เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2567 พี่เดือน แสงเดือน ตั้งธรรมสถิตย์ Chief Operating Officer & Co-founder ของ JobThai ได้แชร์ข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับคนทำงาน ในหัวข้อ The Winning Skills for a Competitive Edge in the Future of Work บนเวที Skill Force Stage ในงาน Work Life Festival 2024 โดยมีประเด็นสำคัญและน่าสนใจ ดังนี้
การพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของเทคโนโลยีอย่าง AI และระบบ Automation กระแสโลกาภิวัตน์ การเปลี่ยนแปลงทางประชากร รวมถึงแนวคิดเรื่องสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน เรื่องเหล่านี้ต่างส่งผลต่อชีวิตของคนและโลกของการทำงานในปัจจุบันต่อเนื่องไปยังอนาคต โดยผู้เชี่ยวชาญระดับโลกมีการคาดการณ์ว่า AI และ Automation จะเข้ามาทำงานมนุษย์เพิ่มมากขึ้น เกิดอาชีพและตำแหน่งงานใหม่ ๆ ในขณะเดียวกันก็จะเกิดช่องว่างทักษะในการทำงานที่กว้างขึ้น ทำให้ในอนาคตอันใกล้นี้ ทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับคนทำงานทุกคนที่อยากประสบความสำเร็จในการทำงาน
โดยเทรนด์ที่กำลังจะเกิดขึ้นก็มีความสอดคล้องไปกับ “ผลสำรวจแนวโน้มการจ้างงานและทักษะที่องค์กรต้องการในปี 2025” ของ JobThai ซึ่งได้สอบถามความคิดเห็นกับ HR และ Line Manager กว่า 1,000คน ว่าเทรนด์สำคัญของโลกส่งผลกระทบต่อการทำงานในอนาคตอย่างไรบ้าง ผลการสำรวจพบว่า การสรรหาพนักงานที่มีทักษะพร้อมทำงานเป็นเรื่องที่ยากขึ้นในปัจจุบัน รวมถึงองค์กรได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะ Soft Skills และลงทุนในการพัฒนาทักษะ Hard Skills ของพนักงาน เพราะช่องว่างของทักษะที่กว้างขึ้น ทำให้องค์กรต้องให้ความสำคัญกับทักษะทั้งสองกลุ่มควบคู่กัน
การทำงานในอนาคตจะมีความซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงเร็วกว่าเดิม องค์กรต้องปรับตัวให้ทันกับเทคโนโลยี ถ้ามีเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เหมาะสมกับกระบวนการทำงานหลักขององค์กร ประหยัดเวลาและต้นทุนได้มากขึ้น ก็ควรปรับเปลี่ยน แต่ก็ต้องไม่ลืมใส่ใจพนักงาน สื่อสารให้ชัดเจนว่าองค์กรกำลังจะใช้เทคโนโลยีใหม่เพื่อให้เกิดประโยชน์กับองค์กรหรือช่วยให้เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้กับพนักงานอย่างไร จะสนับสนุนพวกเขาให้ทำงานในรูปแบบใหม่อย่างไร เพื่อให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด
สำหรับคนทำงานก็ต้องเรียนรู้และปรับตัวให้ทันเทรนด์ใหม่ ๆ ในการทำงานอยู่เสมอ ต้อง Upskill และ Reskill เพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดแรงงานและเพิ่มคุณค่าให้กับตัวเอง หมั่นเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ โดยเฉพาะทักษะที่เป็นเอกลักษณ์ของมนุษย์อย่างทักษะการคิดวิเคราะห์และความคิดสร้างสรรค์ที่ AI ยังไม่สามารถทำได้ในตอนนี้
การพัฒนาทักษะที่จำเป็นต่อการทำงานสามารถทำได้ตั้งแต่วันนี้ โดย 3 ทักษะที่พี่เดือนอยากให้คนทำงานทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม ได้แก่
