จมกับ "ความรู้สึกผิด" ของตัวเองจนไปต่อไม่ได้ ทำยังไงดี

21/06/24   |   143.9k   |  

 

 

 

JobThai Mobile Application สมัครงานง่าย ได้งานเร็ว

iOS

Android

Huawei AppGallery

 

หลายคนอาจจะมีเรื่องที่รู้สึกผิด ไม่ว่าจะเป็นด้านการเรียน การงาน หรือความรัก เป็นความรู้สึกผิดที่ติดอยู่ในใจ บางคนถึงขั้นจมอยู่กับมันจนไม่มีกำลังใจดำเนินชีวิตต่อ มูฟออนไม่ได้ หรือบางคนชีวิตเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ยกตัวอย่างเช่น รู้สึกตัดสินใจผิดที่ลาออกจากงานเพื่อมาทำธุรกิจแต่สุดท้ายกลับไปไม่รอด หรือรู้สึกผิดที่นอกใจแฟนที่คบกันมาหลายปี และถ้าคุณคือคนนึงที่กำลังจมอยู่กับความผิดพลาดที่ “ล้ม” แล้ว “ลุกไม่ขึ้น” วันนี้ JobThai จะพามาทำความเข้าใจกับมันรวมถึงบอกวิธีการรับมือ

 

ลักษณะคนที่รู้สึกผิดมากจนกลายเป็นโทษตัวเอง

ความรู้สึกผิด คือความรู้สึกแย่กับตัวเอง การยอมรับสิ่งที่ตัวเองทำไม่ได้ มองว่าตัวเองได้ทำสิ่งที่ไม่ควรทำออกไป ที่ส่งผลให้เกิดความเสียหายทางจิตใจ หรือทางร่างกาย กับคนอื่น หรือตัวเอง ซึ่งในความเป็นจริงแล้วคนเราสามารถรู้สึกผิดได้เป็นเรื่องปกติ แต่ความรู้สึกผิดนั้นควรอยู่ในความสมเหตุสมผล เราไม่ควรจมอยู่กับมันจนเกินพอดี รวมถึงยอมรับและหาวิธีปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้ได้

 

 

เชื่อว่าหลายคนต่างต้องเคยมีความรู้สึกผิดกับเรื่องราวในชีวิตตัวเองกันทั้งนั้น แต่จะมีคนบางกลุ่มที่มีความรู้สึกผิดที่มากจนเกินพอดี จนกลายเป็นโทษ ซึ่งคนกลุ่มนั้นส่วนมากจะมีลักษณะดังนี้

 

1. คนที่ชอบตำหนิตัวเอง

คนที่ชอบโทษตัวเอง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นมักจะตำหนิตัวเองไว้ก่อน เห็นข้อเสียของตัวเองมากกว่าข้อดีเสมอ  หรือรู้สึกผิดโดยไม่สมเหตุสมผล ซึ่งลักษณะการชอบตำหนิตัวเองนี้ บางส่วนจะมีสาเหตุมาจากความสัมพันธ์กับครอบครัวในวัยเด็ก เช่น โตมากับคนเลี้ยงที่เข้มงวด และไม่ค่อยแสดงความรัก หรือ ถูกลงโทษอยู่เป็นประจำ

 

2. คนมี Self-Esteem สูงเกินไป

คนที่มี Self-Esteem หรือมีความมั่นใจในตัวเอง กล้าคิด กล้าแสดงออกสูงเกินไป มักจะสร้างมาตรฐานของตัวเองให้สูงยิ่งขึ้น สร้างแรงกดดันให้ตัวเองแบบไม่รู้จบ จะเป็นคนที่ทำงานหนักมาก และเมื่อมีความผิดพลาดเกิดขึ้น พวกเขามักจะให้อภัยตัวเองได้ยาก และมักคิดว่าตัวเองไม่เก่งหรือไม่ได้เรื่องหลังจากเจอกับความล้มเหลว ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้การให้อภัยตัวเองเกิดขึ้นได้ยากยิ่งขึ้น

 

3. คนขาดความยืดหยุ่น

คนที่ทำอะไรอยู่ในกรอบ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามแผนเป๊ะ ๆ รู้สึกว่าไม่ควรมีอะไรนอกเหนือจากสิ่งที่แพลนไว้ เพราะถ้าเกิดมีอะไรผิดแปลกไปจากที่คิด ก็จะคิดแล้วว่าแผนที่วางไว้ไม่สำเร็จ มักจะมองสิ่งต่าง ๆ เป็นขาวหรือดำเท่านั้น ไม่มองอะไรเป็นสีเทา

 

4. คนคาดหวังกับตัวเองสูง

คนที่มีลักษณะบุคลิกภาพแบบ "คนสมบูรณ์แบบ" (Perfectionist) มักจะเป็นคนที่เข้มงวดและเคร่งครัดเกินไป เป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูงมาก มักจะทุ่มเทกับทุกสิ่งมากเกินไป ใส่ใจทุกรายละเอียด และอาจจะสร้างความกดดันให้กับตัวเองและคนใกล้ชิด เมื่อให้ความสำคัญกับความสมบูรณ์แบบมาก จึงคาดหวังให้ตัวเองทำสิ่งที่ถูกต้องตลอดเวลา เวลาทำผิดพลาดขึ้นมาแม้เพียงน้อยนิด จะรู้สึกเหมือนทุกอย่างที่สร้างมาพังทลาย

