พิน เกษมศิริ นักธุรกิจเพื่อสังคม กับการลงมือสร้างสิ่งดี ๆ ให้กับเด็กไทย

พิน เกษมศิริ นักธุรกิจเพื่อสังคม กับการลงมือสร้างสิ่งดี ๆ ให้กับเด็กไทย
11/03/17   |   12.5k   |  

พิน เกษมศิริ ผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่มีความคิดที่ยิ่งใหญ่ และความตั้งใจที่แน่วแน่ว่าอยากจะช่วยให้เด็กไทยได้รู้จักตัวเองมากขึ้น จึงได้ร่วมกับเพื่อนทำธุรกิจเพื่อสังคมในนาม CareerVisa Thailand เพื่อหวังจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจและแรงผลักดันให้กับคนที่กำลังค้นหาตัวเอง ไปพร้อมๆ กับเสริมสร้างทักษะที่จำเป็นให้กับเด็ก ๆ 

 

 

  • คุณพิน เกษมศิริ สร้าง CareerVisa Thailand ขึ้นมาเพื่อช่วยสร้างแรงบันดาลใจ และแรงผลักดันให้เด็ก ๆ ที่กำลังค้นหาตัวเอง ไปพร้อม ๆ กับเสริมสร้างทักษะที่จำเป็นให้กับพวกเขา
  • เธอเคยทำงานอยู่ในบริษัทเอเจนซีระดับท็อป 5 ของโลก และเคยเป็นที่ปรึกษาธุรกิจอยู่ในบริษัทที่เป็น 1 ใน 4 บริษัทด้านการตรวจสอบบัญชีและการให้บริการปรึกษาทางธุรกิจที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ก่อนที่จะตัดสินใจทิ้งโอกาสที่จะเติบโตในองค์กรขนาดใหญ่ เพราะว่าอยากจะทำงานที่ได้ช่วยแก้ปัญหาให้กับเด็ก ๆ และสังคม ผ่านการลงมือทำด้วยตัวเธอเอง
  • ไอเดียในการทำ CareerVisa Thailand เกิดจากการที่เธอเห็นว่าเพื่อน ๆ หลายคนยังไม่รู้จักตัวเองทั้งที่มีความสามารถ ประกอบกับการที่เธอได้ไปเห็นว่าต่างประเทศมี Career Center ที่ช่วยให้คำปรึกษากับเด็ก ให้เขารู้จักตัวเอง เข้าใจตัวเอง และมีเป้าหมายมากขึ้น ซึ่งตอนนั้นในประเทศไทยยังไม่มีใครทำแบบนั้นอย่างจริงจัง
  • เด็กหลายคนไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองเรียนมา เอาไปทำอะไรได้บ้าง ทำให้คุณพินจะรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้เห็นประกายอะไรบางอย่างจากเด็กที่แสดงให้เห็นว่าเขาเข้าใจในสิ่งที่เธอกำลังสื่อสารออกไป
     

 

คุณพินจบการศึกษาจากคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และได้เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ University of California, Berkeley - Walter A. Haas School of Business รวมทั้งมีโอกาสได้ฝึกงาน และเข้าร่วมกิจกรรมและโครงการต่างๆ มากมาย ด้วยดีกรีการศึกษาและความสามารถที่โดดเด่น ทำให้ คุณพินมีโอกาสที่จะได้ทำงานในบริษัทชั้นนำจำนวนมาก แต่เธอเลือกทิ้งโอกาสที่จะเติบโตในบริษัทใหญ่ๆ มาทำงานที่เป็นประโยชน์ และช่วยแก้ปัญหาให้กับเด็กๆ และสังคม ผ่านการลงมือทำด้วยตัวเธอเอง

 

 

จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้มาเป็นนักธุรกิจเพื่อสังคม

คุณพินมีโอกาสได้ทำงานในองค์กรชั้นนำมามากมาย โดยเริ่มต้นที่สายงานโฆษณา ในบริษัทเอเจนซี่ที่อยู่ในระดับท็อป 5 ของโลก แต่เมื่อเธอทำงานไปได้สักพัก เธอกลับรู้สึกว่าสิ่งที่เธอกำลังทำนั้น ขัดกับคุณค่าของตัวเธอเอง เธอจึงเปลี่ยนสายงานมาเป็นที่ปรึกษาธุรกิจ ในบริษัทที่เป็น 1 ใน 4 บริษัทด้านการตรวจสอบบัญชีและการให้บริการปรึกษาทางธุรกิจที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก สิ่งที่เธอทำคือการวางแผนกลยุทธ์ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ให้บริษัทที่มารับคำปรึกษา สามารถก้าวผ่านความเปลี่ยนแปลงต่างๆ และธุรกิจประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน

 

“พินทำสิ่งนี้เพราะรู้สึกว่าเราอยากเปลี่ยนธุรกิจ เราอยากทำให้ธุรกิจเข้าใจสังคม เข้าใจสิ่งแวดล้อม และเข้าใจตัวเองมากขึ้น แล้วถ้าเราแค่ไปพูดนำเสนอแล้วมันไม่เกิดผล จะทำไปทำไม ถ้าเราตั้งใจที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง แล้วเราต้องรอคนอีกสองพันคนในองค์กรเปลี่ยนแปลง นั่นคือสาเหตุที่มองหาไอเดียใหม่ ที่เราทำด้วยมือแล้วมันเกิดผลเลยได้ไหม”

 

