VIDEO
ถึงแม้ว่าการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในหลายประเทศทั่วโลกจะดีขึ้น จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศไทยลดน้อยลงมาก แต่เศรษฐกิจโลกก็ยังไม่สามารถกลับมาเป็นปกติได้อยู่ดี และยังคงส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงาน ทำให้มีผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น มีการแข่งขันที่สูงขึ้น รวมไปถึงมีการเปลี่ยนแปลงของโลกการทำงานที่ตามมา
เชื่อว่าหลายคนคงอยากรู้ว่าแล้วตลาดแรงงานในตอนนี้เป็นยังไงกันแน่ คนหางานเปลี่ยนแปลงไปในทางไหน รวมถึงแนวโน้มการทำงานในปีหน้าจะเป็นยังไง ดังนั้นวันนี้ JobThai จะพาไปไขข้อข้องใจพร้อมกับบอกเคล็ดลับดี ๆ จากพี่เดือน หรือคุณแสงเดือน ตั้งธรรมสถิตย์ COO และ Co-founder ของ JobThai
ปกติช่วงต้นปีทั้งคนหางาน และบริษัทที่หาคนจะมีจำนวนเยอะ แต่พอเกิด Lockdown ก็ทำให้เดือนมีนาคม-พฤษภาคมประกาศงานลดลง ซึ่งเดือนเมษายนลดเยอะมากที่สุดถึง 18.6% แต่หลังจากคลาย Lockdown แล้ว ประกาศงานค่อย ๆ กลับมาเพิ่มมากขึ้น แต่อัตราการเปิดรับก็ยังไม่สูงเหมือนเมื่อก่อน ส่วนภาพรวมการประกาศรับสมัครงานตลอดทั้งปี เมื่อดึงข้อมูลออกมาจนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน มีตำแหน่งงานทั้งหมด 346,357 อัตรา ซึ่งลดลงจากปีก่อน โดยบริษัทเองยังชะลอการรับคนเพิ่มอยู่ ดังนั้นตำแหน่งที่เปิดรับอยู่เหล่านี้ก็จะมีอัตราการแข่งขันที่สูงขึ้นกว่าปีก่อน ๆ ด้วย
พอการแข่งขันสูงขึ้น การคัดคนเข้าทำงานก็เข้มข้นขึ้น องค์กรจะมองหาคนเก่ง เชี่ยวชาญในตำแหน่งที่ตัวเองสมัคร และนอกจากรู้ลึกในตำแหน่งงานแล้ว ยังต้องรู้กว้าง หรือมีทักษะหลากหลาย ต้องเป็นคนที่ทำให้องค์กรแข่งขันได้มากขึ้นในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ซึ่งผลกระทบของโควิดยังทำให้พฤติกรรม การหางาน สัมภาษณ์งาน และรูปแบบการทำงานเปลี่ยนไปด้วย บริษัทและคนหางานก็ต้องมีการเปลี่ยนวิธีการหางานสมัครงาน ที่เห็นได้ชัดเลยคือมีการสัมภาษณ์งานออนไลน์มากขึ้น อย่าง JobThai เองก็มีบอกเลยว่าตำแหน่งงานไหนสัมภาษณ์ออนไลน์ได้บ้าง และสิ่งเหล่านี้น่าจะกลายเป็นเรื่องคุ้นชินในอนาคตอีกด้วย
JobThai เองก็อยากรู้ว่าการทำงานในช่วง COVID-19 ของบริษัทต่าง ๆ มีการปรับตัวยังไง จึงทำ Survey เกี่ยวกับเรื่องของการทำงานในช่วงที่ COVID-19 เกิดการระบาด โดยคนที่ตอบแบบสอบถามซึ่งเป็นฝั่งบริษัท เขาก็มีการจัดการดังนี้
แจกหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าให้กับพนักงาน
มีคนคอยทำความสะอาดโต๊ะและเก้าอี้ ของใช้ในออฟฟิศที่ใช้ร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ
ปรับเปลี่ยนเวลาเข้า-ออกงาน เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงเร่งด่วน
