“บ่อยไหมที่คุณตื่นเช้ามา… แล้วรู้สึกไม่อยากไปทำงาน”

หลายคนอาจจะเคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ คือการตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึกเหนื่อยเมื่อคิดถึงงานที่จะต้องเจอทั้งวัน รู้สึกขี้เกียจเมื่อจินตนาการถึงกองงานที่ทำค้างไว้ หรือเบื่อหน่ายสุด ๆ กับการต้องกลับดึกอยู่เสมอ จนหลายครั้งก็ได้แต่ตั้งคำถามกับตัวเองว่างานที่ครั้งนึงเราเคยมีความสุขกับมัน ทำไมวันนี้กลับกลายเป็นงานที่เราแสนเบื่อหน่าย หมด Passion ไปกับมันตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ และถ้าคุณคือคนนึงที่กำลังตั้งคำถามว่ามันเกิดขึ้นเพราะอะไร วันนี้ JobThai มีคำตอบ

ขี้เกียจ ติดสบาย ไม่มีอะไรดึงดูด

ความขี้เกียจมันเกิดจากความคิดของเรานี่แหละ เป็นความคิดที่ว่าเราจะต้องทำสิ่งที่น่าปวดหัว หรือสิ่งที่เราไม่ชอบ ไม่ถนัด ไม่เก่ง ไม่น่าจะทำออกมาได้ดี เลยทำให้เราเริ่มขี้เกียจและไม่อยากทำขึ้นมา อีกสาเหตุคือเมื่อเราตกอยู่ใน Comfort Zone นาน ๆ มันจะทำให้เราติดสบายและไม่อยากออกจากตรงนั้น ซึ่งมันจะทำให้เราใช้ความคิดและความพยายามทำสิ่งที่ท้าทายน้อยลง และต่อมาเราจะเกิดความเบื่อ เพราะมองไม่เห็นความน่าตื่นเต้นของงานที่ทำอีก รวมถึงเราอาจจะไม่มีแรงดึงดูดที่จะทำ ไม่รู้สึกว่าทำไปแล้วจะได้ผลลัพธ์อะไรกลับมา ซึ่งสิ่งนี้ก็นำมาซึ่งความขี้เกียจและไม่อยากไปทำงานด้วยเช่นกัน

ดังนั้นสิ่งที่อยากแนะนำคืออย่ายึดติดกับสิ่งเดิม ๆ ลองทำอะไรใหม่ ๆ ให้ชีวิตได้มีสีสัน หรืออาจจะลองสร้างเป้าหมายเล็ก ๆ ในชีวิตการทำงานดูบ้าง เช่น วันนี้จะลองไปทำงานเป็นคนแรกของออฟฟิศทั้งที่ไปสายเป็นประจำ หรือจะยิ้มให้กับคนที่ไม่เคยคุยด้วยเลยสักครั้งตั้งแต่มาทำงาน การเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงจากสิ่งเล็ก ๆ บางทีอาจสร้างความสุขให้เราอยากไปทำงานมากขึ้นก็ได้

สนใจแต่ Passion จนลืมเป้าหมายของชีวิต

“Passion” คือสิ่งที่หลายคนมองว่าเป็นสิ่งจำเป็นในการทำงานเพราะมันจะทำให้เราทำงานได้อย่างมีความสุข ซึ่งบางคนอาจจะเคยรู้สึกว่าตัวเองหา Passion ในการทำงานไม่เจอเลยทำให้ไม่มีความสุข แต่ความเป็นจริงแล้วการทำงานอย่างมีความสุขไม่มีสูตรสำเร็จ มันขึ้นอยู่กับคำนิยามและเงื่อนไขในชีวิตของแต่ละคน บางทีการจะทำงานได้อย่างมีความสุขอาจไม่ได้ขึ้นอยู่กับ ‘Passion’ เป็นหลัก เพราะไม่มีใครรู้ตั้งแต่แรกว่างานที่เราหลงใหลจะเป็นงานที่ทำให้เรามีความสุขจริง ๆ แต่มันอาจจะขึ้นอยู่กับ “เป้าหมายของชีวิต” ว่าต้องทำอะไรชีวิตเราถึงจะเติมเต็มสมบูรณ์ ดังนั้นงานที่จะทำให้เรามีความสุขได้ อย่ามองแค่ว่ามันต้องเป็นงานที่เราชอบทำมาก ๆ แต่ให้มองว่ามันเป็นงานที่ทำให้เราเดินเข้าใกล้เป้าหมายในชีวิตมากขึ้นหรือเปล่า

