึงจุดด้อยในการทำงานของคุณ หรือทักษะที่คุณยังทำได้ไม่ค่อยดีเท่าที่ควร ซึ่งคุณไม่ควรพูดถึงเพียงข้อดีเพียงอย่างเดียว ควรพูดถึงข้อเสียด้วย แต่ควรเป็นข้อเสียที่ไม่เกี่ยวกับงานหลักหรือส่งผลต่อการทำงานโดยตรงมากนัก ให้เอาเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สามารถพัฒนาได้

 

นอกจากนั้นเทคนิคง่าย ๆ ในการตอบคำถามให้ดูดี ก็คือการใช้ Signposting Language หรือการส่งสัญญาณให้ผู้ฟังรู้ว่าคุณกำลังพูดถึงเรื่องไหนแล้ว เพื่อช่วยให้อีกฝ่ายคิดตามเราได้ง่ายยิ่งขึ้น เข้าใจง่าย และดูไม่วกไปวนมา 

 

ตัวอย่าง Signposting Language

  • Firstly หรือ First of all ขั้นแรก, อย่างแรก เมื่อต้องพูดเกริ่นนำ

  • For example หรือ For instance เมื่อต้องการยกตัวอย่าง

  • On the other hand, On the contrary หรือ However ในอีกด้านหนึ่ง, ในขณะเดียวกัน พูดถึงสิ่งที่ขัดแย้งกับข้อความแรก

  • Coming back to… เมื่อต้องการพูดย้อนไปถึงสิ่งที่พูดก่อนหน้านี้

  • Finally เมื่อต้องการสรุปใจความของสิ่งที่พูดไปทั้งหมด

 

ตัวอย่างคำตอบ

Firstly, I'm very good at working with other people. For example, in my last job, I always tried to encourage my colleagues and create a good atmosphere. On the other hand, I suppose I can be a little bit careless sometimes, because I'm not the kind of person who focuses on details. Coming back to strengths, I'm very calm, and I can keep a cool head even in very stressful situations.

 

อย่างแรกเลย ทักษะในการทำงานร่วมกับคนอื่นของฉันค่อนข้างดีมาก อย่างเช่น งานที่ทำล่าสุด ฉันพยายามให้กำลังใจคอยสนับสนุนเพื่อนร่วมงานและสร้างบรรยากาศที่ดีเสมอ แต่ในขณะเดียวกัน บางครั้ง ฉันก็อาจจะไม่ได้ระมัดระวังในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ บางจุดไปบ้าง เพราะฉันเป็นคนไม่ค่อยถนัดในการทำงานที่ต้องลงรายละเอียด กลับมาที่จุดแข็งต่อ ฉันเป็นคนใจเย็น สามารถควบคุมสติไดแม้ในสถานการณ์ที่ตึงเครียดมาก ๆ

 

สำหรับการตอบจุดอ่อนอาจจะต้องระวังและประเมินว่าตำแหน่งงานของคุณเป็นยังไง ถ้าเนื้องานเป็นงานที่วางแผนในภาพกว้าง ไม่ได้ต้องเช็กความถูกต้องที่ต้องแม่นยำทุกอย่าง จุดอ่อนที่บอกว่าเป็นคนไม่ค่อยละเอียดกับเรื่องดีเทลเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็อาจจะไม่ใช่ปัญหา

           

รวมวิธีพูดภาษาอังกฤษแบบมืออาชีพในสถานการณ์ต่าง ๆ สำหรับคนทำงาน ตอนที่ 1

 

3. “Can you tell me about a time when you demonstrated…” / "Tell me about a time you dealt with a challenging situation at work..." - “เล่าถึงการทำงานเมื่อคุณต้องรับมือกับการทำงานที่ท้าทายให้ฟังหน่อย”

