การ์ตูนดังอย่าง One Piece ได้กลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง หลัง Netflix ได้ปล่อยซีรีส์ฉบับใช้คนแสดงออกมาพร้อมกันทีเดียวถึง 8 ตอนรวด ซึ่งผลลัพธ์ของการดัดแปลงการ์ตูนระดับตำนานเรื่องนี้ก็ออกมาดีเกินความคาดหมาย ได้รับคำชมจากนักวิจารณ์และผู้ชมทั่วไปจนกลายเป็นที่พูดถึงบนโซเชียลมีเดียทั่วโลกในตอนนี้ สิ่งที่ทีมงานสร้างทำออกมาได้ดีก็คือการถ่ายทอดเรื่องราวที่กระชับแต่ยังเคารพต้นฉบับ ทำให้ไม่ว่าจะเป็นบรรดาแฟนคลับหรือคนที่ไม่เคยอ่านมังงะหรือดูอนิเมะเรื่องนี้มาก่อนก็สนุกไปกับเนื้อเรื่องการผจญภัยในโลกกว้างในยุคที่โจรสลัดครองโลกได้ เมื่อกระแสดีแบบนี้ JobThai ก็อดไม่ได้ที่จะพาคนทุกคนไปทำความรู้จักตัวละครจาก One Piece มาลองดูกันว่าหากลูกเรือของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางเป็นคนทำงานอย่างพวกเรา พวกเขาจะมีนิสัยและสไตล์การทำงานเป็นยังไงกันบ้าง ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเล้ยยยย!
ลูฟี่เป็นตัวละครที่เรียบง่ายที่สุดใน One Piece ด้วยนิสัยที่เปิดเผย ดูซื่อ ๆ คิดจะทำอะไรก็ลงมือทำเลย มีปัญหาก็ต้องแก้ ไม่มีอ้อมค้อม ที่สำคัญเขายังรู้จักตัวเองเป็นอย่างดี ใฝ่ฝันที่จะใช้ชีวิตอย่างอิสระและตั้งเป้าไว้ว่าอยากเป็นราชาแห่งโจรสลัดตั้งแต่อายุยังน้อย เรียกได้ว่าเป็นตัวละครที่มีอุดมการณ์แรงกล้าสมกับที่เป็นพระเอกของเรื่อง
สไตล์การทำงาน: ลูฟี่เป็นผู้นำของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางที่เปี่ยมไปด้วยแรงผลักดันในการทำตามฝัน เขาเป็นคนที่มีแรงบันดาลใจในการทำตามเป้าหมายให้สำเร็จด้วยตัวเอง เน้นผลลัพธ์ของการทำงาน ไม่ต้องคิดซับซ้อน นอกจากนี้เขายังมีบุคลิกความเป็นผู้นำสูงแลรักพวกพ้อง เป็นตัวอย่างที่ดีที่ทำให้คนในทีมรักและเกิดแรงบันดาลใจอยากพัฒนาตัวเอง ในบางครั้งลูฟี่อาจจะทำตัวเหมือนไม่ฟังใคร ชอบทำอะไรตามใจ แต่ความจริงแล้ว เขาเป็นผู้ฟังที่ดีมากคนหนึ่งและห่วงใยสารทุกข์สุกดิบของคนในทีมอยู่เสมอ เมื่อต้องเผชิญกับปัญหาลูฟี่ยังเลือกที่จะทำตามเป้าหมายอย่างแน่วแน่ ไม่ยอมถอดใจง่าย ๆ แม้ใคร ๆ ก็พากันหัวเราะและวิจารณ์ว่าเป้าหมายของเขาไม่มีทางเป็นไปได้จริง