เบื่อการทำงานแบบวนลูป หรือเจองานที่ไม่ถนัด

คนเราเมื่อต้องทำอะไรซ้ำ ๆ ซาก ๆ ทุกวันก็มีความเบื่อหน่ายเป็นเรื่องธรรมดา ที่ผ่าน​มาเราอาจจะทำงานด้วยรูปแบบเดิม ๆ เลยไม่รู้สึกท้าทาย​ หรือทำไปแบบงั้น ๆ โดยไม่เห็นคุณค่าของงานที่ทำมากนัก​ วิธีแก้ง่าย ๆ คืออาจจะลองเปลี่ยนกระบวนการทำงานใหม่ในแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน หรือลองอาสาทำโปรเจกต์ที่ท้าทายตัวเองดูบ้าง และอีกสาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะเราได้ทำงานที่ไม่เหมาะกับตัวเองอยู่ ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของความรู้​ ความถนัด​ หรือการที่ไม่ได้เรียนมาในด้านที่เรากำลังทำงานอยู่ จนทำให้ไม่มีความสุขในงานที่ทำ​ ตรงนี้อาจลองแก้ด้วยการลองพูดคุยกับหัวหน้าเพื่อปรึกษา โดยอาจจะขอปรับเปลี่ยนหน้าที่ความรับผิดชอบ หรือเปลี่ยนแผนก​ที่คิดว่าเราน่าจะถนัดมากขึ้นก็อาจช่วยได้

ทำงานอย่างหนัก แต่ไม่ได้ทำงานอย่างฉลาด

การทำงานหนักเพราะอยากให้งานทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์ไม่ใช่เรื่องผิด แต่ในระยะยาวอาจส่งผลร้ายกับเราโดยไม่รู้ตัว เพราะการทำงานติดต่อกันเป็นเวลาหลายชั่วโมงทุกวัน ถึงแม้จะเป็นงานที่เรารักก็สามารถทำให้เรารู้สึกเหนื่อยล้า และหมด Passion ในการทำงานไปเลยก็ได้ ดังนั้นแทนที่จะทำงานหนักอย่างเดียว เราควรต้องทำงานอย่างฉลาดด้วย ซึ่งก็คือการจัดตารางเวลางานให้เป็นสัดส่วน และแบ่งเวลางานแต่ละชิ้น รวมถึงจัดการเวลางานและเวลาพักให้ชัดเจน เช่น เริ่มงาน 8 โมงเช้า พักกลางวันตอนเที่ยงตรง เลิกงานเงิน 5 โมงเย็นให้ตรงเวลา เมื่ออยู่ในเวลางานโฟกัสงานได้เลยให้เต็มที่ แต่พอหมดเวลาก็ควรวางมือ และหาอะไรทำที่ช่วยให้เราได้ผ่อนคลายจากงาน