ซึ่งในขณะนั้นเอง เป็นช่วงที่เธอพบว่าเพื่อนที่เคยเรียนด้วยกันสมัยมัธยมศึกษาและมหาวิทยาลัยหลายคนเปลี่ยนงานมาหลายงานแล้ว ทำให้เธอคิดว่า เพื่อนๆ เธอล้วนเป็นคนที่มีความสามารถ เป็นคนที่มีโอกาสที่จะได้รับการศึกษาที่ดีๆ แต่ยังขาดทักษะการรู้จักตนเอง ไม่รู้ว่าตัวเองอยากจะทำอะไรในชีวิต และไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นทำไปทำไม

 

สิ่งที่เธอได้สัมผัสตอนมีโอกาสไปศึกษาต่อต่างประเทศ ที่แตกต่างไปจากระบบการศึกษาของประเทศไทยก็คือ Career Center ที่ทำให้การศึกษามีความน่าสนใจ ให้คำปรึกษากับเด็กให้ทำความเข้าใจ รู้จักตัวเอง และไม่จำเป็นต้องเรียนรู้อยู่เพียงแค่ในห้องเรียนเท่านั้น ทำให้เด็กที่จบไปมีเป้าหมายมากขึ้น ซึ่งในประเทศไทยยังไม่มีใครทำแบบนี้อย่างจริงจัง เธอเลยคิดว่า ในเมื่อสิ่งที่ควรจะมีมันยังไม่มี เธอก็ต้องทำมัน และสร้างมันให้เกิดด้วยตัวเอง

 

“ก็เริ่มคุยกับเพื่อนที่เป็น Co-Founder ด้วยกัน ซึ่งก็คือพลอย ว่าในเมื่อพลอยมีความสามารถในด้าน HR Consulting พินมีความสนใจในการที่จะช่วยให้คนเข้าใจตัวเองมากขึ้น เรามาทำสิ่งนี้เพื่อช่วยให้เด็กหาตัวเองเจอกันไหม” หลังจากนั้นCareerVisa Thailand จึงได้เกิดขึ้น และไม่นาน เธอก็ออกมาทำธุรกิจเพื่อสังคมอย่างเต็มตัวแบบในทุกวันนี้

 

 

คำพูดที่เธอมักจะบอกกับตัวเองเสมอ           

“You miss 100 percent of the shots that you don't take.” คุณพินเปรียบการทำงานเหมือนกับการชู้ตบาสเก็ตบอล เธอมองว่าหากเราไม่กล้าที่จะทำ หรือลองเสี่ยงอะไรเลย เราก็จะไม่มีโอกาสที่จะพบกับความสำเร็จ แต่หากเรากล้าที่จะลองทำสิ่งต่างๆ ยิ่งทำมากเท่าไหร่ โอกาสที่จะสำเร็จ มันก็จะยิ่งมีมากขึ้น แม้จะต้องเจอกับปัญหา แต่อย่างน้อยก็จะได้ไม่ต้องมาเสียใจภายหลัง  

 

สิ่งที่ทำให้เธอมีความสุขและยังอยากที่จะทำงานนี้ต่อไป

การได้ทำ CareerVisa  ทำให้คุณพินพบว่าเด็กหลายคนไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองเรียนมานั้นเอาไปทำอะไรได้บ้าง และใบปริญญาที่ได้รับมานั้นมีคุณค่ากับตัวเองมากแค่ไหน ทำให้เธอรู้สึกดีทุกครั้งถ้าหากได้พูดคุยกับเด็กสักคนหนึ่ง แล้วได้เห็นประกายอะไรบางอย่างจากเด็กคนนั้น ที่แสดงออกว่าเขาเข้าใจในสิ่งที่เธอกำลังสื่อสารออกไป นอกจากนั้น เธอยังมีความสุขทุกครั้งที่ได้เล่าให้คนอื่นๆ ฟังถึงสิ่งเธอได้ทำ มันทำให้เธอได้กลับมาคิดว่า อะไรที่เธอเคยคิดว่ามันควรจะมี ในวันนี้มันมีแล้วด้วยการลงมือทำของเธอเอง

 

แรงบันดาลใจที่อยากส่งต่อ

“ถ้าเราตอบตัวเองได้ว่า Who you are? What you believe in? และ What you do? ถ้ารู้สามสิ่งนี้ก็จะทำให้ประสบความสำเร็จ และมีความสุขได้ในขณะเดียวกัน”

 

 

สามคำถามที่คุณพินฝากทิ้งท้ายเอาไว้ เป็นคำถามที่เธออยากให้ทุกคนได้ถามกับตัวเอง เธอมองว่าทุกวันนี้คนเราวิ่งตามสิ่งต่างๆ จนไม่มีเวลาที่จะกลับมาคิดว่าเราเป็นใคร และเชื่อในอะไร เธอคิดว่าคนสมัยนี้เรียนหนังสือกันเยอะมาก มีความรู้มากมาย แต่การรู้จักตัวเองกลับยังน้อยอยู่ และพอเราไม่รู้จักตัวเองก็จะทำให้เราเอาแต่ทำตามคนอื่นเท่านั้น

 

 

JobThai มี Line แล้วนะคะ

ติดตามสาระความรู้สำหรับคนทำงาน ที่ย่อยง่าย อ่านสนุก และพูดคุยทุกแง่มุมเกี่ยวกับการทำงานอย่างใกล้ชิดที่

เพิ่มเพื่อน

 

tags : inspiration, แรงบันดาลใจ, careervisa thailand, social enterprise, ธุรกิจเพื่อสังคม, นักศึกษาจบใหม่, freshgrad, การค้นหาตัวเอง, คนทำงาน, แนวคิดในการทำงาน



ติดตามข่าวสารและเรื่องราวดีๆ ทาง Email

ขอบคุณสำหรับการติดตาม