การมองโลกอย่างเรียบง่ายของลูฟี่ไม่ใช่แค่การมองโลกสวยโดยไม่สนใจความเป็นจริง แต่กลับเป็นการเลือกที่จะเชื่อในศักยภาพของตัวเองและสมาชิกในทีมมากกว่าที่จะก้มหน้ายอมรับชะตากรรมและใช้ชีวิตตามบรรทัดฐานของสังคม คนที่มี Passion สูงก็มักจะมีแรงผลักดันในการทำตามเป้าหมายได้เป็นอย่างดี ลูฟี่จึงถือเป็นตัวอย่างของนักล่าฝันที่น่าจดจำที่สุดในโลกอนิเมะ ถ้าในชีวิตการทำงานจริงที่เราต้องเจออุปสรรคแล้วเรามีหัวหน้าทีมแบบนี้ สมาชิกในทีมก็จะมีกำลังใจและมีแรงฮึดสู้ผ่านช่วงเวลาที่กดดันนั้นไปด้วยกันได้
เป้าหมายในชีวิตของโซโรคือการเป็นนักดาบที่เก่งที่สุดในโลก เขาจึงให้ความสำคัญกับการมีระเบียบวินัยในการฝึกซ้อม แม้เขาจะเจอคู่ปรับที่แข็งแกร่งกว่าและไม่ได้ชนะทุกครั้งไป แต่ก็พร้อมจะลุกขึ้นสู้ใหม่และพัฒนาให้ก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองเพื่อให้ตัวเองเก่งขึ้นอยู่เสมอ
สไตล์การทำงาน: โซโรเปรียบเสมือนคนทำงานสายบู๊ที่พร้อมลุยทุกงาน เพราะเขามีทักษะความชำนาญที่เกิดจากการฝึกฝนด้วยตัวเอง เรียกได้ว่าถ้าได้รับมอบหมายให้ทำงานอะไรแล้วต้องสำเร็จทุกครั้ง เดิมทีโซโรเป็นคนที่ชอบทำอะไรคนเดียว แต่เมื่อได้พบกับลูฟี่และรวบรวมสมาชิกจนพร้อมที่จะทำงานใหญ่ เขาก็คิดได้ว่าการจะทำเป้าหมายของตัวเองให้สำเร็จได้ บางครั้งเราก็ต้องพึ่งพาคนอื่นด้วยเช่นกัน เขาจึงค่อย ๆ เรียนรู้ที่จะทำงานเป็นทีมและฟังความต้องการของคนอื่นมากขึ้น
โซโรจึงเป็นตัวอย่างของคนที่พร้อมปรับตัวและพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ มีวินัยในตัวเองและมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ส่วนรวมได้เป็นอย่างดี สามารถทำให้เป้าหมายส่วนตัวและเป้าหมายขององค์กรสำเร็จไปพร้อม ๆ กันได้
นามิเป็นจอมโจรสาวที่เชี่ยวชาญเรื่องการวางแผน ไม่ว่าสถานการณ์จะย่ำแย่แค่ไหน เธอก็หาวิธีเอาตัวรอดได้เสมอ สมาชิกผู้หญิงเพียงคนเดียวในกลุ่มลูกเรือลำนี้ได้รับตำแหน่งต้นหนเรือและกลายมาเป็นมันสมองของทีม ส่วนความฝันของนามิก็คือการได้ออกไปผจญภัยในทะเลที่กว้างใหญ่และวาดแผนที่โลกให้สมบูรณ์ด้วยพรสวรรค์ในการวาดรูปของเธอ
สไตล์การทำงาน: นามิเคยเป็นคนที่เกลียดพวกโจรสลัดมาก่อน แต่เพราะความจริงใจและการยื่นมือช่วยเหลือของของลู่ฟี่ทำให้เธอยอมเปิดใจและยอมรับคำเชิญให้มาร่วมการผจญภัยด้วยกัน เธอเลยจับพลัดจับผลูกลายมาเป็นคนนำทางของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง นามิมักจะวางแผนและประเมินความเสี่ยงของสถานการณ์ก่อนทำภารกิจทุกครั้งและกล้าที่จะโต้แย้งกับกัปตันอย่างลูฟี่ด้วยความเป็นเหตุเป็นผล
นอกจากนี้เธอยังต้องเป็นตัวกลางในการสื่อสารระหว่างคนภายในทีม (และห้ามมวยเวลามีคนทะเลาะกัน) เช่นเดียวกันกับการทำงานในโลกความเป็นจริง เมื่อเรามีเป้าหมายในการทำงานที่ชัดเจนและวางแผนมาเป็นอย่างดีแล้ว เราต้องมีสักคนในทีมเป็นเป็นหัวเรือใหญ่ คอยสนับสนุนการทำงานและประคับประคองให้การทำงานในอยู่ในร่องในรอย ไม่พากันออกทะเลจนเสียงาน
ในบรรดาลูกเรือทั้งหมดอุซปอาจไม่ได้โดดเด่นด้านทักษะการต่อสู้เท่ากับคนอื่น แต่เขาเป็นนักเล่าเรื่องฝีปากกล้าที่มักจะสร้างรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ (และแอบสร้างปัญหาในบางครั้ง) ให้กับสมาชิกในทีม นอกจากนี้เขายังถนัดการโจมตีศัตรูจากแนวหลังได้อย่างแม่นยำอีกด้วย
สไตล์การทำงาน: อุซปไม่ใช่ตัวหลักของทีมในการพุ่งเข้าใส่ปัญหาเวลาเจอศัตรูที่แข็งแกร่ง ออกจะติดหงอและไปหลบหลังเพื่อนด้วยซ้ำ อุซปมีอาวุธประจำตัวคือหนังสติ๊ก เขาจึงได้รับตำแหน่งพลแม่นปืนประจำเรือเพื่อคอยช่วยเหลือเพื่อนจากระยะไกล สิ่งที่มาทดแทนความสามารถในการต่อสู้คือทักษะในการเล่าเรื่อง (Story-Telling) ที่แม้จะพูดเกินจริงไปบ้างในบางครั้ง (เคยถูกมองว่าเป็นเด็กเลี้ยงแกะประจำหมู่บ้าน) แต่เสน่ห์ในการพูดก็เป็นเอกลักษณ์ที่น่าจดจำของตัวละครนี้
คนที่รู้จักการใช้วาทศิลป์อาจเหมาะกับการสร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงาน ช่วยทำให้สมาชิกในทีมผ่อนคลายในช่วงเวลาที่เคร่งเครียด หรือบางครั้งก็กลายเป็นตัวหลักในการทำงานที่ต้องอาศัยการพูดคุยได้ ไม่ว่าจะเป็นการประสานงานกับคนทำงานต่างแผนก มีลูกล่อลูกชนในการเจรจาหรือโน้มน้าวใจคนฟังที่เป็นลูกค้า คนที่พูดเก่ง Present งานเก่งจึงได้เปรียบในงานที่ต้องใช้ทักษะด้านนี้
กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ซันจินั้นจึงเป็นเป็นพ่อครัวประจำเรือที่มีความสำคัญต่อปากท้องของทุกคนบนเรือ เขาเป็นคนใจดี ดูขรึม (แต่ไม่เงียบ) และเป็นคนคิดก่อนจะพูดหรือจะทำอะไรเสมอ เป็นอีกตัวละครที่มีความรอบคอบและเป็นคนเนี้ยบเรื่องการทำงาน แถมด้านความสามารถในการต่อสู้ก็เป็นกำลังรบแนวหน้าไม่แพ้ลูฟี่และโซโรเช่นกัน เรียกได้ว่าครบเครื่องทั้งบุ๋นทั้งบู๊เลยทีเดียว
สไตล์การทำงาน: ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมาตั้งแต่เด็กและความรักในการทำอาหารทำให้ซันจิมั่นใจในทักษะการเป็นพ่อครัวของตัวเองมาก เขาความเคารพในสายอาชีพและเห็นคุณค่าของตัวเองผ่านผลงานที่สำเร็จออกมา ซันจิจึงไม่ชอบให้ใครมาก้าวก่ายหรือวิจารณ์การทำงาน ในด้านการตัดสินใจ ซันจิมีความสุขุมและตัดสินใจได้อย่างรอบคอบแม้ต้องเผชิญกับสถานการณ์คับขัน