หากบนโลกนี้มีเครื่องอ่านใจก็คงไม่ต่างอะไรกับ “Social Media” พื้นที่แสดงความคิดเห็น ทัศนคติ หรือแชร์โพสต์ต่าง ๆ ที่ตรงใจตัวเอง ซึ่งหากเป็นชีวิตปกติทั่วไปก็อาจไม่เป็นอะไร แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่คิดจะสมัครงาน อาจต้องระวังเรื่องนี้บ้าง เนื่องจากในปัจจุบันหลายองค์กรมีการสแกน Social Media ของผู้สมัครก่อนที่จะตัดสินใจรับคนเข้าทำงาน เพราะจะทำให้ได้รู้จักนิสัยใจคอเบื้องต้น ว่าเขาคิดอะไร อ่านอะไร หรือสนใจเรื่องอะไร และที่สำคัญการหา Social Media ในยุคนี้สามารถทำง่าย ๆ โดยเสิร์ชชื่อผ่าน Search Engine อย่าง Google เพียงเท่านั้น

และถ้าคุณไม่อยากให้ Social Media กลายเป็นผลเสียต่อการตอบรับเข้าทำงานของตัวคุณเอง JobThai ก็มีเคล็ดลับการจัดการ Social Media ก่อนส่งใบสมัครงานมาฝาก

ลองค้นหาชื่อตัวเองในเสิร์ชเอ็นจิ้น

วิธีง่าย ๆ ในการหาชื่อตัวเองในโลกออนไลน์ คือ การเสิร์ชชื่อ-นามสกุล หรืออีเมลของเราเองผ่านSearch Engine อย่าง Google เพราะมันจะทำให้เราเห็นข้อมูลของตัวเอง ในมุมมองของฝ่ายบุคคลหากเขาเอาชื่อหรืออีเมลเรามาค้นหา และหากเราเห็นว่าผลการค้นหาที่ขึ้นมามีข้อมูลหรือรูปภาพที่ไม่เหมาะสม ที่อาจส่งผลเสียต่อตัวเองก็ควรลบมันออกไป แต่หากสิ่งเหล่านั้นอยู่ใน Social Media หรือเว็บไซต์อื่น ๆ ที่เราไม่สามารถจัดการได้ เราก็ควรที่จะรีบติดต่อคนดูแลสื่อเหล่านั้น ให้ลบข้อมูลโดยเร็วที่สุด

ระวังข้อความที่แสดงบน Social Media

สิ่งต่อมาที่ต้องระวังคือข้อความต่าง ๆ ใน Social Media ทั้งคอมเมนต์ สถานะ หรือชื่อโปรไฟล์ เพราะบางครั้งความสนุกและความคึกคะนองอาจทำให้เราเผลอใส่ข้อความที่ไม่สุภาพ คำหยาบ ข้อความที่แสดงออกถึงทัศนคติที่ไม่ดีลงไป หรือกระทั่งการพูดถึงบริษัทที่เราเคยทำงานหรือกำลังทำอยู่ในทางลบ รวมไปถึงการแชร์ลิงก์ต่าง ๆ ที่ไม่ถูกกฎหมายหรืออนาจาร ก็จะทำให้เราถูกตัดคะแนนไปเยอะเลยเช่นกัน

นอกจากนี้ฝ่ายบุคคลบางคนยังให้ความสำคัญกับภาษา การเขียน และการสะกดคำต่าง ๆ ของเราด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเราสมัครงานในตำแหน่งที่ต้องใช้ทักษะในด้านการเขียน หรือตำแหน่งที่ต้องสื่อสารด้วยการเขียนอยู่เป็นประจำ

อย่าให้มีรูปภาพที่ไม่เหมาะสม 

ส่วนต่อมาที่ควรระมัดระวังเป็นอย่างมากก็คือรูปพร้อมแคปชันต่าง ๆ อาจไม่ต้องเป็นรูปที่เรียบร้อยเหมือนรูปที่ใช้สมัครงาน แต่อย่างน้อยต้องเป็นรูปที่เรามั่นใจว่ามันจะไม่ทำลายภาพลักษณ์ของตัวเราเอง เช่น รูปที่แต่งตัวไม่ถูกกาลเทศะ หรือรูปที่อยู่ในสถานที่หรือสถานการณ์ที่ไม่เหมาะสม รวมไปถึงรูปหรือวิดีโอต่าง ๆ ที่ถูกแท็กมาจากเพื่อนหรือคนรู้จักก็เป็นอีกสิ่งที่ต้องระวังเช่นกัน 

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว 

หากเราคิดว่า Social Media คือพื้นที่ส่วนตัวของตัวเราเอง จะโพสต์หรือแสดงความคิดเห็นอะไรลงไปก็เป็นสิทธิ์ของเรา ก็ต้องมั่นใจว่าได้ตั้งค่าความเป็นส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว อย่างการเลือกให้เห็นได้เฉพาะเพื่อน แต่หากคิดว่า Social Media ของเรามีส่วนที่สามารถช่วยให้ฝ่ายบุคคลเห็นถึงข้อดีได้ เราก็สามารถเลือกลบหรือตั้งค่าแค่เฉพาะบางโพสต์เท่านั้นก็ได้ เพราะการที่เราตั้งค่าทุกอย่างเป็นสาธารณะที่ทุกคนบนโลกอินเทอร์เน็ตสามารถเห็นได้ นั่นหมายความว่าเราต้องพร้อมที่จะยอมรับกับผลกระทบต่าง ๆ ที่อาจตามมา

นอกจากลบหรือตั้งค่าความเป็นส่วนตัวให้กับโพสต์หรือรูปต่าง ๆ ที่อาจสร้างปัญหาให้กับเรา จนกระทั่งเราผ่านขั้นตอนการสัมภาษณ์ และได้รับเลือกให้เป็นพนักงานแล้ว ก็อย่าลืมที่จะจัดการ Social Media ของเราให้ดีอยู่ตลอดเวลาด้วย เพราะสิ่งต่าง ๆ ใน Social Media ก็อาจสร้างปัญหาให้เราภายหลังได้เช่นกัน และไม่ว่าเราจะมีประวัติการทำงานหรือทักษะความสามารถที่ดีมากแค่ไหน แต่ทุกอย่างก็อาจไม่มีความหมาย และถูกทำลายลงได้เพียงเพราะข้อความที่ไม่เหมาะสมเพียงหนึ่งข้อความเท่านั้น