1. ทักษะทางเทคนิค (Technical Skills)
ทักษะทางเทคนิคประกอบด้วยทักษะและความรู้ที่หลากหลายเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ในการทำงาน ซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละสายงาน รวมไปถึงการใช้งานเครื่องจักร ซอฟต์แวร์ หรือเครื่องมือการทำงานต่าง ๆ เช่น อาชีพ Data Analyst ต้องใช้ทักษะสำคัญอย่างการเขียนโปรแกรม ความรู้เรื่องสถิติ หรือการแปลงข้อมูลเป็นภาพ (Data Visualization)
2. ทักษะเชิงแนวคิด (Conceptual Skills)
ทักษะกลุ่มนี้คือความรู้ความสามารถในการคิดเชิงนามธรรม รวมไปถึงการตัดสินใจ วิเคราะห์และวินิจฉัยปัญหา และค้นหาวิธีแก้ปัญหาที่สร้างสรรค์ ซึ่งช่วยให้คนทำงานสามารถมองเห็นภาพรวมและสามารถกำหนดทิศทางในการทำงานได้
ตัวอย่างทักษะ
- ทักษะการบูรณาการแบบพหุวิทยาการ (Multidisciplinary Integration): ทักษะการคิดที่เกี่ยวข้องกับการรวมความรู้และวิธีการจากหลายสาขาวิชาเพื่อแก้ปัญหาที่ซับซ้อน เพิ่มศักยภาพในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์
- ทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์ (Critical Thinking): กระบวนการในการวิเคราะห์ ประเมิน และสังเคราะห์ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจในการทำงาน
3. ทักษะการทำงานกับมนุษย์ (Human Skills / Interpersonal Skills)
ทักษะด้านมนุษย์หรือทักษะระหว่างบุคคล คือทักษะในการประสานงานหรือปฏิบัติกับผู้อื่นอย่างมีประสิทธิภาพ ทักษะเหล่านี้ช่วยให้คนทำงานสามารถทำงานรวมกับผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมทีม เพื่อนต่างแผนก หรือลูกค้าภายนอกองค์กรได้อย่างราบรื่นมากขึ้น
ตัวอย่างทักษะ
- การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ (Effective Communication): การสื่อสารความคิด ความคิดเห็น ความรู้ หรือข้อมูลต่าง ๆ ด้วยวิธีการที่ชัดเจนและมีจุดมุ่งหมายไปยังผู้รับสาร ต้องฟัง พูด อ่าน และเขียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในรูปแบบของการสื่อสารแบบตัวต่อตัว การสื่อสารในการทำงานทางไกล (Remote Working) และการประชุมแบบออนไลน์
- การทำงานร่วมกัน (Team Collaboration): ทุกคนในทีมต้องเข้าใจวัตถุประสงค์ของงานที่กำลังจะทำให้ตรงกัน มีส่วนร่วมในการพูดคุยเพื่อกำหนดทิศทางในการทำงานและแบ่งงานกันทำตามความสามารถ มีการสื่อสารกันระหว่างสมาชิกในทีม มีความเห็นอกเห็นใจ เคารพและรู้วิธีปฏิบัติตัวต่อเพื่อนร่วมงาน เพื่อสร้างบรรยากาศการทำงานที่ดีและความไว้วางใจให้เกิดการทำงานร่วมกันมากขึ้น
สำหรับทักษะที่ HR คิดว่าเป็นทักษะที่มีความสำคัญกับคนทำงานทุกสายอาชีพในยุคนี้ ผลสำรวจของ JobThai พบว่า 5 อันดับแรก ได้แก่
- Communication: สามารถสื่อสารทั้งการฟัง พูด อ่าน เขียน และสังเคราะห์เนื้อหาเพื่อสื่อสารออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพและตรงกับเป้าหมาย
- Dependability and Attention to Detail: ทำงานด้วยความมีวินัย ละเอียดรอบคอบ และมุ่งมั่นเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามเป้าหมายอย่างมีคุณภาพ ตรงตามกำหนดเวลา และเชื่อถือได้ รวมทั้งมีความรับผิดชอบต่อผลของการตัดสินใจที่เกิดขึ้น
