เป็นเรื่องปกติที่เราจะรู้สึกวิตกกังวล เครียด หรือโมโหและโกรธกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะ COVID-19 เข้ามาเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตของพวกเราแทบจะพลิกฝ่ามือ และแต่ละคนก็มีสิ่งที่เครียดและวิธีการรับมือกับความเครียดที่เกิดขึ้นนี้แตกต่างกันไป  

บางคนอาจตื่นตระหนกและกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของตัวเองและคนที่รัก เจ้ากี้เจ้าการกดดันให้ทุกคนป้องกันตนเองเกินเหตุจนเกิดความหงุดหงิดใส่กัน บางคนก็เกิดภาวะเครียดจนกินและนอนไม่ได้ตามปกติ หรือบางคนก็ดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไหนจะความกังวลที่เกิดจากความคิดว่าตัวเองจะติดโรคไปหรือยังอีก วันนี้ JobThai มีวิธีการรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ เพื่อรักษาสุขภาพจิตของคุณในช่วงนี้มาฝากกัน 

1. จำกัดการเสพข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับ COVID-19 

การติดตามข่าวสารเพื่อเตรียมตัวรับมือเป็นเรื่องที่ดีแต่ก็อย่าเสพมากจนเกินไป ข่าวสารที่เกิดขึ้นในภาวะแบบนี้ย่อมทำให้เกิดความเครียด หรือวิตกกังวล ไม่ว่าจะเป็นความน่ากลัวของตัวโรคเอง หรือผลกระทบด้านอื่น ๆ ที่เกิดขึ้น 

สิ่งที่ควรทำคือเสพข่าวสารแต่พอดี เลือกเฉพาะแหล่งที่น่าเชื่อถือ เจ้ากรมข่าวลือใน Social Media ทั้งหลายก็ควรหลีกเลี่ยง และจำกัดเวลาในการเสพข่าวด้วย อย่าวนเวียนอัปเดตข่าวทั้งวัน การอ่านข่าวที่เรากลัวซ้ำ ๆ จะทำให้เกิดความวิตกกังวลและความเครียดมากเกินไปได้ แล้วเอาเวลาที่มีจากการลดการเสพข่าวนี้ไปผ่อนคลายให้กับตัวเอง กิจกรรมต่าง ๆ ที่คุณทำจะทำให้ได้พักจากเรื่องของ COVID-19 ไปได้บ้าง

2. พยายามใช้ชีวิตให้เป็นปกติและดูแลสุขภาพตัวเองให้ดี 

เมื่ออยู่บ้านเป็นส่วนใหญ่แล้ว หลายคนอาจจะเผลอปล่อยตัวเองไม่ดูแลสุขภาพและสุขลักษณะของร่างกาย เพราะว่าเราไม่จำเป็นต้องออกไปเจอใครที่ไหน ซึ่งนั่นอาจจะทำให้สุขภาพของเราทรุดโทรมลง ภูมิต้านทานต่ำ และป่วยได้ง่ายขึ้น ซึ่งอาจจะไม่ใช่การป่วยจาก COVID-19 แต่เราก็จะวิตกกังวลทันทีที่เราเริ่มไม่สบายความเครียดต่าง ๆ ก็จะตามมาไม่หยุด 

สุขภาพกายที่แข็งแรงก็จะทำให้สุขภาพจิตของเราดีตามไปด้วย เราควรพยายามทำทุกอย่างตามชีวิตประจำวันของเราก่อนหน้านี้ให้มากที่สุด อย่างน้อยเราก็จะได้ดูแลตัวเองให้ดีและยังรู้สึกว่าสามารถควบคุมชีวิตของตัวเองให้เป็นไปตามปกติได้เหมือนที่เคยทำ ไม่ว่าจะเป็น

• เวลาในการตื่นนอนและเข้านอนให้เป็นเหมือนปกติที่เราตื่นและเข้านอนตอนที่เราไปทำงาน

• กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ และกินให้เป็นเวลาตามปกติ

• ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เท่าที่สถานที่ที่จะอำนวย 

ข้อดีอีกอย่างของการมีสุขภาพที่ดีก็จะช่วยให้ภูมิคุ้มกันของเราแข็งแรงขึ้น โอกาสที่ COVID-19 จะทำให้เราป่วยได้ก็มีโอกาสลดลงไปด้วย 