 

5. คนไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง

คนที่มีมุมมองความคิดต่อตัวเองในแง่ลบ ชอบหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องพบปะกับผู้อื่น เพราะคิดว่าผู้อื่นอาจรู้สึกไม่ชอบถ้าเกิดทำผิดพลาดอะไรไป ไม่ชอบทำสิ่งที่ท้าทาย เพราะคิดว่าตัวเองไม่มีความสามารถพอ ซึ่งเป็นสาเหตุให้ขาดความกระตือรือร้นในการทำสิ่งต่าง ๆ รู้สึกว่าตัวเองไม่มีความสามารถในการเผชิญหน้ากับปัญหาหรือความท้าทายในชีวิต และเมื่อทำอะไรผิดพลาดแม้เพียงเล็กน้อย จะรู้สึกแย่กับตัวเอง และมองตัวเองไม่มีค่าอยู่เสมอ

 

กลัวผิดพลาดจนไม่กล้าทำอะไร ออกจาก Comfort Zone ยังไงดี?

 

เมื่อความรู้สึกผิดมีมากเกินไปจนทำให้เราไม่อนุญาตให้ตัวเองมีความสุข

คนที่มีความรู้สึกผิดมากจนไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข ส่วนมากจะเป็นคนที่เจอกับการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ เช่น เราเป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุและเป็นคนเดียวที่รอดชีวิตในขณะที่มีคนเสียชีวิตหลายคน จนรู้สึกผิดและไม่อยากมีชีวิตต่อไป หรือเราตัดสินใจผิดพลาดครั้งใหญ่ในการทำงานจนธุรกิจล้มละลาย โดยที่ตัวเองคือหัวหน้าครอบครัวที่ทุกคนฝากความหวัง ความรู้สึกทรมานใจอย่างมากทำให้หลายคนใช้ชีวิตต่อไปอย่างไม่มีความสุข เฝ้าโทษตัวเองซ้ำ ๆ ยิ่งนึกถึงเหตุการณ์ความผิดนั้นบ่อย ๆ ยิ่งรู้สึกแย่กับตัวเองมากขึ้น จนกระทั่งไม่อนุญาตให้ตัวเองมีความสุข เพราะต้องการลงโทษตัวเอง หรือบางคนจะมีความสุขก็รู้สึกละอายใจ จึงต้องทำให้ตนเองรู้สึกทุกข์ใจ หรือทำให้ชีวิตตนเองตกต่ำอยู่ตลอด ใช้ชีวิตไปอย่างไม่ใยดีเพื่อชดเชยความผิด

 

เคล็ดลับสร้างความสุขในแต่ละวันให้เป็นนิสัย

 

วิธีรักษาใจตัวเองในวันที่ “ความรู้สึกผิด” ทำให้เราเลิกรักตัวเอง

แม้ว่าความเจ็บปวดของคนเราจะดูเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด แต่ความจริงแล้วมันมี ซึ่งคนที่จะพาให้เราก้าวผ่านเรื่องร้าย ๆ ได้ดีที่สุดก็คือ “ตัวเอง” และนี่คือวิธีรักษาใจตัวเองในวันที่ “ความรู้สึกผิด” ทำให้เราเลิกรักตัวเอง

 

 

1. ยอมรับว่าอดีตไม่ได้ตัดสินปัจจุบัน เข้าใจและเรียนรู้จากความผิดพลาด

มองว่าอดีตที่ผ่านมาเป็นแค่ความทรงจำหนึ่งของเรา และเราจะสร้างมันขึ้นมาใหม่อีกครั้งในปัจจุบัน เราไม่ใช่คนในอดีต แต่เป็นคนใหม่ที่แตกต่างไปแล้ว ให้คิดว่าความผิดพลาดเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่มีใครไม่เคยผิดพลาด คนที่ไม่ผิดพลาดคือคนที่ไม่เคยทำอะไรเลย รวมถึงเรียนรู้จากความผิดพลาดนั้น จำไว้เสมอว่า ความผิดพลาด คือครู

 

2. ให้เวลาตัวเองร้องไห้บ้าง

บางคนเมื่อเสียใจมักจะพยายามไม่ร้องไห้ เพราะคิดว่าการร้องไห้ทำให้เราอ่อนแอ ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องดี เพราะการร้องไห้ออกมาแสดงให้เรารู้ว่าตัวเองกำลังเศร้ามากแค่ไหนและควรหาวิธีจัดการมันยังไง นอกจากนั้นในน้ำตาที่หลั่งออกมายังมีฮอร์โมนเครียดออกมาด้วย ซึ่งจะทำให้เราผ่อนคลายขึ้นเมื่อได้ร้องไห้ ยอมรับว่าตัวเองเศร้าบ้างก็ไม่เป็นไรหรอก ให้ถือเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิต แต่ก็อย่าถึงกับร้องหนักทุกวัน และซ้ำเติมตัวเองจนมากเกินไป

