หลายคนอาจเคยเห็นตำแหน่ง Management Trainee ในเว็บไซต์หางานหรือป้ายประกาศรับสมัครงาน แต่อาจจะยังไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าตำแหน่งนี้คืออะไร ทำหน้าที่อะไร และเหมาะกับใครบ้าง วันนี้ JobThai จะมาไขข้อสงสัยเรื่อง Management Trainee กัน เพื่อให้เด็กจบใหม่และคนที่กำลังมองหาโอกาสในการเติบโตในเส้นทางอาชีพได้เข้าใจมากขึ้น

Management Trainee คืออะไร

Management Trainee คือ โปรแกรมฝึกอบรมพิเศษที่องค์กรจัดขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับบุคลากรรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพ เพื่อพัฒนาให้เป็นผู้บริหารในอนาคต โปรแกรมนี้มักจะมีระยะเวลาการฝึกอบรมตั้งแต่ 1 - 3 ปี โดยผู้เข้าร่วมจะได้รับการหมุนเวียนไปทำงานในแผนกต่าง ๆ ภายในองค์กร เพื่อเรียนรู้การทำงานทุกด้าน ตั้งแต่ฝ่ายขาย การตลาด การเงิน ทรัพยากรบุคคล จนถึงการลงมือทำด้วยตนเอง พร้อมทั้งได้รับการฝึกอบรมทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติอย่างเข้มข้น เป้าหมายสุดท้าย คือให้ผู้เข้าร่วมโปรแกรมสามารถขึ้นไปดำรงตำแหน่งผู้บริหารได้ในอนาคตอันใกล้

Management Trainee เหมาะสำหรับใคร

โปรแกรม Management Trainee เหมาะสำหรับเด็กจบใหม่หรือคนที่เพิ่งเริ่มต้นในเส้นทางอาชีพ ที่มีความมุ่งมั่นในการเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างจริงจัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีความฝันอยากเป็นผู้นำและผู้บริหารในอนาคต

กลุ่มเป้าหมายหลักที่เหมาะสมสำหรับตำแหน่งนี้ ได้แก่ นักศึกษาจบใหม่จากมหาวิทยาลัยที่มี GPA ดี มีภาวะผู้นำ และมีทักษะการสื่อสารที่ดี คนที่ชอบความท้าทายและพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ รวมถึงผู้ที่มีประสบการณ์การทำงานน้อยแต่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเป็นผู้นำ นอกจากนี้ Management Trainee ยังเหมาะสำหรับคนที่มีความคิดเชิงกลยุทธ์ มองการณ์ไกลและมีความสนใจในการเข้าใจธุรกิจแบบองค์รวม ไม่ใช่แค่เฉพาะสาขาใดสาขาหนึ่งเท่านั้น

สำหรับใครที่กำลังเตรียมตัวสมัครงานในตำแหน่งนี้ อย่าลืมเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสัมภาษณ์ด้วย 7 สิ่งที่ผู้สมัครควรทำการบ้านก่อนไปสัมภาษณ์งาน เพื่อให้คุณตอบคำถามได้อย่างมั่นใจ และฝึกตอบ 9 คำถามสัมภาษณ์งานยอดฮิต ที่มักเจอในการสัมภาษณ์จริง เพื่อเตรียมพร้อมให้ดีที่สุดสำหรับการคว้าโอกาสนี้

ตำแหน่ง Management Trainee ต้องทำอะไรบ้าง

งานของ Management Trainee จะหลากหลายและแตกต่างกันไปในแต่ละช่วงของโปรแกรม เนื่องจากจะต้องหมุนเวียนไปทำงานในหลายแผนก ในช่วงแรก อาจจะเริ่มจากการเรียนรู้โครงสร้างองค์กร นโยบายและวัฒนธรรมการทำงาน

หน้าที่หลักของ Management Trainee จะรวมไปถึงการศึกษาข้อมูลธุรกิจและตลาด วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาแนวทางในการพัฒนาธุรกิจ เข้าร่วมโครงการต่าง ๆ ของบริษัท และได้รับมอบหมายงานที่มีความรับผิดชอบเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามระยะเวลาที่อยู่ในโปรแกรม

นอกจากนี้ ยังต้องเข้าร่วมการประชุมกับผู้บริหาร ทำรายงานและนำเสนอผลงาน พร้อมทั้งรับฟังคำแนะนำจาก Mentor ที่บริษัทจัดให้ ดังนั้น การทำงานของ Management Trainee จึงเป็นการผสมผสานระหว่างการเรียนรู้ การปฏิบัติงานจริงและการพัฒนาทักษะด้านต่าง ๆ ไปพร้อมกันนั่นเอง

ข้อดีของการเป็น Management Trainee

• ได้เรียนรู้ธุรกิจแบบองค์รวม สามารถเข้าใจการทำงานของทุกแผนกในองค์กร ทำให้มีมุมมองที่กว้างและสามารถตัดสินใจได้ดีขึ้นในอนาคต
• โอกาสเติบโตที่รวดเร็ว มีเส้นทางการเลื่อนตำแหน่งที่ชัดเจน และมักจะได้รับการพิจารณาเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้บริหารเร็วกว่าพนักงานทั่วไป
• ได้รับการพัฒนาทักษะอย่างมีประสิทธิภาพ มีการฝึกอบรมทั้งทักษะที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน (Hard Skills) และทักษะในการทำงานร่วมกับผู้อื่น (Soft Skills) รวมถึงได้รับคำแนะนำจากผู้บริหารระดับสูงโดยตรง
• เงินเดือนและสวัสดิการดี มักจะได้รับค่าตอบแทนที่สูงกว่าตำแหน่งงานทั่วไปสำหรับคนจบใหม่
• มีคอนเน็กชันที่แข็งแรง ได้สร้างความสัมพันธ์กับผู้บริหารและเพื่อนร่วมงานในระดับต่าง ๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานในอนาคต
   

ข้อเสียของการเป็น Management Trainee

• แรงกดดันสูง มีความคาดหวังจากองค์กรที่สูง ต้องแสดงผลงานและพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
• ชั่วโมงการทำงานที่ยาวนานกว่าปกติ อาจต้องทำงานเกินเวลาเพื่อเรียนรู้และปรับตัวกับงานในแผนกต่าง ๆ ที่ได้รับโอกาสให้ไปเวียนงาน
• การแข่งขันภายใน มักจะมีเพื่อนร่วมงานหลายคนที่เข้าโปรแกรมพร้อมกัน ทำให้เกิดการแข่งขันเพื่อตำแหน่งงานในอนาคต 
• ความไม่แน่นอนในระยะสั้น เนื่องจากรูปแบบการทำงานเป็นการหมุนเวียนงาน อาจทำให้รู้สึกไม่มั่นคงหรือไม่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
• มีภาระที่ต้องรับผิดชอบค่อนข้างเยอะ ต้องรับผิดชอบงานและผลลัพธ์ในระดับที่สูงกว่าพนักงานทั่วไป แม้จะยังอยู่ในช่วงเรียนรู้

ทักษะที่ Management Trainee ควรมีติดตัวไว้ มีอะไรบ้าง

การเป็น Management Trainee ที่ประสบความสำเร็จต้องอาศัยทักษะหลายด้านที่จะช่วยให้สามารถปรับตัวและเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว มาดูกันดีกว่าว่า มีทักษะไหนบ้างที่ควรจะมีติดตัวไว้บ้าง

ความสามารถในการเรียนรู้ (Learning Agility)

เริ่มต้นที่ทักษะแรก ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของตำแหน่ง Management Trainee เลยทีเดียว อย่างที่เกริ่นไปในตอนต้นว่า ตำแหน่งนี้จำเป็นต้องเรียนรู้เรื่องใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา ทั้งนี้ ความสามารถในการเรียนรู้ไม่ได้หมายถึงแค่การจำข้อมูล แต่รวมถึงการนำความรู้ที่ได้มาประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ การวิเคราะห์ข้อมูลและการปรับเปลี่ยนวิธีคิดเมื่อเจอกับข้อมูลใหม่ที่ขัดแย้งกับความเข้าใจเดิมอีกด้วย เพื่อให้สามารถเข้าใจและเรียนรู้งานได้อย่างรวดเร็ว

