โลกธุรกิจและการทำงานในยุค AI ในมุมมองของผู้บริหารตัวจริงจาก 3 ธุรกิจ

04/09/24   |   76   |  

 

  • ผู้ประกอบการต้องมองภาพให้ออกว่าธุรกิจของตัวเองจัดอยู่ในประเภทไหน แล้วเทคโนโลยี AI จะเข้ามามีผลกระทบกับประเภทธุรกิจมากน้อยแค่ไหน
  • ผู้ประกอบการต้องพาบริษัทไปในโจทย์ที่ว่าการใช้ AI จะช่วยให้ลดต้นทุนและเพิ่มกำไรได้ยังไงบ้าง
  • การวางแผนนำเทคโนโลยี AI มาใช้กับธุรกิจ ต้องทำควบคู่ไปกับการสนับสนุนพนักงานให้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญในเรื่อง AI และดูว่ามีงานอะไรบ้างที่พนักงานสามารถใช้ AI ช่วยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้

 

JobThai Mobile Application หางานตรงใจได้ผ่านมือถือ โหลดเลย!

iOS

Android

Huawei AppGallery

 

ยุคนี้ไม่ว่าจะหันไปทางไหน เราก็จะได้ยินคำว่า AI (Artificial Intelligence) อยู่เสมอ ในภาคธุรกิจทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศ ก็มีหลายองค์กรที่เริ่มเอา AI มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ช่วยให้ประหยัดเวลา ลดต้นทุน และสร้างกำไรได้มากขึ้น ในมุมมองของคนเป็นผู้บริหารที่เห็นภาพรวมขององค์กรและธุรกิจ พวกเขาก็มีความคิดเห็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับ AI ซึ่ง JobThai ก็ได้ชวนผู้บริหาร 3 คน จาก 3 องค์กร และ 3 ธุรกิจที่ต่างกัน มาร่วมแชร์เกี่ยวกับ AI พร้อมแนะนำเทคนิคสำหรับองค์กรยุคใหม่ และเทคนิคการปรับกลยุทธ์สำหรับยุคปัจจุบันที่ AI  มีความสำคัญต่อการพัฒนาธุรกิจ

 

ทำความรู้จัก AI และสนับสนุนให้พนักงานมีความรู้

คุณแสงเดือน ตั้งธรรมสถิต

ผู้ร่วมก่อตั้งและหัวหน้าผู้บริหารด้านปฏิบัติการของจ๊อบไทย (JobThai)

 

ในมุมมองของผู้บริหารที่ทำงานในบริษัทเทคโนโลยีอย่าง คุณแสงเดือน ตั้งธรรมสถิต ผู้ร่วมก่อตั้งและหัวหน้าผู้บริหารด้านปฏิบัติการของจ๊อบไทย (JobThai) คุณแสงเดือนแชร์ว่า ถึงแม้เทคโนโลยี AI จะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ก็ยังมีหลายองค์กรในไทยที่ยังไม่ได้ให้ความสนใจกับเรื่องนี้ ซึ่งก็นับว่าเป็นเรื่องจำเป็นที่องค์กรต้องจะศึกษาและวางแผนนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้กับธุรกิจ เพื่อปรับตัวให้ทันกับการพัฒนาของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ และในขณะเดียวกันองค์กรจะต้องสนับสนุนพนักงานให้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญในเรื่อง AI ด้วย

 

สำหรับองค์กรที่ยังใหม่เกี่ยวกับเรื่อง AI และอยากจะเริ่มต้นใช้ ทางองค์กรต้องรู้ก่อนว่า AI นั้นมีหลายรูปแบบ และสิ่งแรกที่ควรทำคือเราต้องดูรูปแบบธุรกิจของเราว่ามันมีความเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีมากน้อยแค่ไหน ถ้าเราต้องลงทุนเพิ่มเราจะได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าไหม และดูว่า AI จะมีประสิทธิภาพหรือลดต้นทุนในระยะยาวได้รึเปล่า ยกตัวอย่างการใช้ AI กับธุรกิจต่าง ๆ เช่น การใช้ AI ที่พัฒนาเพื่อการวิเคราะห์และประมวลผลในธุรกิจด้านการตลาดและการเงิน หรืออย่างในธุรกิจการแพทย์ก็มีการใช้ AI ตรวจจับความผิดปกติของร่างกาย ตลอดจนอาการเริ่มต้นของโรคหรือคาดการณ์แนวโน้มได้ล่วงหน้าจากข้อมูลผลการตรวจประกอบกับภาพถ่าย และนอกจากสายงานที่พูดถึงไป คนทำงานในธุรกิจอื่น ๆ ก็เริ่มมีการใช้งาน Generative AI กันมากขึ้น เช่น การให้ AI ช่วยสรุปประเด็นที่เราต้องการรู้ให้เข้าใจง่าย ๆ

 

เมื่อเราเห็นความเกี่ยวข้องของธุรกิจของเรากับเทคโนโลยีแล้ว ต่อมาเราก็ต้องดูว่าขอบเขตหน้าที่หลัก ๆ ของพนักงานของเรามีอะไรบ้าง และมีส่วนไหนบ้างที่เอา AI มาช่วยงานได้

 

สุดท้ายเราต้องประเมินและเตรียมพร้อมด้านทักษะให้กับพนักงานตามความเหมาะสมกับลักษณะงานและศักยภาพของพนักงานแต่ละคน ถ้าพนักงานคนไหนมีความรู้ระดับพื้นฐาน ก็ต้องมีการอบรม Upskill หรือ Reskill เพื่อให้เขาสามารถทำงานร่วมกับ AI ได้ ถ้าคนไหนที่ใช้งาน AI เก่งอยู่แล้วก็อาจจะให้เขาเริ่มทดลองใช้ AI ในการทำงานจริงและทำหน้าที่อัปเดตข่าวสารเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่จะเป็นประโยชน์กับการทำธุรกิจและเพื่อนร่วมงาน เพื่อให้ทุกคนมีความเข้าใจและใช้เทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งองค์กรยังต้องสื่อสารกับพนักงานที่มีความกังวลว่า AI จะมาทดแทนแรงงานมนุษย์ โดยต้องเล่าทิศทางการพัฒนาองค์กรว่าจะใช้งานเทคโนโลยีนั้น ๆ ยังไง และชี้ให้พวกเขาเห็นประโยชน์จากเทคโนโลยีที่มีต่อองค์กรและตัวพนักงานเอง

 

รู้ทัน AI เพื่อนร่วมงานใหม่ที่คนทำงานไม่รู้จักไม่ได้

 

รู้จักใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

คุณภารุต เพ็ญพายัพ

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MQDC Idyllias

ภายใต้บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC)

 

ในมุมมองของ คุณภารุต เพ็ญพายัพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MQDC Idyllias ภายใต้บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) บริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย คุณภารุตได้แชร์ว่า ตอนนี้ภายในองค์กรก็ได้มีการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ทำงานในชีวิตประจำวันของพนักงานแล้ว เช่น การใช้ ChatGPT หรือ Google Gemini สำหรับหาข้อมูลต่าง ๆ หรือจะเป็นการใช้งาน AI เพื่อลดงานแอดมิน เช่น การสรุปการประชุม อีกทั้งในด้านธุรกิจ ยังได้นำ AI มาช่วยส่งเสริมการขายหรือสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับโครงการอสังหาริมทรัพย์ของ MQDC ด้วยการพัฒนาเวอร์ชวลแกลเลอรี่ (Virtual Gallery) เพื่อให้ข้อมูลผ่านช่องทางออนไลน์ ตอบโจทย์ลูกค้าที่ไม่สะดวกเดินทางมาเยี่ยมชมโครงการ ด้วยเทคโนโลยีประสบการณ์เสมือนจริงแบบ 3D และยังมี AI Agent ที่สามารถให้ข้อมูลและสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าได้ใกล้เคียงการคุยกับพนักงาน ซึ่งก็รองรับทั้ง 3 ภาษา คือภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาจีน เทคโนโลยี AI จึงนับว่าเป็นเครื่องมือหนึ่งที่จะทำให้ประสบการณ์บนตัวธุรกิจใหม่ในโครงการ MQDC Idyllias โครงการเมตาเวิร์สน่าตื่นเต้นยิ่งขึ้น

 

เมื่อพูดถึง AI ในมุมของคนทำงาน คุณภารุต แชร์ว่า คนทำงานจะแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกคือกลุ่มที่มีความกระตือรือร้น อยากทดลองใช้งานเครื่องมือต่าง ๆ เพื่อพัฒนาทักษะและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของตัวเอง กับอีกกลุ่มที่อาจจะยังอยู่ในช่วงของการปฏิเสธ และรู้สึกไม่มั่นใจว่าจะใช้เทคโนโลยี AI ในการทำงานยังไง ดังนั้นองค์กรจะต้องช่วยสนับสนุนคอร์สการเรียนรู้และส่งเสริมให้พนักงานทุกคนทดลองใช้เครื่องมือต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ AI ในชีวิตประจำวันให้มากยิ่งขึ้น และเมื่อทุกคนเริ่มรู้จักและเข้าใจมันแล้ว เราก็จะเริ่มเห็นทิศทางพฤติกรรมของพนักงานว่าพวกเขามีแนวโน้มที่พร้อมจะปรับตัวมากขึ้น

 

สำหรับมุมมอง AI กับบทบาทของผู้บริหารเองต้องวางแผนบริหารจัดการ ดูทิศทางการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และเลือกเครื่องมือที่มีอยู่มากมายในตลาดให้เหมาะสมและตอบโจทย์วัตถุประสงค์ในการดำเนินธุรกิจ เช่น ปัญหาที่อยากแก้ไขให้กับตัวลูกค้า และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียคือเรื่องอะไร ใช้ประเด็นเหล่านี้ในการตั้งโจทย์เพื่อเลือกเครื่องมือที่มาแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด รวมถึงจะใช้ AI เป็นตัวส่งเสริมประสบการณ์ในการคิดนวัตกรรม หรือคิดผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่จะตอบโจทย์ธุรกิจได้อย่างไรบ้าง เอามาเสริมในจุดนั้นจะเป็นวิธีการที่ทำให้เราขับเคลื่อนงานได้อย่างมีทิศทางมากที่สุด

 

คุยกับพนักงานยังไง เมื่อองค์กรของคุณต้องเริ่มใช้ AI ในการทำงาน

 

มองภาพให้กว้าง เติบโตไปพร้อมเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลง

คุณหมู ณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์

ผู้ก่อตั้งและซีอีโอบริษัท อุ๊คบี จำกัด (Ookbee)

 

ในมุมมองของผู้บริหารอีกคนนึงอย่าง คุณหมู ณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอบริษัท อุ๊คบี จำกัด (Ookbee) แพลตฟอร์มซื้อ-ขายหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ และนักลงทุน ได้ให้ความคิดเห็นและคำแนะนำเกี่ยวกับสถานการณ์ AI ในภาคธุรกิจไทยว่า ผู้ประกอบการที่กำลังเริ่มศึกษาเรื่องการใช้ AI ต้องมองภาพให้ออกว่าเราอยู่ในธุรกิจแบบไหน แล้ว AI จะเข้ามามีผลกระทบกับประเภทธุรกิจของเรามากน้อยเท่าไหร่ อาจมีบางประเภทธุรกิจที่ AI ไม่ได้เข้ามาส่งผลกระทบมากนัก แต่บางธุรกิจก็มีโอกาสที่จะถูก AI Disrupt ได้ ซึ่งก็อาจจะมองว่าเป็นทั้งความเสี่ยงและโอกาสที่ผู้ประกอบการต้องปรับเปลี่ยนธุรกิจให้ได้

 

ปัจจุบันมีผู้ประกอบการไทยที่นำ AI มาใช้กับธุรกิจมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ธุรกิจขายปลีก (Retail) ที่นำ AI เข้ามาใช้ตั้งแต่กระบวนการและขั้นตอนในการจัดสรรสินค้า (Supply Chain Optimization) เช่น การจัดการคลังสินค้า (Inventory Management) โดยวิเคราะห์สต็อกสินค้าว่าสินค้าไหนที่มีมากไปและมีโอกาสเสียหายหรือหมดอายุ สินค้าไหนที่ไม่เพียงพอต่อการขายซึ่งช่วยให้จัดการได้เร็วขึ้น รวมถึงการวางแผนเส้นทางในการส่งสินค้า (Route Planning) โดยเป็นการช่วยคิดว่าจะต้องไปส่งสินค้าอย่างไรให้ประหยัดเวลาและน้ำมันมากที่สุด ไปจนถึงฝั่งการขายก็มีการนำ AI มาใช้ในการเสนอสินค้าตามพฤติกรรมและความต้องการของแต่ละคน