3. อย่าอุดอู้อยู่แต่ในห้อง หาเวลาออกไปข้างนอกบ้าง 

ในสภาวะแบบนี้ไม่ใช่ว่าเราจะออกไปไหนไม่ได้เลยต้องขังตัวเองอยู่ในบ้านเท่านั้น ถ้าเรารู้สึกว่าเครียดหรือหดหู่ก็หาเวลาออกไปเดินเล่นข้างนอกบ้างก็ได้ ป้องกันตัวเองให้ดีด้วยหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ แล้วออกมาเดินรับแสงแดงในยามเช้า นอกจากจะเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศไม่ให้อุดอู้จนเกินไปแล้ว แดดอ่อน ๆ ยามเช้ายังช่วยให้ร่างกายได้สังเคราะห์วิตามินดีที่มีผลในการลดภาวะความเครียดให้เราได้อีกด้วย  

4. โฟกัสเฉพาะสิ่งที่เราทำได้ อย่าไปคิดมากกับสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้

COVID-19 เป็นเรื่องใหญ่เกินกว่าเราคนเดียวจะรับมือไหว อาจจะมีหลายเรื่องที่เราหงุดหงิด โกรธ หรือไม่พอใจกับสิ่งที่คนอื่น ๆ ทำแล้วทำให้สถานการณ์มันเลวร้ายลง พยายามอย่าไปคิดถึงในสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ กลับมาคิดถึงสิ่งที่เราทำได้เพื่อตัวเองและเพื่อส่วนรวมดีกว่า เช่น 

• ล้างมืออย่างสม่ำเสมอ หรือให้เจลล้างมือในกรณีที่ไม่สะดวก 

• ใช้หน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อจำเป็นต้องออกไปในสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน

• หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสหน้า ตา จมูก 

• หลีกเลี่ยงการเดินทางไปที่ต่าง ๆ โดยไม่จำเป็น 

• พยายามรักษาสุขภาพของตัวเองให้ดีที่สุด 

อย่างน้อยเราก็ไม่ต้องมานั่งเสียดายอะไรทีหลังเพราะในตอนนี้เราทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีที่สุดแล้ว

5. ติดต่อกับคนอื่น ๆ อยู่เสมอ 

ในช่วงที่เราออกไปพบปะสังสรรค์กับเพื่อน ๆ ไม่ได้ตามปกติ ก็อาจจะทำให้เราเกิดความเหงาได้ พยายามติดต่อพูดคุยกับเพื่อน ๆ หรือครอบครัวอยู่เสมอ ผ่านโทรศัพท์มือถือ หรือ Social Media ต่าง ๆ สอบถามเรื่องราวทั่ว ๆ ไปทั้งที่เกี่ยวและไม่เกี่ยวข้องกับ COVID-19 บ้าง เพื่อให้เรารู้ว่าไม่ได้โดดเดี่ยวต้องเผชิญสถานการณ์นี้อย่างลำพัง การได้พูดคุยกับคนอื่น ๆ ทำให้เราไม่ต้องรู้สึกว่าเราต่อสู้อยู่คนเดียวจะช่วยให้เราเครียดน้อยลง และยังป้องกันเราไม่ให้ใช้วิธีลดความเครียดแบบอื่น ๆ ที่อาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ เช่น การดื่มแอลกอฮอล์ หรือกินอาหารมากเกินไปได้ 

แต่ถ้าสุดท้ายแล้วความเครียด ความวิตกกังวลต่าง ๆ ยังไม่ลดลง การปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เราขอแนะนำให้ติดต่อไปที่สายด่วนสุขภาพจิต 1323 หน่วยงานให้คำปรึกษาจากกรมสุขภาพจิตที่ไม่คิดค่าใช้จ่ายในการให้คำปรึกษา ซึ่งก็ยังเลือกได้ด้วยว่าจะปรึกษาผ่านการโทรศัพท์พูดคุย ได้ที่เบอร์ 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือจะปรึกษาผ่านระบบออนไลน์ก็ไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/helpline1323/

JobThai Official Group Public group · 200,000 members Join Group

ที่มา:

who.int

cnbc.com

cdc.gov

nami.org