- Customer Experience: เข้าใจลูกค้า สามารถแก้ไขปัญหาของลูกค้าอย่างรวดเร็ว มีคุณภาพ เพื่อสร้างประสบการณ์และความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า
- Quality Management: สามารถควบคุมคุณภาพการทำงานได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ รวมถึงสามารถประเมิน ตรวจสอบ ปรับปรุง และเปลี่ยนแปลงกระบวนการต่าง ๆ ให้เป็นไปอย่างเหมาะสม ตามวัตถุประสงค์ได้
- Resilience, Flexibility and Agility: สามารถรับมือและจัดการกับความท้าทายหรือการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น และฟื้นตัวจากปัญหาหรืออุปสรรคต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว จัดการกับสถานการณ์ความตึงเครียดในที่ทำงานได้ รวมถึงสามารถปรับเปลี่ยนทัศนคติหรือพฤติกรรมเพื่อปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงในที่ทำงาน
การ Reskill และ Upskill จะทำให้คนทำงานมีโอกาสก้าวหน้าในอาชีพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของการเติบโตในสายงาน มีขีดความสามารถในการแข่งขันกับคนอื่น ๆ ในตลาดแรงงาน หรือแม้กระทั่งมีอำนาจในการต่อรองกับบริษัทมากขึ้น เพราะปัจจุบันบริษัทต่าง ๆ ล้วนต้องการคนที่มีทักษะความสามารถที่หลากหลายและพัฒนาอยู่เสมอ
ในฝั่งขององค์กรเอง ปัญหาช่องว่างทางทักษะเป็นความท้าทายสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรม ธุรกิจจึงกำลังขยายโปรแกรมการฝึกอบรมของตน จากปี 2023 ถึง 2027 มีการเน้นทักษะการคิดวิเคราะห์จะคิดเป็น 10% ของโครงการฝึกอบรม ตามด้วยการคิดสร้างสรรค์ที่ 8% (ข้อมูลจาก World Economic Forum) การฝึกอบรมด้าน AI และ Big Data ยังมีอันดับสูง สะท้อนถึงความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของเทคโนโลยีเหล่านี้ สำหรับบริษัทที่มองหาการจัดหาด้านความสามารถและจริงจังกับการวางแผนการสืบทอดตำแหน่ง การส่งเสริมโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่องมีความสำคัญในการดึงดูดผู้สมัครที่กระตือรือร้นที่จะเติบโตและปรับตัว
นอกจากนี้ผลสำรวจของ JobThai ในเรื่องการจ้างงานแบบ Skill-Based Hiring ขององค์กร ก็พบว่า กว่า 82% ขององค์กรพิจารณาคนย้ายสายงานที่มีทักษะตรงตามที่ต้องการ แต่อาจจะมีเงื่อนไขบางอย่างเพิ่มเติม เช่น ผ่านการทดสอบขององค์กร มีประสบการณ์จากสายงานใกล้เคียงกัน หรือมีประกาศนียบัตรจากสถาบันต่าง ๆ รองรับ
พี่เดือนได้ทิ้งท้ายว่าการทำงานในยุคนี้และอนาคต คนที่รู้จักพัฒนาตัวเองและมีทักษะการทำงานที่หลากหลาย องค์กรย่อมมองเห็นคุณค่าและต้องการตัวมาร่วมงานด้วย ดังนั้นถ้าคนทำงานรู้จักเรียนรู้ ปรับตัวเข้ากับเทรนด์การทำงานใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา และประยุกต์ใช้ทักษะต่าง ๆ ไม่ว่าในอนาคตจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้นอีก เราก็จะสามารถรับมือ แข่งขัน และมีโอกาสประสบความเร็จในโลกการทำงานได้
JobThai Official Group เพื่อการหางาน หาคน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำงาน