กลับมาอีกครั้งกับงานสัมมนาอัปเดตเทรนด์และความรู้สำหรับคนทำงานประจำปีอย่าง AP Thailand Presents CREATIVE TALK CONFERENCE 2023 FESTIVAL ซึ่งคราวนี้จัดขึ้นในธีม “The Next Big Things” แบบจุใจตลอด 3 วันเต็ม ตั้งแต่วันที่ 22-24 มิถุนายน 2023 ที่ไบเทค บางนา ภายในงานจะมีอะไรบ้าง ทำไมต้องจัดถึง 3 วัน แล้วกิจกรรมในแต่ละวันต่างกันยังไง JobThai จะพาทุกคนไปชม!

CTC2023 FESTIVAL พิเศษกว่าปีก่อน ๆ ยังไง?

CTC เป็นงานที่จัดขึ้นต่อเนื่องทุกปี แต่ในปีนี้มีความพิเศษกว่างานครั้งก่อน ๆ โดยคุณเก่ง สิทธิพงศ์ ศิริมาศเกษม ผู้บริหารและผู้ก่อตั้ง Creative Talk ได้แชร์ให้เราฟังว่างาน CREATIVE TALK CONFERENCE 2023 FESTIVAL หรือ CTC2023 FESTIVAL พิเศษกว่าเดิมตรงที่

• เป็นงานครบรอบ 10 ปีที่มีจำนวนสปีกเกอร์ สื่อ และผู้เข้าชมงานมากที่สุด

ตั้งแต่เริ่มต้นจัดงานมา งานครั้งนี้นับเป็นการจัดงานครั้งที่ 10 พอดี ทำให้มีความยิ่งใหญ่กว่าปีก่อน ๆ โดยมีการเพิ่มจำนวนเซสชันบรรยายและเสวนาขึ้นเป็น 87 เซสชัน พร้อมสปีกเกอร์ทั้งหมด 146 ท่าน ซึ่งเป็นจำนวนที่ทำลายสถิติเดิมที่เคยมีมา นอกจากนี้ยังมีสื่อที่มาร่วมทำข่าวโปรโมตกิจกรรมภายในงานมากถึง 81 สื่อ และมีผู้จัดแสดงบูธและผู้สนับสนุนงานมากถึง 102 ท่าน ด้วยจำนวนเซสชันและสปีกเกอร์ที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้กว่าจะออกมาเป็นงาน CTC2023 FESTIVAL อย่างที่เราเห็นกันนี้ต้องใช้เวลาในการเตรียมตัวนานถึง 6 เดือนเลยทีเดียว แต่ผลตอบรับก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะตัวเลขผู้เข้าร่วมงานในปีนี้ทะลุ 10,000 คน ถือเป็นจำนวนผู้เข้าชมที่เยอะที่สุดเท่าที่เคยจัดงานมาเลย

• จัดอีเวนต์แบบ Festival อัดแน่นความรู้ตลอด 3 วันเต็ม

ถ้าสังเกตให้ดี เราจะพบว่าชื่องาน CTC ในปีนี้แตกต่างจากปีก่อน ๆ เพราะมีคำว่า ‘Festival’ ต่อท้ายด้วย ซึ่งที่มาของ Festival ก็มาจากไอเดียการจัดอีเวนต์แบบรวมหลายงานเข้าไว้ด้วยกันเพื่อนำเสนอเนื้อหาที่หลากหลายขึ้น ทำให้งาน CTC 2023 ขยายช่วงเวลาเป็น 3 วัน และในแต่ละวันก็จะมีหัวข้อบรรยายและการจัดกิจกรรมที่แตกต่างกันไป ได้แก่

• วันที่ 1: Marketing Insight & Technology Conference (MITCon) มีเนื้อหาเกี่ยวกับการตลาดและเทคโนโลยี

• วันที่ 2: People Performance Conference (PPC) มีเนื้อหาเกี่ยวกับการบริหารและพัฒนาคน

• วันที่ 3: Creative Talk Conference (CTC) มีเนื้อหาเกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรมและการทำธุรกิจ

สาเหตุที่เลือกหัวข้อเหล่านี้มาเป็นแกนในการจัดงาน นอกจากเนื้อหาด้านความคิดสร้างสรรค์ในวันสุดท้ายที่เป็นหัวใจสำคัญของ CTC แล้ว อีก 2 หัวข้อที่เลือกมาเป็นการอ้างอิงจากข้อมูลของงานครั้งก่อน ๆ ว่าคนสนใจเข้าฟังการบรรยายในเซสชันไหนมากเป็นพิเศษ ซึ่งหัวข้อที่คนสนใจมากที่สุดก็คือหัวข้อการตลาดและการบริหารคนนั่นเอง

