ทุกวันนี้คนเราใช้ชีวิตในโลกออนไลน์มากพอ ๆ กับการใช้ชีวิตในโลกจริง เรามักจะติดตามความเป็นไปของโลกและอัปเดตเรื่องราวต่าง ๆ ผ่านการรายงานข่าวจากแพลตฟอร์ม Social Media หรือ ใช้สื่อออนไลน์เพื่อความบันเทิง อย่างการดูหนัง ฟังเพลง หรือ เล่นเกม ในขณะเดียวกันเราก็สามารถทำงานได้จากที่บ้านโดยอาศัยอินเทอร์เน็ตและคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ผ่านมาที่ทำให้มนุษย์ต้องเว้นระยะห่างและพบปะกันน้อยลง แม้ตอนนี้สถานการณ์ทั่วโลกจะเริ่มคลี่คลายแล้วก็ตาม แต่วิถีของการท่องโลกออนไลน์ก็ทำให้พฤติกรรมของคนทั่วโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด      

แน่นอนว่ากิจกรรมบางอย่างที่ต้องปฏิสัมพันธ์แบบเจอหน้าค่าตากันและมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากอาจได้รับความนิยมลดน้อยลง เปลี่ยนแปลงรูปแบบไป หรือไม่สามารถจัดกิจกรรมนั้นได้ในช่วงที่โรคระบาดยังไม่สิ้นสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้าง Networking หรือการพบปะกันเพื่อสร้างเครือข่ายของคนที่สนใจในสิ่งเดียวกัน จากเดิมที่ต้องเจอกันตามงานประชุม หรือ สัมมนาต่าง ๆ ก็เปลี่ยนมาเป็นรูปแบบออนไลน์ได้เหมือนกัน สำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจว่าจะหา Networking ออนไลน์ได้อย่างไร วันนี้ JobThai มีเคล็ดลับง่าย ๆ ในการเริ่มต้นเข้าสังคมออนไลน์สำหรับคนทำงาน หรือ คนที่ต้องการแสวงหาโอกาสใหม่ ๆ ในชีวิต

Networking แบบออนไลน์แตกต่างจาก Networking แบบเดิมอย่างไร

ขั้นตอนของการสร้าง Networking แบบออนไลน์ แท้จริงแล้วก็ไม่ต่างจากการทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ ๆ แบบตัวต่อตัวเสียทีเดียว สิ่งที่ต้องทำนั่นก็คือการแนะนำตัวเอง การทำความรู้จักกับตัวตนของผู้อื่น การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นประสบการณ์ซึ่งกันและกัน และการรักษาความสัมพันธ์กับคนที่เราเป็นเครือข่ายด้วย ซึ่งถ้าเราเลือกวิธีการพูดคุยผ่านวิดีโอคอลหรือการประชุมเสียงออนไลน์ การใช้ทักษะการฟังและการพูดก็จะเหมือนกับการ Networking แบบปกติ แต่ถ้าเราเปลี่ยนจากการพูดคุยแบบเจอหน้ามาเป็นการสื่อสารบนแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Social Media เราก็จะต้องใช้การสื่อสารผ่านการเขียนมากขึ้นนั่นเอง

สำหรับคนที่กังวลว่าตัวเองเป็นคนเข้าสังคมไม่เก่ง หรือไม่กล้าเริ่มบทสนทนา ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป เพราะการ Networking แบบออนไลน์มีทางเลือกให้เราสื่อสารได้มากกมายตามความถนัด เราแค่ต้องโฟกัสที่การบอกเล่าตัวตน หรือ เรื่องราวที่น่าสนใจจากความชอบ ความถนัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งประสบการณ์ตรงที่เราเคยทำมา ที่อาจทำให้คนอื่น ๆ ในแพลตฟอร์มอยากแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเรา และอยากทำความรู้จักเรามากขึ้น

