01/07/20 | 41.4k |

Put the right man on the right job. เพราะพนักงานต่าง Gen ก็มีความชอบต่างกัน เราจึงต้องมอบหมายงานที่เหมาะสมและท้าทายที่สุดให้พนักงาน
การ Reskill และ Upskill ให้พนักงานใน SCG คือการให้พนักงานทุกคนผันตัวจาก Production Oriented ให้เป็น Service Provider มากขึ้นเพื่อเพิ่มความเข้าใจต่อลูกค้า
สวัสดิการแบบ Flexible Benefits เป็นสวัสดิการที่ให้พนักงานเลือกได้เอง
คนที่มีความคิดว่า “Passion for Better” คือคนที่ SCG กำลังมองหา ไม่ใช่เพียงแค่ทำงาน แต่ต้องพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นด้วย

มีบริษัทและองค์กรต่าง ๆ เพิ่มขึ้นมากมายในหลายปีที่ผ่านมา แต่จะมีสักกี่องค์กรที่อยู่มาได้นานถึง 107 ปี อย่าง SCG 1 องค์กรใหญ่ 3 ธุรกิจหลัก กับพนักงานอีก 54,000 คน ที่ยังต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานให้สามารถผสมผสานกับความหลากหลายของเจเนอเรชัน และรูปแบบธุรกิจอยู่เสมอ

JobThai เลยอยากชวนทุกคนมาดูกันว่าการบริหารทรัพยากรบุคคลของ SCG เป็นแบบไหน ถึงยังครองใจคนทำงานมาตลอด

ภาพถ่ายก่อนวันที่ 24 มีนาคม 2563

“Put the right man on the right job” การมอบหมายงานให้พนักงานของ SCG

SCG ใช้ Core Values 4 ข้อเป็นหลักในการบริหารคน คือ ตั้งมั่นในความเป็นธรรม, มุ่งมั่นในความเป็นเลิศ, เชื่อมั่นในคุณค่าของคน และ ถือมั่นในความรับผิดชอบต่อสังคม แต่เนื่องจาก SCG เป็นบริษัทใหญ่ที่มีบริษัทในเครือฯ กว่า 300 บริษัท ทำให้วิธีการบริหารคนแต่ละธุรกิจไม่เหมือนกัน การดูแลพนักงานแต่ละธุรกิจจึงต้องมีการปรับเปลี่ยนกันไปตามธรรมชาติของธุรกิจนั้น ๆ

นอกจากนั้นการมอบหมายงานให้พนักงานแบบรายบุคคลของ SCG ก็ยึดเอาความชอบและความถนัดของพนักงานเป็นหลักสำคัญเหมือนกัน เรามักได้ยินประโยค “Put the right man on the right job” กันเสมอ SCG จึงพยายามหาสิ่งที่พนักงานชอบให้เจอ และมอบหมายงานที่เหมาะสมที่สุดเพื่อให้พนักงานทุกเจเนอเรชันสนุกกับการทำงาน และบางครั้งอาจจะทำให้เจอ Passion ที่พวกเขายังหาไม่เจออีกด้วย

ภาพถ่ายก่อนวันที่ 24 มีนาคม 2563

“ผู้ที่มาสมัครงานบางคน เขามีสิ่งที่อยากทำแต่เขาอาจจะยังหาตัวเองจริง ๆ ไม่เจอ เวลาจะเข้ามาที่ SCG เราจะสัมภาษณ์โดยคณะกรรมการหลายท่านช่วยกันดู จะได้ทำให้การคัดเลือกมีประสิทธิภาพและชัดเจนขึ้น”

คุณเฑวิณฑร์ สมงาม

ผู้อำนวยการสำนักงานการบุคคลกลาง

การ Reskill และ Upskill ในองค์กร

SCG พยายามผันตัวเองจาก Production Oriented เป็น Service Provider ให้มากขึ้น เพื่อทำความเข้าใจกับลูกค้ามากขึ้น ดังนั้นจากพนักงานที่เคยทำงานกับเครื่องจักรอย่างเดียวก็จะมีการให้ออกไปพบลูกค้าพร้อมกับเซลล์ เมื่อได้ออกไปเจอกับลูกค้า พนักงานที่เคยทำงานแต่กับเครื่องจักรก็จะได้รับคอมเมนต์ในฝั่งของลูกค้าโดยตรงเพื่อนำมาพัฒนา หากพนักงานพูดไม่เก่งก็จะมีเซลล์ที่คอยซัพพอร์ต ส่วนของเซลล์เองที่มีความชำนาญในการพูดคุยก็จะได้รู้ข้อมูลเบื้องลึกของโปรดักส์จากฝั่งพนักงานที่ทำงานกับเครื่องจักร และทั้ง 2 ส่วนนี้ก็จะเป็นพนักงานที่สามารถ Reskill, Upskill และช่วยเสริมทักษะของกันและกัน

ภาพถ่ายก่อนวันที่ 24 มีนาคม 2563

สวัสดิการอะไรของ SCG ที่ครองใจคนรุ่นใหม่

“Flexible Benefits สวัสดิการที่เลือกได้” เป็นสวัสดิการที่น่าสนใจของ SCG เลย เพราะพนักงานทุกคนสามารถแบ่งงบสวัสดิการของแต่ละส่วนได้ อย่างพนักงาน Gen Z ที่มี Passion ในการท่องเที่ยว Flexible Benefits ก็ทำให้เขาสามารถแบ่งเงินจากส่วนที่เกี่ยวกับสุขภาพไปทำอะไรที่เขาชอบแทนได้

อีกสวัสดิการที่น่าสนใจของ SCG คือ “Flexible Hiring” เพราะในปัจจุบันการทำงานที่เริ่ม 8:00 เลิกงาน 17:00 อาจไม่ได้ตอบโจทย์แล้ว อยากทำ 2 วันบ้าง 3 วันบ้าง หรือเป็น Freelance ซึ่งตรงนี้ SCG ก็จะปรับค่าจ้างตามสัดส่วน และทำให้การทำงานหลากหลายและมีตัวเลือกเพิ่มมากขึ้น

SCG กำลังมองหาคนแบบไหนเพื่อเข้ามาร่วมงาน

Eager to learn: ชอบการเรียนรู้ กล้าเปลี่ยนแปลง และ Challenge กับเรื่องใหม่ ๆ ตลอดเวลา
Data Driven: ทำงานโดยใช้ข้อมูลมาร่วมพัฒนาทั้งสินค้าและบริการอยู่เสมอ
Customer Centric: นึกถึงผู้บริโภคเป็นหลัก รู้ความต้องการของเขา และต้องหา Solution ให้เขาด้วย
Digital Skill: มีทักษะด้านดิจิทัล เพราะหากไม่มีทักษะนี้ อาจจะเหนื่อยมากกว่าคนอื่น
Collaboration: ทำงานเป็นทีมได้ แล้วก็ต้องทำงานแบบ “Agile” นั่นคือพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนการทำงานของตัวเองอยู่ตลอดเวลา