ยูเรก้า ยูเรก้า คือคำร้องตะโกนที่มาจากปากอาร์คิมิดีส ในระหว่างที่ช่วยคิดหาคำตอบเรื่องปริมาตรวัตถุให้กับพระเจ้าเฮียโรที่ 2 แห่งเกาะซิซิลี หรือที่ใครหลายคนน่าจะเคยได้เรียนในวิชาวิทยาศาสตร์ เกี่ยวกับเรื่องเล่าของอาร์คิมิดีสกับมงกุฎทองคำนั่นเอง แล้วทำไมเรื่องนี้ถึงน่าสนใจขึ้นมาล่ะ นั่นก็เป็นเพราะว่าในช่วงที่อาร์คิมิดีสกำลังพยายามหาคำตอบเป็นเวลาอยู่หลายวันนั้น คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกสักที แต่พอได้ลงไปแช่ในอ่างน้ำร้อนเพื่อคลายเครียดจากการครุ่นคิด ก็กลับเจอคำตอบในทันที นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เหตุการณ์นี้ถูกหยิบยกมาตั้งข้อสงสัย ว่าทำไมการลงแช่ในอ่างน้ำร้อนถึงช่วยให้คิดแก้ไขปัญหาได้ง่ายมากขึ้น เราจะพาไปหาคำตอบกัน
Eureka Moment คือช่วงเวลาที่เราคิดไอเดียในการแก้ไขปัญหาออกมา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาในเชิงตรรกะ หรือปัญหาที่ต้องใช้ความคิดนอกกรอบในการแก้ไขก็ตาม หรือพูดให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คืออาการคิดออกแล้วนั่นเอง ช่วงเวลาสำคัญนี้อาจจะเป็นเพียงช่วงเสี้ยววินาทีสั้น ๆ ซึ่งเกิดขึ้นได้จากหลายเหตุปัจจัย ทั้งการเปลี่ยนวิธีคิดจากแบบเดิมให้เป็นการคิดแบบนอกกรอบแทน หรือเปลี่ยนสถานที่ในการคิดเพื่อสร้างบรรยากาศอันผ่อนคลายให้สมองทำงานได้ดีขึ้น ซึ่งช่วงเวลาที่กล่าวมานี้จะเรียกว่าระยะบ่มเพาะ (Incubation Period) ที่มักจะเกิดในตอนที่เราไม่คาดคิดมากที่สุด หรือไม่ได้นึกถึงการแก้ไขปัญหานั้น ๆ เลยด้วยซ้ำ
หลายคนน่าจะเคยเจอปัญหาคิดงานไม่ออก ยิ่งพยายามกดดันตัวเองให้คิดเท่าไหร่ ก็มีแต่จะสมองตีบตันมากขึ้นเท่านั้น แต่พอเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นแทน อยู่ดี ๆ ไอเดียในการแก้ปัญหาก็แว่บขึ้นมาในหัวแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ถ้าจะถามถึงสาเหตุที่ว่ามันเกิดขึ้นจากอะไร ก็ต้องตอบว่าเกิดจากการที่สมองทั้งสองซีกทำงานประสานกันได้เต็มประสิทธิภาพ จึงทำให้ความคิดทางด้านตรรกะ และความคิดในเชิงสร้างสรรค์กลั่นกรองออกมาเป็นไอเดียที่ใช้งานได้จริง
โดยเป็นไปได้ทั้งงานที่ต้องแก้ไขปัญหาด้วยการวางแผน และงานที่ต้องใช้งานความคิดนอกกรอบอย่างครีเอทีฟที่ต้องการอะไรแปลกใหม่ แต่สิ่งนี้จะเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เพียงเท่านั้น ส่วนใครที่กำลังสงสัยว่าสมองทั้งสองซีกนั้นทำงานอย่างไรบ้าง เรามาทำความเข้าใจกันให้มากขึ้นดีกว่า
การทำงานของสมองซีกซ้าย จะเป็นในเรื่องของการใช้ภาษา พูด อ่าน เขียน ทักษะด้านตัวเลข รวมไปถึงการคิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุมีผล และการจัดลำดับความสำคัญต่าง ๆ ซึ่งจะมีส่วนสำคัญอย่างมากในการทำงานร่วมกับสมองซีกขวาเพื่อให้ไอเดียที่ฟุ้ง ๆ นั้นออกมาเป็นรูปธรรม
การทำงานของสมองซีกขวา จะเป็นในเรื่องของการใช้จินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ ทักษะด้านศิลปะ และทักษะทางดนตรี รวมไปถึงสัญชาตญาณ และการรับรู้ความรู้สึก ซึ่งจะเป็นในด้านที่หนักในเรื่องของอารมณ์มากกว่า เลยมีความสำคัญในการคิดไอเดียนอกกรอบออกมาได้หลายแบบ