ตอบตัวเองให้ได้ว่าต้องการสร้าง Networking เพื่ออะไร

จุดมุ่งหมายในการสร้างเครือข่ายนั้นมีหลากหลาย บางคนอาจต้องการแค่เข้าสังคม บางคนอยากได้ที่ปรึกษา หรือบางคนอยากหาเพื่อนร่วมทางในกิจกรรมหรือสังคมที่ตัวเองทำอยู่ รวมไปถึงการแสวงหาโอกาสใหม่ให้กับการทำงานหรือชีวิต นอกจากนี้คนทำงานส่วนใหญ่เพิ่งจะมาคิดถึงเรื่อง Networking ตอนที่ต้องการความช่วยเหลือในเรื่องที่ตัวเองกำลังประสบปัญหาอยู่ซึ่งอาจจะสายเกินไป เราจึงต้องประเมินตัวเองในขั้นต้นก่อนว่าอยากมีเครือข่ายไปเพื่ออะไร เช่น เรากำลังเริ่มต้นชีวิตการทำงานและอยากเข้าสังคมออนไลน์เพื่อหาคนช่วยเวลาเจอปัญหา หรือ เราเป็นคนที่กำลังคิดจะทำธุรกิจเป็นเจ้าของกิจการเอง เราก็ต้องการคนแนะนำในเรื่องที่เรายังขาดความเชี่ยวชาญหรือมองหาการขยายโอกาสทางธุรกิจ

การสร้าง Networking จึงเป็นเหมือนการสร้างกลุ่มพันธมิตรที่จะเป็นที่ปรึกษา เป็นผู้ช่วยเหลือให้เราไปได้ไกลขึ้นกว่าการทำอะไรด้วยตัวคนเดียว เมื่อเราแน่ใจในเป้าหมายของตัวเองแล้ว ขั้นต่อไปก็คือการสำรวจดูว่าคนที่น่าจะมีความสนใจแบบเดียวกับเราเขาอยู่ที่ไหน มีสังคมออนไลน์อยู่ในแพลตฟอร์มไหนบ้าง และลงมือสมัครเข้ากลุ่มนั้น ๆ เพื่อลองทำความคุ้นเคยกับกลุ่มคนที่เราตามหา และเริ่มต้นพัฒนาความสัมพันธ์ต่อไป 

ใช้ประโยชน์จากเอกลักษณ์ของ Social Media แต่ละแพลตฟอร์ม

สื่อสังคมออนไลน์แต่ละแพลตฟอร์มมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างกันไป ไปดูกันว่าแพลตฟอร์มไหนเหมาะสำหรับกลุ่มคนประเภทไหนกันบ้าง

• LinkedIn ขึ้นชื่อว่าเป็นแพลตฟอร์มสำหรับมืออาชีพในการทำงานและค่อนข้างมีความเป็นทางการสูง จึงเหมาะสำหรับการโพสต์เรื่องราวที่เป็นเรื่องการทำงาน เรื่องวิชาการ และธุรกิจมากกว่าเรื่องส่วนตัวทั่วไป
   
• Facebook เต็มไปด้วยกลุ่มต่าง ๆ ที่หลากหลาย ทั้งเรื่องงาน เรื่องงานอดิเรก กลุ่มแชร์ประสบการณ์ และมีฟีเจอร์ในการเข้าร่วมบทสนทนาในกลุ่มทั้งสาธารณะและกลุ่มปิด ที่เอื้อให้เกิดสังคมออนไลน์ที่พึ่งพาอาศัยกันในการเป็นที่ปรึกษาในทุกเรื่องได้เป็นอย่างดี
   
• Instagram เน้นไปที่การถ่ายภาพกิจกรรมโดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับการใช้ชีวิตในทุกรูปแบบ ยิ่งปัจจุบันมีการอัปเดตฟีเจอร์วิดีโอสั้นให้ได้โชว์ไลฟ์สไตล์ จึงเป็นแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์ของคนที่ชอบทำกิจกรรมสร้างสรรค์ในเวลาว่าง
   