สนับสนุนอุปกรณ์ในการทำงานที่บ้าน เช่น ให้ยืมอุปกรณ์ หรือสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้ออุปกรณ์
มีการซื้อประกันสุขภาพ ประกัน COVID-19 ให้กับพนักงาน
บริษัทมีการปรับเปลี่ยนสวัสดิการให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยสวัสดิการที่ถูกลดลงหรือยกเลิกไปมากที่สุดก็คือ สวัสดิการกิจกรรมสันทนาการ เช่น งานกีฬาสี งานเลี้ยงสังสรรค์ ท่องเที่ยวประจำปี ส่วนสวัสดิการที่ได้เพิ่มขึ้นคือ Work from Anywhere ซึ่ง JobThai เองก็มีสวัสดิการนี้ และด้วยความโชคดีที่ทำงานในระบบ Cloud อยู่แล้วเลยไม่มีปัญหาอะไร ก็ไปทำงานที่บ้านกันเกือบ 100% ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังให้พนักงาน Work from Anywhere เพราะช่วงที่ผ่านมาผลการทำงานของทีมก็ดีไม่แตกต่างจากการเข้าออฟฟิศทุกวัน แถมยังช่วยให้พนักงานมีเวลามากขึ้น ไม่เครียดเรื่องการมาทำงานสาย ประหยัดค่าใช้จ่าย รวมถึงพนักงานบางคนสามารถย้ายกลับไปทำงานที่บ้านเกิดได้เลย
ช่วงนี้มีแต่คนพูดว่าใครมีงานทำก็ให้เกาะเอาไว้แน่น ๆ เลยอยากรู้เหมือนกันว่าคนทำงานเขาคิดกันแบบนี้จริง ๆ หรือเปล่า JobThai ก็เลยถามไปใน Survey และพบว่าครึ่งหนึ่งหรือประมาณ 55 % เป็นกลุ่มที่ไม่ได้หางานอย่างจริงจังแต่ก็เปิดโอกาสสำหรับงานใหม่ กลุ่มที่สองเป็นกลุ่มที่ตั้งใจจะหาใหม่อย่างจริงจัง 26% และกลุ่มสุดท้าย 18% คิดว่าจะไม่หางานใหม่
ส่วนสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้คนทำงานอยากหางานใหม่ คือ
1. ไม่พึงพอใจเรื่องเงินเดือน
2. ไม่มีความก้าวหน้าในสายงาน
3. ไม่พึงพอใจเรื่องสวัสดิการ
4. ไม่พึงพอใจเรื่องวัฒนธรรมและสภาพแวดล้อมขององค์กร
5. งานที่ทำไม่มีความท้าทาย
ในแบบสอบถามได้ถามเกี่ยวกับเหตุผลของการเปลี่ยนงานและพบว่ายังคงได้คำตอบคล้าย ๆ กับเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ซึ่งปัจจัยหลัก ๆ จะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับสิ่งตอบแทนของคนทำงานเสียส่วนใหญ่ โดยผลสำรวจของ 3 ปีที่แล้วคือ
อันดับ 1: ไม่พอใจในเรื่องเงินเดือน
อันดับ 2: ไม่มีความก้าวหน้าในสายงาน
อันดับ 3: ไม่พอใจเรื่องสวัสดิการ
อันดับ 4: ไม่พึงพอใจเรื่องโบนัส
อันดับ 5: งานที่ทำไม่มีความท้าทาย
ในปีนี้เหตุผลหลัก ๆ ยังเป็นเรื่องค่าตอบแทนเหมือนเดิม ที่แตกต่างจะอยู่ที่อับดับ 4 ซึ่งผลสำรวจของปีนี้จะเป็นเรื่องของวัฒนธรรมองค์กรและสภาพแวดล้อมในการทำงาน เพราะคนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมองค์กรมากขึ้น ทำให้ช่วงที่ผ่านมาองค์กรเองก็ให้ความสำคัญกับการทำ Employer Branding กันมาก เพื่อดึงดูด Talent คนทำงานรุ่นใหม่ให้เข้ามาร่วมงาน
เป็นเรื่องปกติที่คนอยากหางานใหม่ จะมีความกังวลในการหางานอยู่ ซึ่งผลสำรวจก็พบว่าเรื่องที่คนหางานกังวล 5 อันดับมีดังนี้
อันดับ 1: เรื่องวิกฤตเศรษฐกิจ 72.57%