 

3. พูดคุยกับผู้อื่น แบ่งปันความรู้สึกกับคนใกล้ตัว

ระบายสิ่งที่อยู่ในใจออกมา เปิดเผยความรู้สึกที่แท้จริงไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกที่รุนแรง หรือเศร้าเสียใจขนาดไหน อาจจะหาเพื่อน คนในครอบครัว หรือคนที่รู้สึกสนิทใจสักคนที่ไว้ใจได้และพูดมันออกมา เพราะการพูดเป็นการระบายเรื่องที่อยู่ในใจได้ดีที่สุด การเก็บความเศร้าและเสียใจไว้กับตัวคนเดียวมีแต่จะทำให้เจ็บช้ำมากขึ้น อย่าให้มันบั่นทอนชีวิตเรา

 

4. พูดคำว่า "ขอโทษ" กับคนที่เรารู้สึกผิด

ถ้ามีโอกาสให้พูดคำขอโทษกับคนที่เรารู้สึกผิดด้วย ไม่ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเราหรือเขาจะผิดมากกว่ากันก็ตาม เพราะคำขอโทษ ถึงแม้จะเป็นแค่เพียงคำพูด แต่มันก็แสดงถึงความจริงใจให้คนฟังรู้สึกได้ว่าเราไม่ได้ตั้งใจให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้ รวมถึงยังเหมือนเป็นสิ่งที่ช่วยเยียวยา "แผลใจ" ได้มาก และไม่ว่าอีกฝั่งจะยกโทษให้หรือไม่ก็ตาม อย่างน้อยเราก็ได้ทำสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว

 

5. ทำงานอาสาสมัครต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม

ถ้าเรารู้สึกผิดและรู้สึกว่าปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้เรามองเห็นคุณค่าของตัวเองน้อยลง ให้เปลี่ยนความรู้สึกผิดเป็นพลังด้านบวก โดยอาจจะลองทำงานอาสาสมัครที่สร้างประโยชน์ให้กับคนอื่น เพื่อช่วยลดความรู้สึกผิด และกลับมาเห็นคุณค่าในตัวเองมากขึ้น หรือลองหากิจกรรมทำเพื่อไม่ให้ว่างคิดเรื่องราวต่าง ๆ เพราะเวลาที่ว่าง เรามักจะคิดมาก คิดฟุ้งซ่าน คิดเลยเถิดจนเกินจริง

 

6. เรียนรู้ที่จะให้อภัยตัวเอง และเริ่มต้นชีวิตใหม่

ความผิดในบางเรื่องสมควรถูกตำหนิเพื่อที่จะได้จดจำและนำไปแก้ไข แต่หากเรายิ่งใช้เวลากับความรู้สึกผิดนานเท่าไหร่ มันก็จะกัดกินความสุขและความภาคภูมิใจในตัวเรามากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นจงเรียนรู้ที่จะให้อภัยคนอื่นไปพร้อมกับการให้อภัยตัวเอง ใจดีกับตัวเราเองบ้าง เพราะไม่มีใครที่รักษาแผลใจของตัวเองได้ดีกว่าตัวเองอีกแล้ว จากนั้นเริ่มต้นใหม่กับชีวิตที่ดีขึ้น

 

อย่าเก็บความรู้สึกผิดไว้กับตัวเองมากเกินไป อย่าโทษตัวเองตลอดเวลาว่าที่ผ่านมาทำได้ไม่ดีพอ อย่าทุกข์ทนจนจมอยู่กับมันจนไม่รู้จักจบ ลองให้อภัยตัวเอง หยุดลงโทษตัวเอง คิดว่ามันก็เป็นแค่อดีตแย่ ๆ ที่เราจะไม่มีวันให้มันมาทำลายอนาคตที่ดีของเรา คิดง่าย ๆ หากเรามีบ้านอยู่หนึ่งหลัง แล้ววันนึงเกิดหลังคารั่วหนึ่งจุด เราจะทิ้งบ้านหลังนั้นไปเลยไหม ถ้าคำตอบคือไม่ ก็จงอย่าทำให้สิ่งเล็กน้อยที่เกิดขึ้นมามีผลกับชีวิตที่เหลืออยู่ของเราเด็ดขาด

 

ฝากประวัติเพื่อหางานที่ใช่ได้ ที่นี่

 

JobThai Official Group เพื่อการหางาน หาคน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำงาน

tags : lifestyle, jobthai, คนทำงาน, แนวทางการใช้ชีวิต, แนวคิดในการทำงาน, แนวคิดในการใช้ชีวิต, ไลฟ์สไตล์คนทำงาน, เคล็ดลับประสบความสำเร็จ, การทำงาน



ติดตามข่าวสารและเรื่องราวดีๆ ทาง Email

ขอบคุณสำหรับการติดตาม