• Twitter แพลตฟอร์มนี้เหมาะกับคนที่ชอบแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แสดงทัศนคติ ต่อเรื่องต่าง ๆ ที่เป็นประเด็นในสังคม โดยเน้นการเขียนข้อความสั้น ๆ เพื่อแสดงออกถึงจุดยืน หรือตัวตันของผู้ใช้แพลตฟอร์ม ตลอดจนการเคลื่อนไหวเพื่อขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่างด้วยการใช้ระบบแฮชแท็ก (Hashtag)

นอกเหนือไปจากแพลตฟอร์มข้างต้นแล้ว เรายังสามารถเอาหลักการเดียวกันนี้ไปใช้ได้กับ Social Media เจ้าอื่น ๆ อย่าง TikTok ที่เน้นการเล่าเรื่องด้วยคลิปวิดีโอและ Discord ที่เน้นการสื่อสารผ่านห้องแชทด้วยเสียง ได้เช่นเดียวกัน เพียงแค่เราต้องศึกษาให้ดีว่าอยากได้กลุ่มเป้าหมายแบบไหน และคนที่น่าจะชอบอะไรแบบเราเขาใช้งานแพลตฟอร์มอะไรกันอยู่บ้าง ไม่ต้องกลัวว่าเราจะหาชุมชนออนไลน์เหล่านั้นไม่เจอ เพราะทุกวันนี้ทุกแพลตฟอร์มต่างก็แข่งขันในการแนะนำกลุ่มต่าง ๆ ตามความสนใจ โดยประมวลผลจากข้อมูลที่เราให้ไว้ เพื่อให้ตรงกับความต้องการของเรามากที่สุด

อัปเดตโปรไฟล์ของเราด้วยข้อมูลที่ครบถ้วนเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และอธิบายตัวเองสั้น ๆ ให้น่าสนใจ

หัวใจสำคัญของการสร้าง Networking แบบออนไลน์คือการสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ (Online Presence) ให้มีความน่าสนใจในแบบของตัวเราเอง ไม่ว่าเราจะใช้แพลตฟอร์มไหนในการ Networking สิ่งแรกที่เราจะลืมไม่ได้ ก็คือการเขียนอธิบายตัวเองในหน้าโปรไฟล์ให้น่าสนใจ กระชับ และถูกต้องครบถ้วน เพราะหน้าโปร์ไฟล์ของเราเป็นพื้นที่สำคัญที่ใครก็ตามที่สนใจเราจะกดเข้ามาดูเป็นอันดับแรก เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับตัวตนของเราได้ดีที่สุด หากแพลตฟอร์มให้คุณอัปโหลดภาพโปรไฟล์ก็อย่าลืมเลือกภาพที่เหมาะสมและเป็นตัวของเรามากที่สุด รวมถึงการกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน เช็กคำผิดให้เรียบร้อยก็เป็นการแสดงถึงความใส่ใจในตัวตนของเรา และทำให้โปรไฟล์ของเรามีความน่าเชื่อถือมากขึ้นด้วย

อีกประเด็นสำคัญคือการแสดงให้คนอื่นเห็นว่าเราเป็นคนน่าสนใจผ่านประวัติย่อ ๆ ในส่วนต่าง ๆ ของโปรไฟล์ ซึ่งในบางครั้งไม่จำเป็นต้องเป็นทางการมากขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์ม เช่น การเขียนพาดหัวที่บ่งบอกนิสัยเฉพาะตัว หัวข้อเรื่องที่ชอบสนทนาที่เป็นเทรนด์ใหม่ของสังคม ตลอดจนประสบการณ์หรือการร่วมกิจกรรมที่ไม่ซ้ำกับคนอื่น การใส่ไอเดียสร้างสรรค์ในการอธิบายตัวตนของเราสั้น ๆ แต่น่าสนใจ อาจทำให้คนที่เห็นอยากเป็นเพื่อนกับเรามากขึ้นกว่าการอ่านประวัติการทำงานและรางวัลที่เคยได้รับที่ยาวเหยียดก็เป็นได้    

รู้จักแบ่งปันเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ในแพลตฟอร์มที่ต้องการสร้าง Networking