คำถามเหล่านี้ถามถึงการแก้ไขปัญหาที่คุณเคยประสบมาก่อนในการทำงาน หรือการรับมือกับงานที่ท้าทายความสามารถ คำตอบมักเป็นการเล่าถึงปัญหา วิธีการทำงาน หรือการแก้ปัญหาที่คุณเคยทำมาแบบยาว ๆ เพื่อให้คนสัมภาษณ์ได้ฟังรายละเอียดอย่างครบถ้วน ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดาที่เมื่อเราตื่นเต้น ก็อาจจะทำให้เราอธิบายได้ไม่ดีนัก จนคำตอบของเราฟังดูไม่ชัดเจน ชวนสงสัย หรืออาจฟังไม่รู้เรื่องเลย ดังนั้นคุณควรจะเตรียมตัวสำหรับคำถามนี้ให้ดีก่อนไปสัมภาษณ์ โดยอาจจะใช้วิธีคิดแบบ STAR

  • S - Situation (What was the situation?) เกิดอะไรขึ้นตอนนั้น?

  • T - Task (What did you have to do?) หน้าที่ที่คุณต้องทำตอนนั้นคืออะไร?

  • A - Action (What did you actually do?) คุณลงมือทำมันยังไงบ้าง?

  • R - Result (What the end result was?) ผลลัพธ์ออกมาเป็นยังไง?

 

ตัวอย่าง

ผู้สัมภาษณ์: Can you tell me about a time when you demonstrated excellent customer service?“เล่าถึงเหตุการณ์ที่แสดงให้เห็นว่าคุณให้บริการลูกค้าได้ดีเยี่ยมให้ฟังหน่อย”

 

ผู้ถูกสัมภาษณ์: There was one time when a customer’s order hadn’t arrived, and we didn’t know what had happened to it. The customer was very unhappy, and I had to try to solve the problem for him. I arranged for a replacement to be sent, thinking we could find out what happened to the previous order later. In the end, the customer was happy that I could solve his problem quickly and simply.

           

จากตัวอย่างจะเห็นได้ว่ามีการตอบคำถามแบบ STAR คือ

S - Situation: What was the situation?

- There was one time when a customer’s order hadn’t arrived. ไม่ได้รับออร์เดอร์ของลูกค้า

- We didn’t know what had happened to it. ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับออเดอร์นั้น

- The customer was very unhappy. ลูกค้าไม่พอใจอย่างมาก

T - Task: What did you have to do?

- I had to try to solve the problem for him. ต้องพยายามแก้ไขปัญหา

A - Action: What did you actually do?

- I arranged for a replacement to be sent. จัดหาของส่งไปให้ลูกค้า

R - Result: What was the end result?

- The customer was happy. ลูกค้าพอใจ

 

การตอบคำถามสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษนั้นไม่จำเป็นต้องยืดยาว แต่ต้องตอบให้กระชับ ตรงจุด และเรียบเรียงการพูดให้ดี ใครที่กำลังจะไปสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษ ก็อย่าลืมเอาเทคนิคที่เราบอกไปฝึกซ้อม จะได้ตอบแบบคล่องแคล่วมั่นใจ เพราะแน่นอนว่าคนจะเก่งได้ต้องผ่านการฝึกฝนมาแล้วทั้งนั้น ขอให้ทุกคนที่กำลังไปสัมภาษณ์งานประสบความสำเร็จ ผ่านการสัมภาษณ์และได้งานดี ๆ แบบที่ตัวเองหวังไว้

 

JobThai Mobile Application สมัครงานง่าย ได้งานเร็ว

iOS

Android

Huawei AppGallery 

 

JobThai Official Group เพื่อการหางาน หาคน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำงาน

 

ที่มา:

JADOH Learning 

 

tags : jobthai, jobs, jadoh, on the job english, คำถามสัมภาษณ์งาน, สัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษ, คนทำงาน, งาน, สมัครงาน, หางาน, career & tips, นักศึกษาจบใหม่, job interview, สัมภาษณ์งาน, คนหางาน, ภาษาอังกฤษสำหรับคนทำงาน, จบใหม่ต้องรู้, fresh graduate



ติดตามข่าวสารและเรื่องราวดีๆ ทาง Email

ขอบคุณสำหรับการติดตาม