 

นอกจากนี้จะเห็นว่า Generative AI ปัจจุบันสามารถสร้างทั้งข้อความ รูปภาพ เสียง วิดีโอ ซึ่งก็เป็น AI ที่คนทั่วไปให้ความสนใจกันเป็นอย่างมาก และดูเหมือนว่า Generative AI จะส่งผลกระทบโดยตรงกับงานคอนเทนต์ประเภทต่าง ๆ ซึ่งคุณณัฐวุฒิก็ให้ความเห็นกับเรื่องนี้ว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่าในระยะยาว AI ส่งผลกระทบโดยตรงกับผู้ผลิตคอนเทนต์โดยเฉพาะนักวาดภาพประกอบ แต่ปัจจุบันทางด้านนักเขียน นักวาดภาพประกอบ ยังมีความกังวลเรื่องของลิขสิทธิ์ในการใช้ AI และมีการทำงานแบบถ้อยทีถ้อยอาศัยและสนับสนุนความเป็นศิลปินอยู่ เลยยังไม่มีการนำ AI มาใช้ในงานมากนัก ซึ่งสำหรับด้านแพลตฟอร์ม Ookbee ก็นำ AI มาใช้ แต่จะเป็นในแง่ของการนำเสนอสินค้าในแพลตฟอร์มให้ตรงกับความสนใจของลูกค้ามากขึ้น ตลอดจนงานเอกสารต่าง ๆ

 

คุณณัฐวุฒิ ฝากคำแนะนำทิ้งท้ายเอาไว้ว่า สำหรับผู้นำองค์กร เราจะต้องเข้าใจอย่างแน่ชัดว่าธุรกิจของเราต้องการอะไร และต้องพาบริษัทไปในโจทย์ที่ถูกว่าการใช้ AI จะช่วยให้ลดต้นทุนและเพิ่มกำไรได้ยังไงบ้าง และสำหรับใครที่เป็นคนทำงาน คุณณัฐวุฒิก็ฝากเอาไว้ว่า AI เป็นสิ่งที่อัปเดตเร็วมาก เราจึงควรจะต้องเข้าไปมีส่วนร่วมและเรียนรู้ไปพร้อมกัน เพราะยังถ้าไม่เริ่มเรียนรู้และรอให้เทคโนโลยีพัฒนาไปไกล วันนึงเราก็อาจจะตกขบวนได้ โดยคนทำงานสามารถเริ่มได้จากการดูว่างานในวันนึงของเรานั้นมีอะไรบ้าง เช่น ประชุม เขียนอีเมล ผลิตคอนเทนต์ จากนั้นมาดูต่อว่ามี AI อะไรมาช่วยได้บ้าง ถึงแม้ว่าทุกวันนี้ AI อาจจะยังไม่ได้เพอร์เฟกต์ แต่เราจะเห็นว่ามันมีพัฒนาการที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายที่เราจะทดลองใช้ดู

โลกธุรกิจและตลาดแรงงานในปัจจุบันมีความผันผวนอยู่ตลอดเวลา ฝั่งองค์กรจึงควรกำหนดทิศทางการพัฒนาธุรกิจให้ชัดเจน และเตรียมความพร้อมเรื่องเทคโนโลยีให้กับบริษัทและพนักงาน ทั้งการส่งเสริมการเรียนรู้ สนับสนุนให้ทดลองใช้เทคโนโลยีในงานมากขึ้น และในด้านคนทำงานเองก็ต้องคอยพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง ปรับตัวและเปิดรับสิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ และเมื่อทั้งองค์กรและพนักงานเปิดใจและเรียนรู้เกี่ยวกับ AI แล้ว ธุรกิจก็ก็จะเติบโตต่อไปได้ในโลกยุคใหม่

 

JobThai Official Group เพื่อการหางาน หาคน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำงาน

tags : career & tips, ai, artificial intelligence, generative ai, เอไอ, การทำงาน, แนวคิดผู้บริหาร, jobthai, mqdc, ookbee



ติดตามข่าวสารและเรื่องราวดีๆ ทาง Email

ขอบคุณสำหรับการติดตาม