ตระหนักไว้เสมอว่าการ Networking แม้จะเป็นเรื่องของการช่วยเหลือกัน แต่ก่อนที่เราจะเรียกร้องหรือขอความช่วยเหลือจากคนอื่น เราต้องทำตัวเองให้น่าสนใจและเป็นประโยชน์กับผู้อื่นก่อน เรียกว่าต้องรู้จักเป็นผู้ให้ก่อนที่จะเป็นผู้รับนั่นเอง ไม่จำเป็นว่าเราจะต้องเป็นคนชอบเข้าสังคม พูดคุยเก่ง ถึงจะสร้าง Networking ได้ดี จริงอยู่ที่ในชีวิตจริงคนที่ชอบการพบปะสังสรรค์ เข้าหาคนเก่งอาจจะได้เปรียบในการทำความรู้จักและหาเพื่อนใหม่ได้มากกว่าคนพูดน้อย แต่สำหรับการ Networking แบบออนไลน์แล้ว ทักษะการเขียนและการพูดต่างก็มีความสำคัญและมีเอกลักษณที่แตกต่างกัน ถ้าใครที่ชื่นชอบการเขียน บอกเล่าเรื่องราวที่เป็นประโยชน์อยู่แล้ว เราสามารถใช้จุดนี้เป็นจุดเด่นในการแบ่งปันสาระดี ๆ ให้คนอื่นในสังคมออนไลน์ได้รับรู้ได้ เช่น บางคนอาจชอบเขียนบล็อกบอกเล่าข่าวสารจากทั่วโลก บางคนอาจถนัดเล่าเรื่องหรือแนะนำเทคนิคต่าง ๆ ผ่านคลิปวิดีโอสั้น  เมื่อคนอื่นรู้สึกประทับใจในการสร้างเนื้อหาของเราบนแพลตฟอร์ม อาจะทำให้เกิดการตอบคอมเมนต์ การชวนพูดคุย หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และกลายมาเป็นคนรู้จักที่พูดคุยกันถูกคอในระยะยาวได้

สมัครอบรมออนไลน์ในรูปแบบ Workshop 

สุดท้าย ถ้าเรายังคุ้นชินกับการติดต่อกันด้วยการพูดคุยโต้ตอบกัน และอยากเห็นหน้าค่าตากัน อาจเลือกการอบรมหรือสัมมนาออนไลน์ ที่จำเป็นต้องมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้สอนและผู้เรียน รวมไปถึงการทำงานร่วมกันเป็นทีมของผู้เรียนด้วยกันเอง ซึ่งการเข้าร่วมกิจกรรมรูปแบบนี้มักเป็นประเด็นที่เกี่ยวกับความรู้และทักษะที่เราอยากพัฒนาจริง ๆ และผลพลอยได้ที่ตามมาก็คือ การได้รู้จักเพื่อนใหม่ ๆ รูปแบบการ Networking แบบนี้จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่พลังงานเหลือเฟือ และอย่างทำกิจกรรมในลักษณะที่คล้ายกับการ Networking แบบปกติ คราวนี้ก็อยู่ที่ตัวเราแล้วว่าจะเจอคนที่คุยกันถูกคอ และกลายเป็น Network ของเราในอนาคตได้หรือไม่

JobThai หวังว่าเทคนิคที่เราได้นำมาแบ่งปันนี้จะทำให้คนทำงานกล้าที่จะลอง Networking แบบออนไลน์ ได้พบปะกับเครือข่ายของคนที่ใจตรงกัน เป็นความสัมพันธ์แบบถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน นำไปสู่มิตรภาพที่ยั่งยืน เปิดโลกทัศน์ทั้งเรื่องอาชีพและชีวิตส่วนตัว รวมถึงขยายโอกาสในการประสบความสำเร็จในอนาคต

ที่มา:

acendbusinessgrowth.com, ec.europa.eu, greatbusinessschools.org, jotform.com, scienceofpeople.com, umassglobal.edu, visualcv.com