ทักษะการสื่อสาร (Communication Skills)  

Management Trainee คือตำแหน่งที่จำเป็นต้องสื่อสารกับผู้คนหลากหลายระดับ ตั้งแต่เพื่อนร่วมงาน ลูกค้า ไปจนถึงผู้บริหารระดับสูง ทักษะการสื่อสารที่ดีจึงครอบคลุมทั้งการพูด การเขียน การฟังและการนำเสนองาน นอกจากนี้ ยังรวมถึงไปการสื่อสารแบบไม่ใช้คำพูด เช่น ภาษากายและการแสดงออกทางสีหน้าด้วยเช่นกัน

ทักษะการแก้ปัญหา (Problem-Solving Skills) 

ในการทำงานจริง Management Trainee อาจจะเจอปัญหาและความท้าทายมากมาย ทักษะการแก้ไขปัญหาจึงเป็นสิ่งจำเป็น โดยทักษะนี้ต้องสามารถระบุปัญหาในการทำงานที่เกิดขึ้น วิเคราะห์สาเหตุ คิดหาทางเลือก ประเมินผลกระทบและตัดสินใจเลือกวิธีแก้ไขที่เหมาะสมที่สุด เพื่อไม่ให้กระทบกับงานของตนเอง หรือในกรณีที่ลูกค้ามีปัญหา ก็ต้องสามารถแก้ไขหน้างานได้อีกด้วย

ความยืดหยุ่นและการปรับตัว (Flexibility and Adaptability)

เนื่องจากเป็นตำแหน่งที่จะต้องหมุนเวียนไปทำงานในแผนกต่าง ๆ ดังนั้น ความยืดหยุ่นและการปรับตัวจึงเป็นทักษะที่สำคัญมาก Management Trainee จึงจำเป็นต้องเข้ากับสภาพแวดล้อมการทำงานใหม่ ๆ วัฒนธรรมของแต่ละแผนก และวิธีการทำงานที่แตกต่างกันได้อย่างรวดเร็ว และต้องเจอกับการปรับตัวใหม่แบบนี้ไปจนกว่าจะหมุนเวียนงานครบทุกแผนกที่ได้รับมอบหมาย

ความเข้าใจในธุรกิจ (Basic Business Understanding)

ถึงแม้ว่าจะเป็นโปรแกรมฝึกอบรม แต่ Management Trainee ควรมีความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับธุรกิจที่กำลังทำงานอยู่ โดยเฉพาะการเข้าใจตลาดและคู่แข่ง เพื่อนำไปวิเคราะห์ข้อมูลและแนวโน้มทางธุรกิจ ซึ่งการทำความเข้าใจข้อมูลทางธุรกิจเหล่านี้ จะช่วยให้คุณสามารถทำงานได้อย่างราบรื่น และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 

สรุป

ตำแหน่ง Management Trainee คือโอกาสทองสำหรับเด็กจบใหม่ที่มีศักยภาพและความมุ่งมั่นในการเติบโตไปเป็นผู้นำในองค์กร เพราะต้องผ่านโปรแกรมฝึกอบรมที่เข้มข้นและครอบคลุมทุกด้านของธุรกิจ ทั้งในแง่ทฤษฎีและปฏิบัติ โดยจะได้รับการหมุนเวียนงาน ฝึกทักษะและรับคำแนะนำจากผู้บริหารระดับสูงอย่างใกล้ชิด แม้จะมีข้อท้าทาย เช่น ความกดดันสูงและการแข่งขันภายใน แต่ก็แลกมากับโอกาสการเติบโตที่รวดเร็ว รายได้ดีและมีคอนเน็กชันที่แข็งแรง ทั้งนี้ หากคุณเป็นคนที่เรียนรู้ไว มีทักษะการสื่อสาร แก้ปัญหาและปรับตัวเก่ง ตำแหน่งนี้อาจเป็นก้าวสำคัญสู่ความสำเร็จในสายอาชีพของคุณได้

ที่มา:

careervisathailand.com 

brandbuffet.in.th