อันดับ 2: การแข่งขันในตลาดแรงงานที่สูงขึ้น 66.30%
อันดับ 3: ความสามารถในการสื่อสารภาษาต่างประเทศไม่เพียงพอ 59.90
อันดับ 4: ทักษะความสามารถของตนเองอาจมีไม่เพียงพอ 56.99%
อันดับ 5: เรื่องประสบการณ์ในการทำงานไม่เพียงพอ 55.68%
โอกาสในการหางานของเด็กจบใหม่ก็ยังมีอยู่ เพราะจากแบบสำรวจพบว่ามีองค์กรเปิดรับนักศึกษาจบใหม่ประมาณ 53.3% ซึ่งสิ่งที่ทำให้องค์กรสนใจรับนักศึกษาจบใหม่เพราะพวกเขามีข้อได้เปรียบบางอย่างที่เหนือกว่าคนที่มีประสบการณ์แล้วหรือย้ายสายงาน ได้แก่
1. มีความกระตือรือร้น ไฟแรง 64.06%
2. ตำแหน่งงานเป็นระดับปฏิบัติการ ไม่ต้องการประสบการณ์มาก 63.82%
3. ต้องการความคิดสร้างสรรค์จากคนรุ่นใหม่ 59.45%
4. ปรับตัวได้ง่ายกว่าคนที่มีประสบการณ์แล้ว 49.08%
5. เงินเดือนไม่สูงเท่าคนทำงานที่มีประสบการณ์แล้ว 49.08%
อย่างไรก็ตาม ถึงจะมีข้อได้เปรียบตามที่บอกไป แต่ก็ต้องมีทักษะที่เพียงพอด้วยถึงจะได้งานทำ ซึ่งทักษะที่องค์กรใช้พิจารณานักศึกษาจบใหม่เข้าร่วมงานมีดังนี้
1. ความสามารถในการเรียนรู้และเปิดรับสิ่งใหม่ 66.13%
2. ทักษะในการทำงานร่วมกับผู้อื่น 59.22%
3. การสื่อสาร และการถ่ายทอดข้อมูล 55.99%
4. ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) 54.15%
5. ความสามารถในการวิเคราะห์ ประเมิน และวิพากษ์สิ่งต่าง ๆ (Critical Thinking) 44.01%
และจากข้อมูลประกาศงานของ JobThai สายงานที่เปิดรับนักศึกษาจบใหม่มากที่สุดในช่วงนี้ (ข้อมูลเดือนพฤศจิกายน 2563) ได้แก่
1. งานขาย
2. งานช่างเทคนิค
3. งานบริการลูกค้า
4. ควบคุมคุณภาพ/QC/QA/QM
5. วิศวกรรม
New Normal ชื่อมันก็บอกอยู่แล้วว่ามันคือเรื่องใหม่ที่จะกลายเป็นเรื่องปกติ เมื่อ COVID-19 เข้ามามันทำให้เราเกิดความเปลี่ยนแปลงแบบปุบปับขึ้นก็จริง แต่มันก็มาพร้อมกับความท้าทายใหม่ ๆ ในโลกการทำงาน ซึ่ง New normal ที่รู้สึกได้ชัด ๆ ก็คือ Work from Home ทำงานผ่านระบบ Online ทำให้ต้องเกิดการปรับตัว การเรียนรู้ เลือกใช้เครื่องมือ และการสื่อสารที่แตกต่างจากการสื่อสารในออฟฟิศ ส่วนฝั่ง HR เองก็ต้องมามองหาแนวทางที่จะเอามาใช้งานในการมอนิเตอร์พนักงาน บริหารจัดการข้อมูลพนักงานให้ได้เหมือนที่ทำตอนพนักงานเข้าไปทำงานในออฟฟิศ
อีกหนึ่งผลกระทบโดยตรงกับบริษัทคือเรื่อง Culture เพราะถ้าเราไม่สามารถเข้ามาทำงานด้วยกันได้ 100% สวัสดิการหรือกิจกรรมบางอย่างก็ต้องลดหรือเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์ ทำให้อาจส่งผลกระทบกับความรู้สึก และความเป็นอยู่ในองค์กรของพนักงาน ซึ่งหลังจากนี้จะมีวิธีการยังไงที่จะเป็นการสร้าง Culture ให้พนักงานรับรู้และเข้าใจ Core Value ของบริษัท ให้พนักงานมีประสบการณ์ที่ดีเหมือนแต่ก่อน และสามารถสร้าง Employer Branding ที่ดีเพื่อดึงดูดคนให้เข้ามาสมัครกับบริษัทได้ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ HR และผู้บริหารอาจจะต้องกลับมาพิจารณากันใหม่อีกครั้งว่าจะกำหนดแนวทางการทำงานออกมาเป็นแบบไหน
