ในแต่ละวันของการทำงาน ล้วนมีงานต่าง ๆ ให้เรารับผิดชอบมากมาย ไม่ว่าจะเป็นงานเล็ก ๆ ที่ทำไม่กี่นาทีก็เสร็จ หรือโปรเจกต์ใหญ่ที่ต้องใช้เวลาทำทั้งสัปดาห์หรือเป็นเดือน ซึ่งในฐานะหัวหน้างานมือใหม่ การที่จะถามทีมทุกวันว่างานถึงไหนบ้างแล้ว ก็คงเป็นการกระทำที่ดูกดดันลูกทีมเกินไป ซึ่งในปัจจุบันก็มีเครื่องมือที่จะมาช่วยเราในเรื่องการจัดการงานหรือ Project Management Tools อยู่ หากองค์กรหรือหัวหน้าคนไหนกำลังมองหาเครื่องมือที่จะมาช่วยจัดการงานที่มากมาย JobThai ก็รวบรวม Tools ที่น่าสนใจมาไว้ในบทความนี้แล้ว
Todoist ซอฟต์แวร์ที่จะมาช่วยจัดระเบียบและจดบันทึกงานที่มากมายในแต่ละวันของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจุดเด่นของ Todoist คือระบบการวัดผลที่เรียกว่า “Karma” ที่จะทำให้เจ้าของโปรเจกต์หรือผู้รับผิดชอบ Task ได้รับคะแนนเมื่อทำงานสำเร็จลุล่วง ถือเป็นอีกหนึ่งระบบที่ทำให้หัวหน้าอย่างเราสามารถวัดผลลูกทีมได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ Todoist ยังสามารถบันทึก Offline ในกรณีที่ไม่ได้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ลิงก์ข้อมูลกับ Google Calendar แบบ Real Time และแชร์รายการต่าง ๆ ไปหาเพื่อนหรือทีมงานหากต้องทำงานร่วมกับคนอื่นในทีมได้อีกด้วย
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ
-
ตั้งเวลาแจ้งเตือนได้ หากงานนั้นมีกำหนดเวลาที่ต้องทำ
-
สร้างหมวดหมู่ในแต่ละโปรเจกต์ ทำให้ใช้งานได้ง่ายและเป็นระเบียบขึ้น
-
สามารถแสดงงานเป็นรายการงานทั้งหมด แบ่งตามวัน หรือตามโปรเจกต์ก็ได้
-
ตั้งค่าการสร้างรายการอัตโนมัติได้ ว่าต้องการสร้างรายการนี้ซ้ำทุกวัน ทุกสัปดาห์ หรือทุกเดือน
-
ใช้งานและซิงก์ได้กับทุกอุปกรณ์ รวมทั้ง Smart Watch
*บางฟีเจอร์ของ Platform ขึ้นอยู่กับประเภทแพลนที่ Subscription
ราคา
Todoist ใช้ระบบ Subscription ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 3 แพลน
หากใครสนใจ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดของ Todoist ได้ ที่นี่
|
|
Monday หรือ Monday.com อีกหนึ่ง Project Management Tools ที่น่าสนใจ เนื่องจากมีฟีเจอร์ที่ทำได้มากกว่าการบริหารโปรเจกต์ อย่างเช่น HR Management, Remote Work Management หรือ Marketing Management ซึ่งอีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจคือการใช้ Automations หรือระบบอัตโนมัติที่จะช่วยเลื่อน Status งานชิ้นต่อไปว่าเริ่มทำได้ ทันทีที่คุณทำงานก่อนหน้าเสร็จสิ้น ทำให้ไม่ต้องคอยเสียเวลาในการเลื่อน Card หรือ Task อีกต่อไป
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ
-
หน้าสรุป 1 สัปดาห์ ว่ามีงานอะไรบ้างที่ทำแล้ว ยังไม่ได้ทำ หรืองานค้างจากอาทิตย์ก่อน
-
ใช้งานแบบ Chart View เพื่อดู Status งานภาพรวมว่ากำลังทำอยู่หรือเสร็จไปแล้วกี่เปอร์เซ็นต์
-
Export ข้อมูลออกมาเป็นรายงานได้อย่างรวดเร็ว
-
ตรวจสอบเวลาการทำงานของคนในทีมได้ ว่าโปรเจกต์นี้ใช้เวลาเท่าไหร่
-
เลือกได้ว่าต้องการฟีเจอร์อะไรบ้างบน Column เช่น Priority, Timeline หรือ Progress
*บางฟีเจอร์ของ Platform ขึ้นอยู่กับประเภทแพลนที่ Subscription
ราคา
Monday.com ใช้ระบบ Subscription ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 5 แพลน
-
Individual - ฟรี
-
Basic - 8 USD ต่อคน/เดือน
-
Standard - 10 USD ต่อคน/เดือน
-
Pro - 16 USD ต่อคน/เดือน
-
Enterprise - ติดต่อ Monday.com โดยตรง
*Note: ราคาของ Monday.com จะเป็นราคาต่อหนึ่ง Seat หรือคน โดยเริ่มต้นที่ 3 คนขึ้นไป ซึ่งหมายความว่าหากเราสมัครสมาชิกรูปแบบ Standard เราต้องจ่ายรายเดือนที่ 30 USD ต่อเดือน
หากใครสนใจ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดของ Monday ได้ ที่นี่
|
|
“Asana” Project Management Software ที่ดังที่สุดตัวหนึ่งของโลก ก่อตั้งโดย Dustin Moskovitz อดีตผู้ร่วมก่อตั้ง Facebook และ Justin Rosenstein อดีตวิศวกรที่เคยทำงานให้กับ Facebook และ Google ซึ่งข้อดีหลัก ๆ ของ Asana คือการที่เราสามารถเริ่มต้นใช้งานฟรีได้ถึง 15 Users ทำให้องค์กรขนาดเล็กหรือคนที่ไม่เคยใช้ Project Management Tools มาก่อน ก็สามารถเริ่มต้นเรียนรู้และใช้งานเบื้องต้นได้
