ทำอย่างไรเมื่อบริษัทบอกว่าคุณดีเกินไป (Overqualified)

ทำอย่างไรเมื่อบริษัทบอกว่าคุณดีเกินไป (Overqualified)
03/02/21   |   12.4k   |  

 

  • ถามตัวเองให้ดี ว่านี่คืองานที่เราอยากจะทำจริง ๆ หรือเปล่า

  • อย่าโอ้อวดคุณสมบัติมากเกินไป พูดเฉพาะส่วนที่จำเป็นเท่านั้น

  • ใช้ Cover Letter ให้เป็นประโยชน์ เพื่อให้ได้โอกาสเข้าไปสัมภาษณ์งาน และอธิบายตัวเอง

  • เลือกสิ่งที่จะใส่ลงไปใน Resume เลือกเฉพาะส่วนที่มีประโยนช์ต่องานที่จะสมัครเท่านั้น

  • ยืดหยุ่นกับเงินเดือน บอกผู้สัมภาษณ์ถึงเป้าหมายที่อาจจะไม่ใช่แค่การเลื่อนขั้น

  • ทำให้คนสัมภาษณ์เห็นว่าคุณอยากทำตำแหน่งนี้จริง ๆ และจะไม่เปลี่ยนใจ
     

 

JobThai Mobile Application หางานง่าย สมัครงานง่าย ได้งานที่ใช่ โหลดเลย

iOS

Android

Huawei AppGallery

 

“Overqualified คือ การมีคุณสมบัติที่มากเกินกว่าที่บริษัทต้องการสำหรับตำแหน่งนั้น”

 

ต้องยอมรับว่าบางครั้งการเป็นคนเก่งไม่ใช่ว่าจะดีเสมอไป การที่คุณมีคุณสมบัติดีเลิศ เงินเดือนก็สูงขึ้นตามความสามารถจนบางบริษัทอาจสู้เงินเดือนไม่ไหว และที่สำคัญเมื่อคุณมีความสามารถเกินกว่าตำแหน่งที่สมัคร บริษัทอาจกลัวว่าคุณจะเบื่อหรืออยู่กับเขาไม่ยาว และอยากไปทำอะไรที่ท้าทายความสามารถมากกว่า

 

การรับพนักงานใหม่มีค่าใช้จ่าย และต้องผ่านขั้นตอนต่าง ๆ ไม่น้อย บริษัทส่วนใหญ่จึงไม่อยากให้มีการเข้าออกของพนักงานบ่อย ๆ วันนี้ JobThai เลยมีคำแนะนำดี ๆ มาฝาก สำหรับใครที่ไม่อยากโดนปฏิเสธด้วยคำว่าดีเกินไป

 

อยากทำงานนี้จริง ๆ รึเปล่า

ลองถามตัวเองว่าเรามั่นใจไหมว่าอยากได้งานนี้จริง ๆ ถึงแม้จะได้เงินที่ต่ำกว่าความสามารถของเรา ลองพิจารณาให้ละเอียดด้วยว่างานนี้จะช่วยให้เราพัฒนาตัวเองได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าคำตอบคืองานนี้จะทำให้เราได้เรียนรู้อะไรบางอย่างที่ต้องการ และเป็นงานที่เราอยากจะทำจริง ๆ ก็อย่ามัวแต่ลังเล ส่งใบสมัครได้เลย

 

ส่งใบสมัครง่าย ๆ ได้หลายวิธี กับ JobThai หางานที่ใช่แล้วส่งใบสมัครได้เลย

 

อย่าใส่อะไรที่ Overqualified ใน Resume

ถ้าไม่อยากจะให้ HR ใช้คำว่า Overqualified เป็นเหตุผลในการคัด resume เราทิ้ง เราก็ไม่ต้องใส่ความสามารถหรือประสบการณ์ทั้งหมดที่มีลงไปใน Resume เลือกแค่ประสบการณ์หรือวุฒิการศึกษาที่เพียงพอสำหรับการสมัครงานที่ต้องการ หรือใส่สิ่งที่จะทำให้เราได้เปรียบคนอื่นบ้าง โดยที่ยังไม่ Overqualified เช่น ถ้างานที่เราสนใจ ไม่ได้ต้องการวุฒิปริญญาโท หรือประสบการณ์ที่ไม่เกี่ยวอะไรกับตำแหน่งงานนั้น เราก็ไม่ต้องใส่ลงไป การทำแบบนี้จะทำให้เรซูเม่หลุดจากคำว่า Overqualified ได้

 

แนะนำตัวเองตอนส่ง Resume

การถูกคัด Resume ทิ้งทั้งที่เรายังไม่มีโอกาสได้เข้าไปสัมภาษณ์นั้นน่าเจ็บใจนัก ดังนั้นเราก็ต้องชิงอธิบายสาเหตุที่อยากจะทำงานตำแหน่งนี้ทั้ง ๆ ที่ Overqualified และสิ่งที่เราคิดว่าจะทำให้บริษัทเพิ่มเติมได้ก่อนซะเลย เช่น ถ้าเราใช้วิธีส่งไฟล์เรซูเม่ไปทางอีเมล เราก็ควรจะเขียน Cover Letter ไปในอีเมลด้วย หรือถ้าสมัครงานผ่านฟีเจอร์ Easy Form ของ JobThai Mobile Application ก็จะสามารถแนะนำตัวเองสั้น ๆ ได้เลย การแนะนำตัวเองก่อนแบบนี้ อาจจจะเพิ่มโอกาสที่ HR จะสนใจและเรียกเราไปสัมภาษณ์ได้

 