ฝั่งของการจ้างงานเองก็มีโอกาสที่จะเปลี่ยนไปด้วยเหมือนกัน เพราะความไม่แน่นอนของ COVID-19 ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต เศรษฐกิจที่ยังซบเซาทั่วโลก ความผันผวนของเศรษฐกิจมีสูง และบริษัทเองก็ไม่สามารถวางแผนระยะยาวได้ ดังนั้นการเพิ่มพนักงานประจำเลยมีความเสี่ยงด้านค่าใช้จ่ายมากเกินไป การหาคนทำงานแบบสัญญาจ้าง หรือทำงานเป็น Project จะช่วยให้ลดค่าใช้จ่ายลง
สำหรับคนทำงานที่มีประสบการณ์จุดนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ทำงานในหลากหลายประเภทธุรกิจ หรือนักศึกษาจบใหม่และคนทำงานที่ต้องการย้ายสายงาน รูปแบบการจ้างงานแบบนี้ก็อาจจะพาเราเข้าสู่สายอาชีพที่เราอยากลองทำงานได้เหมือนกัน
แต่ไม่ว่าเราจะเป็นใคร จะเป็นคนทำงาน HR องค์กร นักศึกษาจบใหม่ คนอยากย้ายสายงาน คนที่หางานทำอยู่ เหตุการณ์นี้ก็ทำให้เราได้รู้ว่าไม่มีอะไรแน่นอนเลย เราต้องพร้อมที่จะเรียนรู้และปรับตัวรับมือกับสิ่งใหม่ ๆ ตลอดเวลา ดังนั้นNew Normal ของการทำงานในยุคนี้ก็คือการ Keep Learning หรือการหยุดเรียนรู้ไม่ได้
คนที่หางานอยู่ตอนนี้อย่าเพิ่งหมดหวัง เพราะหลายบริษัทมีแนวโน้มกลับมาลงประกาศงานเพิ่มขึ้นใน JobThai ระหว่างที่ยังหางานทำไม่ได้นี้ก็อยากให้ลองดูว่าเรายังขาดทักษะอะไรสำหรับสายงานที่เราสนใจบ้าง ใช้โอกาสนี้ Upskill, Reskill ให้ความสามารถเราเพิ่มขึ้น ปรับ Resume ให้สอดคล้องกับตำแหน่งงานและองค์กรที่เราสมัครด้วย ข้อดีของการสมัครงานออนไลน์คือสามารถสร้างไฟล์ Resume ได้หลายไฟล์โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมากเท่าการทำเอกสาร Walk-in ไปสมัครงานที่บริษัท ซึ่งก็ไม่รู้ด้วยว่าไปแล้วเราจะเจอคนสัมภาษณ์ไหม
ถ้าหางานแล้วยังไม่ถูกใจ หรือยังไม่มีที่ไหนเรียก ก็อาจจะต้องยอมเลือกงานที่ไม่ใช่ 100% ไปก่อน แต่ต้องเป็นงานที่ให้ประสบการณ์ สามารถต่อยอดได้ หรือบางทีเราอาจจะเจอทักษะ หรือความชอบใหม่ ๆ จากการลองทำงานอื่นดูก็ได้ อีกอย่างที่อยากให้ทำไว้คือการฝากประวัติกับ JobThai เพราะนอกจากจะทำให้เราสมัครงานได้ง่ายขึ้นโดยการใช้ปุ่ม Apply Now แล้ว ประวัติที่ฝากไว้ใน JobThai ก็ยังเป็นการเปิดโอกาสให้องค์กรที่มาหาคน ค้นเจอประวัติเราได้ด้วย เป็นการเพิ่มโอกาสการได้งานของเราอีกช่องทางหนึ่ง
ฝากประวัติกับ JobThai ได้ ที่นี่
Oh My Job! Podcast ออนไลน์ทุกวันอังคาร ติดตามได้ในช่องทางต่าง ๆ ดังนี้
ติดตามบทความอื่น ๆ จากรายการ Oh My Job! Podcast ได้ที่นี่
JobThai Official Group เพื่อการหางาน หาคน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำงาน
Public group · 42,947 members