Robert Pattinson นักแสดงผู้เคยรับบทแวมไพร์หนุ่ม Edward Cullen ในภาพยนตร์ Twilight ในปี2008 ได้กลับมาอีกครั้ง ในบทบาทของมนุษย์ค้างคาวภาคใหม่ในภาพยนตร์ The Batman (2022) ที่ได้กลายเป็นที่นิยมของแฟนการ์ตูนซูเปอร์ฮีโร่ และกวาดรายได้ทั่วโลกไปแล้วกว่า 750 ล้านดอลลาร์(ประมาณ 25,000 ล้านบาท) นอกจากนี้ยังได้รับคำวิจารณ์ที่ดีจากนักวิจารณ์หนังอีกด้วย

แต่กว่าจะประสบความสำเร็จอย่างในวันนี้ Robert Pattinson ย่อมต้องเคยเจอกับความท้าทายในเส้นทางนักแสดงที่มีการแข่งขันสูง สำหรับแฟนหนังทั่วไปยังคงมีภาพจำของเขาในฐานะของแวมไพร์หนุ่มผู้หล่อเหลา แต่ก็ไม่ได้เป็นที่จดจำในเรื่องความสามารถในการแสดง เมื่อกระแสของหนัง Twilight หมดลง อนาคตในวงการเกือบจะมาถึงทางตัน เขาจึงต้องตัดสินใจครั้งสำคัญ เพื่ออนาคตในอาชีพที่เขารัก 

JobThai ขอนำเสนอประสบการณ์ชีวิตการทำงานในวงการบันเทิงของ Robert Pattinson ที่อาจเป็นแรงบันดาลใจให้คุณนำไปปรับใช้และสร้างโอกาสในการประสบความสำเร็จกับเส้นทางการทำงานและชีวิตของคุณ

1. ทบทวนตัวเองเพื่อแสวงหาทางเลือกของชีวิต 

ชีวิตของคนเรามีหลายทางให้เลือกเดิน Robert Pattinson เองก็เป็นหนึ่งในศิลปินที่มีความสามารถรอบด้าน นอกจากการแสดงที่เป็นงานหลักแล้ว เขายังเคยร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ Twilight ที่เขาเคยแสดงด้วย Robert Pattinson ชื่นชอบในดนตรีโฟล์คซองเป็นพิเศษ อีกทั้งยังแต่งเพลง เล่นเครื่องดนตรีได้ทั้งกีตาร์และเปียโน ในช่วงที่เว้นว่างไปจากการแสดงเขาก็ได้ลองทำตามฝันบนเส้นทางดนตรีด้วยการเล่นดนตรีตามร้านต่าง ๆ เปิดโอกาสให้ตัวเองได้ลองทำอะไรที่แตกต่างออกไป

เขายังเคยวางแผนไว้ว่า ถ้างานแสดงไม่ประสบความสำเร็จ ก็จะเปลี่ยนสายงานหันมาเอาดีทางวงการดนตรีแทน โชคดีที่เขายังมีงานในวงการภาพยนตร์อยู่ เราจึงไม่ได้เห็นRobert Pattinson กับการเป็นนักดนตรีอย่างเต็มตัว แต่ก็เป็นตัวอย่างให้เราได้เห็นว่า การประเมินทางเลือกในชีวิต แล้วทำตามเป้าหมายที่ต้องการอย่างจริงจัง แม้จะเป็นแค่การลองผิดลองถูก ก็อาจทำให้เราได้รู้จักตัวเองดีขึ้น หรือนำไปสู่เส้นทางใหม่ในชีวิตการทำงานได้ 

2. ไม่หยุดอยู่กับที่และกล้าทำสิ่งใหม่เพื่อพัฒนาตนเอง 

Robert Pattinson เริ่มรับงานแสดงโดยไม่สนว่าหนังเรื่องนั้นจะฟอร์มเล็กหรือใหญ่ ตราบใดที่บทบาทนั้นท้าทายและทำให้เขาได้พัฒนาฝีมือการแสดง เห็นได้จากการที่เขารับบทในหนังนอกกระแสที่คนดูทั่วไปอาจไม่เคยดูอย่าง Cosmopolis (2012), Good Time (2017), The Lighthouse (2019) หรือ The Devil All the Time (2020) และเป็นที่รู้กันว่าหนังประเภทนี้มักจะมีตัวละครที่ต้องแสดงบทดราม่าสะเทือนอารมณ์ แม้จะไม่ได้เป็นหนังฟอร์มยักษ์ที่สร้างรายได้ให้ค่ายหนัง แต่ก็เป็นแหล่งรวมพลของนักแสดงเจ้าบทบาท และเป็นบันไดก้าวสำคัญในการได้ทำงานกับทีมงานสร้างภาพยนตร์คุณภาพต่อไปในเรื่องอื่น ๆ หากแสดงออกมาได้ดีเป็นที่ชื่นชอบของนักวิจารณ์ภาพยนตร์ หรือได้รับการแนะนำจากคนในวงการ

การเลือกรับงานแบบนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการวิ่งเข้าหาโอกาส และกล้าเปลี่ยนแปลงชีวิต เช่นเดียวกับคนทำงานทุกคนที่ต้องยอมออกจากความคุ้นเคย และกล้าที่จะลองทำงานใหม่ ๆ ที่ทำให้เราได้ประสบการณ์มากขึ้น เป็นอีกก้าวหนึ่งสู่ความสำเร็จในอนาคต

3. ล้มได้ แต่ต้องลุกขึ้นสู้ใหม่ แล้วสักวันจะเป็นของเรา 

การตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแปลงแนวทางในการทำงานเสียใหม่ ด้วยการรับงานที่ทำให้เขาได้พัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง นับเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Robert Pattinson สามารถก้าวข้ามการเป็นนักแสดงหน้าใหม่ไปสู่นักแสดงมืออาชีพแถวหน้าของวงการ จนในที่สุดเขาก็ได้รับโอกาสครั้งสำคัญที่มีความหมายกับตัวเขาเอง ทั้งในฐานะนักแสดงและในฐานะแฟนตัวยงของอัศวินรัตติกาล

ย้อนกลับไปในช่วงกลางปี 2019 สื่อบันเทิงหลายเจ้าได้รายงานว่าเขากำลังได้รับความสนใจจากค่ายหนังยักษ์ใหญ่อย่าง Warner Bros. ผู้ถือครองสิทธิ์ในการสร้างภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจากเนื้อหาของค่ายการ์ตูน DC Comics และได้เป็นตัวเลือกในอันดับแรก ๆ ของการคัดเลือกนักแสดงเพื่อมารับบทแบทแมนคนใหม่ ที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่านั้น คือ Matt Reeves ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง The Batman ถึงกับเขียนบทตัวละครตัวนี้โดยอ้างอิงมาจากภาพลักษณ์ของ Robert Pattinson จากผลงานเรื่องต่าง ๆ ที่เขาเคยดู ก่อนที่จะเจรจาให้เขามารับบทเสียอีก Matt Reeves ให้เหตุผลว่าเขาประทับใจในการแสดง และพิจารณาจากประวัติการทำงานร่วมกับผู้กำกับภาพยนตร์มากความสามารถหลายคน นี่จึงเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า หากเราทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับงานที่ทำ ต่อให้งานจะเล็กหรือใหญ่แค่ไหนก็ไม่สำคัญ ถ้าเรามีความมุ่งมั่นและผลิตผลงานที่มีคุณภาพจริง ๆ ย่อมต้องมีคนเห็นคุณค่าเข้าสักวัน

ทุกครั้งที่เราเห็นภาพความสำเร็จของบุคคลที่มีชื่อเสียง เราจะได้เห็นเพียงแค่เศษเสี้ยวหนึ่งของชีวิตของพวกเขา แต่เราอาจจะไม่เคยรู้ถึงความยากลำบากที่พวกเขาต้องเผชิญ เช่นเดียวกันกับเส้นทางการทำงานของ Robert Pattinson คนวัยทำงานทุกคนต่างก็ต้องเคยเจอกับจุดตกต่ำของชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว ช่วงเวลาแห่งการเผชิญกับปัญหา แม้จะเป็นประสบการณ์ที่ไม่น่าจดจำ แต่ก็เป็นบทเรียนสำคัญบทหนึ่งของชีวิต หวังว่าตัวอย่างจากช่วงชีวิตหนึ่งของ Robert Pattinson จะทำให้คนทำงานทุกคนได้เห็นแนวทางในการรับมือและก้าวข้ามอุปสรรค รวมถึงมีกำลังใจและแรงบันดาลใจในการทำงานเพื่อสร้างโอกาสและอนาคตในแบบฉบับของตนเองได้อย่างที่ตั้งใจ   

ที่มา:

collider.com

faroutmagazine.co.uk

polygon.com

screenrant.com