แม้จะเลิกงานแล้ว แต่ก็ยังคิดถึงเรื่องงานไม่หยุด

คนทำงานบางคนอาจจะเอาแต่คิดถึงเรื่องงานไม่หยุดแม้จะเลิกงานแล้ว และคิดวนไปวนมาอยู่แบบนั้น และพอถึงเวลาต้องไปทำงาน ก็รู้สึกว่าชีวิตเราไม่เคยหยุดทำงานเลยทั้ง ๆ ที่เราได้หยุดงานปกติ ได้เลิกงานตามเวลา ซึ่งนั่นก็เพราะเราเอางานเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันตลอดเวลาจนเคยชินและเป็นเรื่องปกติ ไม่ว่าจะกินข้าว ไปเที่ยว หรือทำอะไรก็ยังคิดเรื่องงานตลอดเวลา การทำแบบนี้ทำให้ชีวิตของเราไม่เคยหลุดออกจากคำว่า “งาน” ซึ่งการที่เราไม่เคยเปิดโอกาสให้สมองได้พักผ่อนจากการคิดเรื่องงาน ทำให้สุดท้ายมันกลายเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำเราหมด Passion ในการทำงานได้

ถึงการบังคับตัวเองให้หยุดคิดเรื่องงานจะเป็นเรื่องยาก แต่เราก็ควรเตือนตัวเองอยู่เสมอว่าบางครั้งเราก็ต้องหยุดพักเพื่อเก็บแรงไว้ก้าวต่อไปบ้าง รวมถึงอยากให้ลองกลับมาทบทวนตัวเองดี ๆ ว่างานคือสิ่งเดียวที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเราหรือเปล่า เราได้หลงลืมเพื่อน ครอบครัว หรือสิ่งอื่น ๆ ที่เรารักและสำคัญกับเราไปบ้างไหม

ปัญหาไม่ใช่แค่ “การทำงาน”​ แต่อาจเกิดจาก “เพื่อนร่วมงาน”

บางทีปัญหาอาจไม่ใช่การทำงานหรือเนื้องาน​ แต่เกิดจาก “คน” ที่เราทำงานด้วย ซึ่งการที่เราเจอ​เพื่อนร่วมงานแย่ ๆ ที่คอยแต่เอาเปรียบ​ หรือปัญหาอื่น ๆ มากมายที่เกิดขึ้นจากเพื่อนร่วมงานก็อาจทำให้เรารู้สึกเบื่อ และไม่อยากไปทำงานได้ เพราะไม่อยากเจอกับเรื่องน่าปวดหัว ถึงแม้จะได้เงินเดือนเยอะ สวัสดิการดี องค์กรมีความมั่นคงแค่ไหน แต่เชื่อเถอะว่ายังไงเราก็คงยังไม่อยากตื่นไปทำงานอยู่ดี

แต่ในเมื่อเราไม่สามารถเปลี่ยนความคิดหรือนิสัยของคนอื่นได้ วิธีแก้ก็คือเราควรเปลี่ยนความคิดตัวเองซะ กำจัดความคิดแง่ลบไปจากใจ แล้วลองคิดใหม่​ว่าถึงเราจะทำงานหนัก ทำเยอะกว่าคนอื่น แต่เราก็ได้เปรียบตรงที่เราได้พัฒนาทักษะหลาย ๆ ด้าน แล้วผลงานที่เราทำก็จะพิสูจน์ให้คนอื่นเห็นเอง

ถ้าตอนนี้เราคือคนที่กำลังรู้สึกหมด Passion กับงาน สิ่งสำคัญที่เราควรทำคือถามตัวเองก่อนว่าเราได้ทุ่มเทกับงานที่ทำอยู่ตอนนี้อย่างเต็มที่แล้วรึยัง ถ้ายังก็อยากให้ลองลุกขึ้นมาพยายามอีกสักตั้ง แต่ถ้าเราทำเต็มที่แล้วแต่ก็ยังรู้สึกว่างานที่ทำอยู่ทำให้เราไม่มีความสุขจริง ๆ การลาออกแล้วไปหาสิ่งที่ใหม่ ๆ ก็อาจจะเป็นทางออกที่ดีกว่า เพราะถ้าเราได้อยู่ในที่ที่เป็นของเรา เมื่อนั้นเราจะรู้สึกมีความสุขกับมันเอง

ที่มา:

blockdit.com, unlockmen.com, blockdit.com, sanook.com