4 วิธีการสมัครงานของ JobThai มีอะไรบ้าง อ่านได้ที่นี่

 

เทคนิคเขียน Cover Letter แนะนำตัว

 

ยืดหยุ่นเงินเดือนบ้าง

ยิ่งคุณทำ Resume ให้มีคุณสมบัติสูง เงินเดือนก็สูงตามเป็นเรื่องปกติ ซึ่งนั่นก็เป็นเหตุผลนึงที่ทำให้ HR ไม่สนใจคนที่ Overqualified เพราะเรียกเงินเดือนสูงกว่า Range ที่เขาตั้งไว้ เราควรจะยืดหยุ่นเรื่องเงินเดือนบ้าง และทำให้เขารู้ว่าเราพร้อมที่จะเจรจาเพื่อหาจุดที่ทั้งเราและเขาโอเค เพราะเราเชื่อว่าส่วนใหญ่คนที่สมัครงานทั้ง ๆ ที่รู้ว่าตัวเอง Overqualified ก็น่าจะให้ความสำคัญกับเนื้องานที่น่าสนใจ ท้าทาย หรือโอกาสในการเปลี่ยนสายงานมากกว่าเรื่องเงิน

 

แสดง Passion ตอนสัมภาษณ์

หลายคนคิดว่าการบอกคนสัมภาษณ์ว่าสมัครหลายที่อาจทำให้ไม่ได้งาน แต่สำหรับคนที่ Overqualified อาจไม่ใช่แบบนั้นเสมอไป เพราะการบอกว่าเราอยากทำมากถึงขนาดส่งใบสมัครตำแหน่งนี้ไปหลายที่ ทำให้คนสัมภาษณ์เห็นว่าคุณอยากทำตำแหน่งนี้จริง ๆ และจะไม่เปลี่ยนใจ และเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้เขา ลองเล่าสิว่าคุณสมบัติที่เขามองว่ามัน Overqualified นั้นมีประโยชน์อะไรกับการทำงานและบริษัทเขาบ้าง ยิ่งถ้าเรามีประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่สมัคร ก็จะยิ่งได้เปรียบ และอาจจะโดดเด่นกว่าแคนดิเดตคนอื่นได้เลยด้วยซ้ำ

 

เตรียมตัวก่อนสัมภาษณ์ยังไงให้ได้งาน

 

การเลื่อนขั้นไม่ใช่เป้าหมายสูงสุด

เวลาสัมภาษณ์ให้บอกไปว่าเป้าหมายของคุณไม่ใช่การเลื่อนขั้น แต่อย่าสื่อออกไปว่าคุณคือคนไม่มีเป้าหมายในชีวิตอะไรเลย อาจบอกถึงสาเหตุการมาสมัครตำแหน่งนี้ว่าคุณมีเป้าหมายบางอย่างเป็นแรงผลักดันมากกว่าการเลื่อนขั้นเท่านั้นแทน เพราะการเลื่อนขั้นของแต่ละบริษัทมักมีการแข่งขันสูง และคนที่ทำงานมานานอาจมีโอกาสมากกว่า เมื่อคุณสมัครงานมาใหม่ด้วยคุณสมบัติที่ดีเกินกว่ากำหนด เป็นไปได้สูงที่คนสัมภาษณ์จะกลัวว่าเขาจะไม่สามารถเลื่อนขั้นให้ตามความสามารถของคุณในเวลาอันสั้น

 

อย่าอวดมากไป

ถึงเราจะมีคุณสมบัติที่โดดเด่นกว่าคนอื่น และมั่นใจว่ามันมีประโยชน์ แต่เวลาที่เราสัมภาษณ์ก็อย่าโอ้อวดคุณสมบัติที่เรามีจนมากเกินไป และไม่ต้องเอาแต่พูดว่าเรามีคุณสมบัติแบบนี้แบบนั้นที่มากกว่าคนอื่น ๆ เพราะ HR เขารู้จาก resume เราอยู่แล้ว แต่สิ่งที่เราต้องทำก็คือ อธิบายเหตุผลว่าทำไมถึงสนใจงานนี้ งานนี้สร้างความท้าทายให้กับเรายังไงมากกว่า ยิ่งเราขายความสามารถของตัวเองได้มากเท่าไหร่คนสัมภาษณ์ก็จะสนใจเรามากขึ้น

 

การที่เรามีคุณสมบัติ Overqualified ไม่ได้หมายความว่าเราจะพลาดงานนั้นเสมอไป ถ้าเราหาโอกาสแสดงความตั้งใจที่จะทำงานนั้น และบอกสิ่งที่เราสามารถทำให้กับบริษัทได้แล้วล่ะก็ เราก็จะสามารถเปลี่ยนตัวเองจากแคนดิเดตที่ Overqualified เป็นคนที่น่าสนใจได้ไม่ยากเลย

 

ถ้าโดนปฏิเสธเพราะ Overqualified ก็อย่าเพิ่งท้อ ยังมีงานชั้นนำมากมายรออยู่ ที่นี่

 

 
JobThai Official Group เพื่อการหางาน หาคน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำงาน
Public group · 92,500 members
Join Group
 

 

ที่มา : 

careerbuilder.com

monster.com

tags : งาน, หางาน, สัมภาษณ์งาน, overqualified, เคล็ดลับคนทำงาน, resume, cover letter, career & tips, คนทำงาน, เคล็ดลับการสมัครงาน, สมัครงาน, job interview, jobs, จบใหม่ต้องรู้, fresh graduate



ติดตามข่าวสารและเรื่องราวดีๆ ทาง Email

ขอบคุณสำหรับการติดตาม