- องค์กรใหญ่จะมีหน้าที่รับผิดชอบที่ชัดเจนกว่าองค์กรเล็กที่อาจต้องไปช่วยงานอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรง แต่ก็จะทำให้ได้เรียนรู้ทักษะอื่น ๆ ตามมา
- องค์กรใหญ่อาจมีสวัสดิการให้พนักงานมากกว่าองค์กรเล็กเนื่องจากโครงสร้างบริษัทที่ไม่เท่ากัน
- องค์กรขนาดเล็กจะมีโอกาสได้พูดคุยกับผู้บริหารง่ายกว่า และขั้นตอนต่าง ๆ ก็น้อยกว่า ทำให้การทำงานหรือการอนุมัติงานเร็วกว่า
- องค์กรขนาดเล็ก พนักงานมักจะรู้จักกันทุกคน ทำให้สามารถปรึกษากันได้ง่ายในเวลาทำงาน หากมีปัญหาก็จะสามารถแก้ปัญหาได้เร็วกว่า
- องค์กรขนาดเล็ก คนในองค์กรตั้งแต่เพื่อนร่วมงานจนถึงผู้บริหารจะเห็นผลงานของคุณ แต่ถ้าคุณทำพลาดพวกเขาก็เห็นความผิดพลาดเช่นกัน
- องค์กรขนาดใหญ่ จะมีแผนกและพนักงานจำนวนมาก ทำให้คนที่คิดอยากจะเปลี่ยนสายงาน มีโอกาสที่จะเปลี่ยนงานโดยที่ไม่ต้องลาออกจากบริษัทเดิมหากมีความสามารถเพียงพอ
|
|
JobThai Mobile Application หางานง่าย สมัครงานง่าย ได้งานที่ใช่ โหลดเลย
|
|
องค์กรเล็กที่น่าร่วมงาน กับองค์กรใหญ่ที่มั่นคง หากต้องเลือก 2 อย่างนี้ก็คงไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่ายนัก แต่ถ้าเราตัดสินใจ และชั่งน้ำหนักของทั้ง 2 องค์กรอย่างดี อาจจะเจอส่วนผสมหรือข้อดีที่ทำให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ซึ่งนอกจากความมั่นคงที่ได้จากองค์กรใหญ่ หรือการทำงานในสภาพแวดล้อมที่เพื่อนร่วมงานทุกคนคุยกันได้แบบพี่น้องอย่างองค์กรเล็กแล้ว การทำงานในองค์กรสองแบบนี้ก็ยังมีข้อดีข้อเสียอะไรอีกหลาย ๆ อย่าง แต่จะมีอะไรบ้าง JobThai ได้รวบรวมไว้ให้แล้ว
ความชัดเจนของโครงสร้างองค์กร
องค์กรขนาดใหญ่: มีโครงสร้างองค์กรที่แน่นอน แต่ละตำแหน่งก็จะมีหน้าที่ความรับผิดชอบอย่างชัดเจน สำหรับคนที่ชอบความมั่นคงและต้องการที่จะวางแผนเส้นทางอาชีพที่เห็นได้ชัดองค์กรใหญ่ก็อาจจะตอบโจทย์มากกว่า
องค์กรขนาดเล็ก: มีจำนวนพนักงานที่น้อย และไม่มีโครงสร้างองค์กรที่ชัดเจน ในบางครั้งอาจต้องไปช่วยงานคนอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากงานที่มีอยู่ด้วยซ้ำ แต่การที่คุณได้ทำงานในหลาย ๆ ด้านก็จะช่วยให้คุณมีทักษะใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น และได้เรียนรู้ว่าคนที่ทำงานในแต่ละสายอาชีพ เขามีการทำงานกันอย่างไร
สวัสดิการของพนักงาน
องค์กรขนาดใหญ่: สวัสดิการต่าง ๆ ที่ให้กับพนักงานดีกว่าองค์กรขนาดเล็ก เช่น ประกันสุขภาพที่เพิ่มเติมจากประกันสังคม หรือเรื่องค่าตอบแทนพิเศษต่าง ๆ
องค์กรขนาดเล็ก: ความคล่องตัวทางด้านการเงินของบริษัทเล็ก ๆ หรือบริษัทที่เพิ่งเริ่มทำการอาจไม่ได้มีมากพอที่จะให้สวัสดิการอื่น ๆ นอกเหนือไปจากที่กฎหมายกำหนดได้ ทำให้สวัสดิการณ์น้อยตามโครงสร้างองค์กรไปด้วยเช่นกัน
ขั้นตอนและความรวดเร็วในการทำงาน
องค์กรขนาดใหญ่: อาจจะจะเปิดโอกาสและรับฟังไอเดียของคุณ แต่การที่จะสร้างผลงานใหญ่ ๆ หรือสร้างความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีให้กับบริษัท เป็นเรื่องที่ทำได้ยากและใช้เวลามาก เพราะการเป็นองค์กรขนาดใหญ่ ทำให้การที่จะทำโปรเจกต์สักหนึ่งชิ้นอาจต้องผ่านขั้นตอนต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก
องค์กรขนาดเล็ก: เปิดโอกาสให้คุณได้พูดคุยกับผู้บริหารมากกว่าคนที่ทำงานในองค์กรขนาดใหญ่ ซึ่งทำให้สามารถเสนอความคิดเห็นให้กับผู้บริหารได้โดยตรง และอาจได้รับคำตอบทันที โดยไม่ต้องรอให้ผ่านขั้นตอนต่าง ๆ เหมือนอย่างในองค์กรขนาดใหญ่
ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมงาน
องค์กรขนาดใหญ่: การมีพนักงานจำนวนหลายร้อยหลายพันคน จะทำให้เป็นไปไม่ได้เลยที่จะรู้จักหรือได้พูดคุยกับทุกคนในองค์กร ซึ่งอาจส่งผลเสียได้ในบางกรณี เช่น งานที่คุณทำมีปัญหาและส่งผลกระทบต่องานของคนอื่น ๆ ทำให้บางคนนำสิ่งเหล่านั้นมาตัดสินการทำงานของคุณ โดยที่คุณไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับพวกเขาโดยตรงเลย
องค์กรขนาดเล็ก: คุณจะรู้จักทุกคนในบริษัท หากมีปัญหาหรือความไม่เข้าใจเกิดขึ้นก็จะสามารถหาโอกาสพูดคุยและอธิบายได้ง่ายกว่า และแก้ปัญหาได้เร็วขึ้น ส่งผลให้บรรยากาศในการทำงานและประสิทธิภาพในการทำงานของคุณดีตามไปด้วย
ผลงาน
องค์กรขนาดใหญ่: ถ้าคุณเป็นแค่พนักงานระดับปฏิบัติการ ก็คงเป็นเรื่องยากที่คนอื่น ๆ ในบริษัทจะรับรู้ถึงความสามารถหรือผลงานที่คุณทำสำเร็จได้อย่างชัดเจน เพราะมีขั้นตอนและคนทำงานร่วมกันมากมายกว่าจะผ่านสักหนึ่งงาน แต่ข้อดีคือผลงานจะไม่มีข้อผิดพลาดหรือมีข้อผิดพลาดน้อยที่สุด
องค์กรขนาดเล็ก: ทุกคนในบริษัทจะรับรู้ถึงความสำเร็จของคุณ ไม่เฉพาะเพื่อนร่วมงาน แต่ยังรวมไปถึงผู้บริหารด้วย และยิ่งคุณเริ่มงานแรกในบริษัทขนาดเล็กก็ยิ่งมีโอกาสในการทำผลงาน เพื่อเก็บไว้เป็นตัวการันตีความสามารถของคุณอีกด้วย แต่ถ้าคุณทำงานผิดพลาดพวกเขาก็จะเห็นมันได้อย่างชัดเจนเช่นเดียวกัน
โอกาสในการเปลี่ยนย้ายงานภายในองค์กร
องค์กรขนาดใหญ่: อาจช่วยให้คุณสามารถเปลี่ยนงานโดยที่ไม่ต้องลาออกจากบริษัทเดิมได้ เพราะในองค์กรขนาดใหญ่ มักจะมีแผนกและพนักงานเป็นจำนวนมาก หากต้องการเปลี่ยนสายงานและมีความสามารถเพียงพอกับสายงานใหม่ที่อยากจะทำ การพูดคุยกับหัวหน้าเพื่อขอย้ายไปทำงานที่แผนกอื่น ๆ ก็อาจไม่ใช่เรื่องยากมากนัก
องค์กรขนาดเล็ก: หน้าที่ความรับผิดชอบของคุณอาจมีแค่คุณคนเดียวที่ทำได้ และตำแหน่งที่ต้องการย้ายไปก็มีคนทำอยู่แล้ว หรือโครงสร้างของบริษัทไม่มีตำแหน่งที่เราอยากทำ ก็จะทำให้การเปลี่ยนสายงานไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนในองค์กรขนาดใหญ่
จากที่เราเล่ามาทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นองค์กรขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ก็มีข้อดีข้อเสียด้วยกันทั้งนั้น ไม่สามารถบอกได้ชัดเจนว่าองค์กรแบบไหนดีกว่ากัน ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณเอง ว่าเป้าหมายที่วางไว้คืออะไร ทักษะความสามารถและวัฒนธรรมขององค์กรแบบไหนที่เหมาะสมมากที่สุด
|
|
JobThai Official Group |
Public group · 200,000 members |
|
|
|