ทำไมห้องน้ำถึงเป็นสถานที่ในการก่อเกิดไอเดียที่ดีล่ะ นอกจากเรื่องการทำงานของสมองทั้งสองซีกแล้ว โดปามีน หรือฮอร์โมนความสุขก็เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยในเรื่องความคิดเช่นกัน โดยจะมีความเกี่ยวข้องในเรื่องของความพึงพอใจ ความรัก ความปรารถนา แรงบันดาลใจ และการจดจ่อ ซึ่งจะหลั่งออกมาในช่วงเวลาที่เรารู้สึกผ่อนคลายโดยไม่รู้ตัว และห้องน้ำก็เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ทำให้คนเรามีความรู้สึกนั้น โดยสามารถอธิบายได้ตามเหตุผลด้านล่างนี้
ความเป็นส่วนตัว หรือพื้นที่ส่วนตัว คือสิ่งที่เราทุกคนต้องการ ไม่ว่าบุคคลนั้นจะเป็นคนที่มีบุคลิกภาพแบบ Extrovert หรือบุคลิกภาพแบบ Introvert ก็ตามที เราทุกคนล้วนต้องการเวลาในการคิดทบทวนสิ่งต่าง ๆ ในแต่ละวันแบบเป็นส่วนตัว ไม่เว้นแม้แต่ในเรื่องของการทำงาน การที่ต้องนั่งอยู่ท่ามกลางออฟฟิศที่มีคนจำนวนมาก และเต็มไปด้วยความกดดัน อาจจะทำให้เรารู้สึกโดนกดทับจนไม่สามารถคิดไอเดียดี ๆ หรือเกิด Eureka Moment ขึ้นมาได้ ต่างจากการได้มีเวลาส่วนตัวอยู่ในห้องน้ำ ได้เปิดเพลงที่ชอบฟังคลอไปกับการทำกิจวัตรส่วนตัว ย่อมทำให้เรารู้สีกผ่อนคลาย และเกิดไอเดียทางความคิดได้ดีกว่า
การอาบน้ำอุ่น มีส่วนช่วยอย่างมากในเรื่องการหลั่งโดปามีน เพราะอุณหภูมิน้ำที่ร้อนจะช่วยให้กล้ามเนื้อเกิดการผ่อนคลาย และยังช่วยในการไหลเวียนของโลหิตให้ดีขึ้นด้วย จึงมีส่วนสำคัญในการช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบความคิด ที่ทำให้ไอเดียในการคิดงานเกิดขึ้นแบบไม่รู้ตัว
เสียงของสายน้ำที่ไหลจากฝักบัวลงกระทบสู่พื้น เป็นหนึ่งในเสียงสีขาว (White Noise) ที่มีความถี่สม่ำเสมอ จึงช่วยให้คนที่ได้ยินรู้สึกผ่อนคลาย ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีที่หลายคนมักใช้ในการกล่อมเด็กให้นอน หรือใช้ในผู้ที่มีปัญหาหลับยาก และแน่นอนว่ามีส่วนสำคัญอย่างมากที่ช่วยให้สมองผ่อนคลาย และเกิดไอเดียขึ้นมาได้
อีกหนึ่งคำถามที่น่าจะคาใจใครหลายคนคือ จำเป็นไหมที่ Eureka Moment จะเกิดขึ้นได้แค่ในห้องน้ำเท่านั้น คำตอบก็คือ ไม่จำเป็นเสมอไป Eureka Moment สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายอย่างการวิ่ง ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ หรือแม้แต่กิจกรรมที่ชื่นชอบของแต่ละบุคคล อย่างการร้องเพลง เล่นดนตรี ปีนเขา หรือเดินป่า อะไรก็ตามที่ทำแล้วมีความสุข เกิดความสงบ ล้วนเป็นสิ่งที่สามารถกระตุ้นให้เกิดไอเดียทางความคิดได้ทั้งหมด
ไอเดียทางความคิด เป็นหนึ่งในสกิลติดตัวที่คนทำงานทุกคนต้องมี ไม่ว่าจะทำงานในอุตสาหกรรมอะไร หรือตำแหน่งไหนก็ตาม เพราะทุกตำแหน่งงานล้วนต้องเจอปัญหาที่ต้องแก้ไขในทุกวันเป็นปกติอยู่แล้ว โดยเฉพาะในคนทำงานที่ใช้ไอเดียเยอะอย่างเช่นสายครีเอทีฟ กราฟิก หรือนักเขียน การเลือกทำงานในองค์กรที่ให้ความสำคัญในเรื่องของสภาพแวดล้อม จึงมีส่วนสำคัญอย่างมากที่ช่วยเอื้อในการคิดงาน ส่วนใครที่กำลังมองหางานที่สนใจอยู่ในช่วงนี้ ให้ JobThai เป็นผู้ช่วยคุณในการหางานดีกว่า
JobThai Official Group เพื่อการหางาน หาคน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำงาน