คนมีประสบการณ์ VS คนย้ายสายงาน แน่นอนว่าองค์กรไหน ๆ ก็มักจะมองหาพนักงานที่มีประสบการณ์ในตำแหน่งที่ตนต้องการกันทั้งนั้น เพราะไม่ต้องสอนงานมาก มีทักษะอยู่แล้ว และถึงแม้ว่าคนที่ย้ายสายงานมาจะประสบความสำเร็จในสายงานของเขามากเท่าไหร่ก็มีน้อยองค์กรที่จะกล้าเสี่ยงรับเข้าทำงาน

ซึ่งความจริงแล้วการรับคนย้ายสายงานก็อาจจะไม่ได้แย่เสมอไปเพราะความรู้ใหม่ ๆ และทักษะพื้นฐานในด้านอื่น ๆ ที่เขามีก็อาจเป็นประโยชน์ต่อการทำงานได้ทั้งนั้น และ JobThai ก็ได้รวม 3 ปัจจัยในการช่วยตัดสินใจรับคนย้ายสายงานมาฝาก

เราควร (เสี่ยง) จ้างคนเปลี่ยนสายงานมากแค่ไหน

แต่ละองค์กรต่างมีเงื่อนไขในการรับคนเข้าทำงานหลายแบบ ตั้งแต่มีทักษะเบื้องต้น มีประสบการณ์ตั้งแต่หนึ่งไปจนถึงหลายปี หรือประวัติการศึกษาที่เหมาะสม แต่หากว่าคุณเป็นองค์กรเล็ก ๆ การจะหาพนักงานแต่ละทีต้องแข่งกับองค์กรขนาดใหญ่ที่มีทั้งชื่อเสียงและสวัสดิการที่ดึงดูดคนได้มากกว่า ถ้าอย่างนั้นทำไมเราถึงไม่ลองให้โอกาสคนย้ายสายงานดูบ้างล่ะ

ซึ่งแม้มันอาจจะดูเสี่ยงไปซักหน่อยกับการจ้างคนเปลี่ยนสายงาน เพราะเขาไม่เคยทำงานในตำแหน่งนี้ หรือสายงานนี้มาก่อน แต่ในความเสี่ยงนั้นมันก็ยังมีข้อดีหลายอย่าง คนที่เปลี่ยนสายงานมักเป็นคนที่เปิดกว้างพร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ไม่กลัวการเปลี่ยนแปลง กระตือรือร้น มีพลังในการทำงาน และกล้าในการลองทำสิ่งต่าง ๆ นอกจากนั้นการที่เขาอยู่ในสายงานอื่นมาก่อน ก็อาจทำให้มีความคิดและมุมมองแปลกใหม่ที่แตกต่างออกไปอีกด้วย

มองหาคนย้ายสายงานที่มีสิ่งเหล่านี้

• มีทักษะที่เอามาใช้ได้กับทุกสายงาน
  ลิสต์ออกมาเป็นข้อ ๆ ดูว่าตำแหน่งที่เรากำลังหาต้องการคนแบบไหน แล้วหาคนที่มีคุณสมบัติใกล้เคียง หรือมีทักษะที่น่าจะเอามาปรับใช้กับตำแหน่งงานนั้นได้ เช่น คนที่เคยเป็นพนักงานบริการลูกค้ามา มีทักษะในการสื่อสาร การเจรจา หรือแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเก่ง ก็อาจจะเปลี่ยนมาเป็น Sales หรือ AE ได้เพราะเขามีความเข้าใจในตัวลูกค้ามาบ้างแล้ว

• มี Connection ที่ดี
  คนที่อยู่ในแวดวงเดียวกันก็มักจะเจอหน้าเดิม ๆ วนกันไปเรื่อย แต่คนที่เปลี่ยนสายงาน หรือมาจากธุรกิจที่แตกต่างจากของเรา เขาก็จะมี Connection ที่ต่างจากเรา ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในการทำงานถ้าเรามี Connection ที่หลากหลายจะยิ่งเพิ่มโอกาสให้กับบริษัทได้มากขึ้น