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ
-
สามารถเรียกดู Task ได้ทั้งแบบ Board, Calendar, Listview และแบบ Timeline
-
สามารถสื่อสารแต่ละโปรเจกต์กับทีม ภายในโปรแกรมได้เลย
-
สร้าง Subtask ภายใต้ Task เพื่อกระจายหน้าที่และมอบหมายงานไปเป็นรายบุคคล
-
รวมทุกโปรเจกต์เข้ามาไว้ที่เดียว ช่วยให้โฟกัสเฉพาะงานของตัวเองได้
*บางฟีเจอร์ของ Platform ขึ้นอยู่กับประเภทแพลนที่ Subscription
ราคา
Asana ใช้ระบบ Subscription ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 4 แพลน
-
Basic - ฟรี
-
Premium - 10.99 USD ต่อคน/เดือน
-
Business - 24.99 USD ต่อคน/เดือน
-
Enterprise – ติดต่อ Asana โดยตรง
หากใครสนใจ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดของ Asana ได้ ที่นี่
|
|
Trello ซอฟต์แวร์ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2011 และมียอดผู้ใช้งานเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่รายบุคคลจนไปถึงองค์กรใหญ่ ๆ ซึ่งแนวคิดการจัดการงานแบบ Kanban (คัมบัง) คือระบบที่ถูกคิดค้นมาโดยวิศวกรในบริษัทโตโยต้าซึ่งมีมาอย่างยาวนาน แต่ Trello เป็นซอฟต์แวร์ที่ทำให้แนวคิดนี้ก้าวขึ้นมาอยู่บนโลก Digital และโด่งดังไปทั่วโลก ซึ่งข้อดีของ Trello คือการวางตัวเป็นเครื่องมือที่เน้นความเรียบง่ายในการจัดการงาน ที่ยังคงความสามารถในด้าน Project Management และการทำงานร่วมกันอย่างลงตัว
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ
-
ใส่รายละเอียดและปรับแต่งแต่ละ Task ได้ทั้ง Checklist, Label หรือ Multiple Assignees
-
Trello สามารถเชื่อมต่อโปรแกรมอื่น ๆ ได้มากมายมากกว่า 600 โปรแกรม
-
สร้างการทำงานแบบอัตโนมัติได้อย่างง่ายดายภายในไม่กี่คลิก
-
ดึงงานเร่งด่วนขึ้นมาแสดงด้านบนของบอร์ด โดยเลือก Trigger เป็น ป้ายกำกับว่าเร่งด่วน
*บางฟีเจอร์ของ Platform ขึ้นอยู่กับประเภทแพลนที่ Subscription
ราคา
Trello ใช้ระบบ Subscription ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 4 แพลน
-
Free - ฟรี
-
Standard - 5 USD ต่อคน/เดือน
-
Premium - 10 USD ต่อคน/เดือน
-
Enterprise – 17.50 USD ต่อคน/เดือน
หากใครสนใจ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดของ Trello ได้ ที่นี่
|
|
Notion ซอฟต์แวร์น้องใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวในปี 2019 และได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงเวลาที่คนทำงานหลายคนต้องทำงานจากที่บ้าน (Work from Home) ซึ่ง Notion นอกจากจะสามารถจดบันทึกโน้ตต่าง ๆ ในแต่ละวันที่คนทำงานต้องบันทึกไว้กันลืม ก็ยังสามารถใช้ซอฟต์แวร์นี้เพื่อจัดการ Task, การใช้ตารางแบบ Spreadsheet, ปฏิทิน หรือการลิงก์ข้ามโน้ต ทำให้ Notion เป็นซอฟต์แวร์ที่ค่อนข้าง Flexible และใช้งานได้หลากหลาย จนองค์กรต่าง ๆ เลือกนำไปใช้เป็นโปรแกรมจัดการงานภายในทีม
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ
-
มี Template ให้เลือกใช้งานมาก ทั้งเขียน Blog, To-Do List หรือสร้างฐานข้อมูล (Light CRM Database)
-
สามารถสร้าง Knowledge Base ส่วนตัวหรือแชร์กับทีมได้
-
จัดรูปแบบมุมมองได้หลากหลายทั้ง Kanban Board, List, Table หรือรูปแบบอื่น ๆ
-
ปรับแต่ง Template ที่เหมาะกับการใช้งานและคนในทีม
*บางฟีเจอร์ของ Platform ขึ้นอยู่กับประเภทแพลนที่ Subscription
ราคา
Notion ใช้ระบบ Subscription ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 4 แพลน
หากใครสนใจ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดของ Notion ได้ ที่นี่
|
|
JobThai Official Group เพื่อการหางาน หาคน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำงาน
บทความเดิมได้ถูกเผยแพร่ในวันที่ 6 ตุลาคม 2022 และได้รับการอัปเดตโดยทีมงาน JobThai
Source:
victorytale.com
sitthinunt.com
thegrowthmaster.com