นอกจากทักษะในการทำงานที่ไม่เป็นสองรองใครแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นคุณสมบัติเด่นของซันจิก็คือความมีน้ำใจและความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น หากเขาเห็นหนทางที่ตัวเองพอจะช่วยเหลือได้ เขาก็จะทำอย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเป็นใคร ถ้าในชีวิตจริง เราได้เจอคนทำงานที่เอาจริงเอาจังกับการทำงานแถมยังครบเครื่องแบบนี้ เป็นใครก็ต้องอยากได้มาร่วมทีมอย่างแน่นอน
ในการทำงานจริง คนเรามีประสบการณ์และความถนัดไม่เหมือนกัน หัวใจสำคัญของการทำงานเป็นทีมคือการรู้จักบริหารความสามารถของคนในทีมให้ลงตัวหรือการใช้คนให้เหมาะกับงานนั่นเอง การดึงทักษะของสมาชิกในทีมมาใช้ให้เกิดประโยชน์และเข้ากับสถานการณ์อาจทำให้งานบางอย่างเสร็จเร็วหรือราบรื่นขึ้น และไม่ว่าคุณจะมีสไตล์การทำงานเหมือนใครในตัวละครของโลก One Piece สิ่งสำคัญที่เราได้จากเรื่องนี้คือการเรียนรู้ที่จะปรับตัวและพยายามที่จะทำงานร่วมกันเป็นทีม แม้ลักษณะนิสัยของแต่ละคนในกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางจะดูแตกต่างกันจนดูไม่น่าเข้ากันได้ บางครั้งยังมี Moment จิกกัด กระทบกระทั่งกันบ้างระหว่างสมาชิกในทีม แต่นี่แหละคือความโดดเด่นของ One Piece ในการนำเสนอเรื่องราวของกลุ่มคนที่ดูเหมือนจะขาด ๆ เกิน ๆ แต่กลับทำงานร่วมกันได้อย่างน่าประหลาด แต่กว่าจะไปถึงจุดนั้นได้ ทีมนี้ก็ต้องใช้เวลาปรับตัว เปิดใจให้กัน และช่วยเหลือกันในยามคับขัน ผ่านร้อนผ่านหนาวในการผจญภัยเสี่ยงตายมาด้วยกันจนเข้าอกเข้าใจกันเป็นอย่างดี มองตาก็รู้ใจว่าเพื่อนร่วมทีมต้องการอะไร
อย่าลืมว่าการจะสร้าง Teamwork ที่แข็งแกร่งได้ ต้องเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงเวลาที่เพิ่งรวมทีมกันใหม่ ๆ ให้ความสำคัญกับการทำความรู้จักแง่มุมต่าง ๆ ของเพื่อนร่วมงานของเรา คอยสังเกตว่าเพื่อนคนไหนเก่งอะไร และคอยสนับสนุนให้พวกเขาได้ทำในสิ่งที่ถนัดและเป็นประโยชน์กับทีม เมื่อสมาชิกทุกคนในทีมปรับตัวเข้าหากันได้อย่างลงตัวพร้อม ๆ กับการตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดแล้ว การทำตามเป้าหมายของทีม แผนก และองค์กรให้สำเร็จลุล่วงก็คงไม่ไกลเกินเอื้อมอย่างแน่นอน
JobThai Official Group เพื่อการหางาน หาคน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำงาน
ที่มา:
comicbook.com, gamerant.com, imdb.com, onepiece.fandom.com, sosyncd.com, tvtropes.org