• มีความสำเร็จที่ชัดเจน
  เลือกคนที่มีผลงานที่เห็นชัดเจน เพราะถึงเขาจะไม่เคยทำงานสายนี้มาก่อน แต่ผลงานของเขาจะทำให้เราเห็นว่าเขาประสบความสำเร็จในแง่ไหนบ้าง และจะมีประโยชน์ยังไงกับการทำงานตำแหน่งนี้ นอกจากนั้นคนที่หมั่นบันทึกความสำเร็จของตัวเองเป็นประจำ มีแนวโน้มที่จะพัฒนาตัวเองให้มีมาตรฐานสูงขึ้นเรื่อย ๆ เพราะจะพยายามเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ตลอดเวลา และกระตือรือร้นที่จะทำมันให้สำเร็จอยู่เสมอ ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งหรือองค์กรไหนก็ตาม

• มีนิสัยที่ไปกับองค์กรได้
  ถ้าเราตัดสินใจแล้วว่าจะจ้างคนที่เปลี่ยนสายงาน นอกจาก Soft Skills ที่เอามาปรับใช้ได้แล้ว ทัศนคติ บุคลิก ลักษณะนิสัยที่เข้ากับวัฒนธรรมองค์กรได้ ก็คือสิ่งสำคัญที่ควรหยิบมาใช้พิจารณาด้วย

เปิดใจตอนสัมภาษณ์และมองหาศักยภาพของแคนดิเดตให้เจอ

การที่ผู้สมัครที่ไม่มีประสบการณ์ได้ผ่านการคัดเรซูเม่จนเข้ามาถึงรอบสัมภาษณ์งานได้ แสดงว่าต้องมีอะไรบางอย่างที่เรามองเห็นในตัวเขาประมาณหนึ่งแล้ว ซึ่งขั้นตอนต่อมาคือลิสต์คำถามที่จะทำให้เราดึงศักยภาพของเขาออกมาได้ง่ายขึ้น เพื่อเอามาประกอบการตัดสินใจ และขณะสัมภาษณ์เราจะต้องพยายามเฟ้นหาศักยภาพของเขาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อดูว่าเขาจะสามารถปรับตัว หรือเอาความรู้ความสามารถที่เขามีมาใช้กับงานนี้ได้มากน้อยแค่ไหนและใช้ยังไง

ซึ่งแน่นอนว่าคงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะรู้ทุกอย่าง หรือตอบคำถามเชิงลึกเกี่ยวกับตำแหน่งงานนี้ได้ทันที เพราะการย้ายสายงานก็เหมือนกับการมาเริ่มต้นเรียนรู้อะไรใหม่เกือบทั้งหมด แต่อย่างน้อยหากเขาแสดงถึงความพยายามว่าเขาได้ศึกษาและหาข้อมูลเกี่ยวกับงานที่สมัครมาบ้าง ตรงนี้เองก็จะทำให้เราเห็นว่าแคนดิเดตมีความตั้งใจและต้องการที่จะเปลี่ยนสายงานมาทางนี้จริง ๆ และเราก็ควรจะพิจารณาและตั้งคำถามให้รอบคอบด้วยว่าเขาต้องการอะไรจากการเปลี่ยนสายงานครั้งนี้

แต่ถึงจะบอกว่าการรับคนเปลี่ยนสายงานไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดก็ไม่ได้หมายความว่าทางเลือกนี้จะเป็นทางเลือกที่ใช้ได้เสมอไป เพราะต้องยอมรับว่าบางตำแหน่งก็ต้องการคนที่มีทักษะหรือประสบการณ์ที่เฉพาะทางจริง ๆ เราจึงต้องคิดให้รอบคอบที่สุดก่อนที่จะตัดสินใจอะไร เพราะการตัดสินใจของเราจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งกับคนที่เรารับเข้าทำงาน และบริษัทของเรา