เรียกได้ว่างาน CTC2023 FESTIVAL คือมหกรรมความรู้ที่ช่วยคนเชื่อมโยงสิ่งต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ซึ่งก็ตรงกับความตั้งใจของคุณเก่งที่อยากให้คนรู้จัก ‘Connect the dots’ อย่างใครที่เป็นนักการตลาด มางานนี้ก็จะได้เรียนรู้เรื่องการบริหารคนด้วย หรือใครที่เป็น HR มางานนี้ก็จะได้เรียนรู้เรื่องเทคโนโลยีเพิ่ม เมื่อเรามีความรู้ในด้านต่าง ๆ เพิ่มขึ้น เราก็จะสามารถนำไอเดียเหล่านี้ไปต่อยอดการทำงานได้อย่างสร้างสรรค์

• ส่งต่อคุณค่าให้สังคมด้วยแนวคิดสนับสนุนความยั่งยืนและครอบคลุมคนทุกกลุ่ม

นอกจากการส่งมอบความรู้ให้กับผู้เข้าร่วมงานแล้ว งาน CTC 2023 FESTIVAL ยังจัดขึ้นด้วยความตั้งใจที่จะส่งต่อคุณค่าให้กับสังคมด้วย เนื่องจากคุณเก่งมักได้ยินคนพูดว่าการจัดงานอีเวนต์นั้นเป็นการใช้วัสดุสิ้นเปลือง ไม่ยั่งยืน คุณเก่งจึงได้จับมือกับทาง Moreloop ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเสื้อผ้าแบบหมุนเวียนด้วยการนำชุดเก่ากลับมาใช้ใหม่เพื่อผลิตเสื้อยืดสำหรับอาสาสมัครในงาน CTC ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากถึง 3,987.02 กิโลกรัม เทียบเท่ากับการขับรถยนต์เป็นระยะทาง 33,529.54 กิโลเมตร หรือเท่ากับการขับรถจากจุดเหนือสุดของประเทศไทยลงไปยังจุดใต้สุดถึง 20 รอบ นอกจากนี้ทาง Creative Talk ยังร่วมมือกับ Greenery เพื่อให้บริการน้ำดื่มที่สามารถนำกลับไปรีไซเคิลได้ ช่วยลดการใช้พลาสติกได้มากถึง 10,000 กระป๋องอีกด้วย

ไม่ใช่แค่เรื่องของความยั่งยืนเท่านั้น คุณเก่งยังให้ความสำคัญกับเรื่องของความเท่าเทียม ต้องการให้คนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงความรู้และโอกาสดี ๆ ได้ งาน CTC ปีนี้จึงจัดขึ้นในรูปแบบที่สนับสนุนผู้พิการ ทั้งผู้พิการทางสายตา การได้ยิน และการเคลื่อนไหว ซึ่งได้รับความร่วมมือจากทาง Vulcan Coalition และทาง AP Thailand ที่เป็นสปอนเซอร์หลักของงาน ทำให้ทุกเซสชันมีการแปลสิ่งที่สปีกเกอร์บรรยายออกมาเป็นภาษามือ รวมถึงมีการเทรนเรื่องการซัปพอร์ตผู้พิการทางสายตาให้กลุ่มอาสาสมัครประจำงาน และขยายช่องทางในการเดินภายในฮอลล์บรรยายเพื่อรองรับผู้เข้าชมงานที่ใช้รถเข็นอีกด้วย

“The Next Big Things” ธีมงานที่ชวนให้ทุกคนโอบรับสิ่งใหม่ ๆ ด้วยการ RIDE ไปกับคลื่น

“Big Things” เป็นคำที่ต่างชาติใช้กันบ่อยเวลามีสิ่งใหม่ ๆ เกิดขึ้น อย่างในสมัยก่อน Big Things ก็คือวิทยุ โทรทัศน์ หรืออินเทอร์เน็ต ซึ่งกว่าจะมีนวัตกรรมอะไรเกิดขึ้นค่อนข้างใช้เวลา แต่ทุกวันนี้ Big Things เกิดขึ้นไวมาก เราจะเห็นว่ามีความเปลี่ยนแปลงและสิ่งใหม่ ๆ ปรากฏขึ้นอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นสกุลเงินดิจิทัลอย่างคริปโตเคอร์เรนซี โลกออนไลน์เสมือนจริง AI หรือสิ่งประดิษฐ์ใหม่ ๆ ซึ่ง Big Things เหล่านี้ก็เหมือนคลื่นใหญ่ที่ซัดเข้ามา ไม่ว่าเราจะชอบหรือไม่ เราก็ปฏิเสธไม่ให้คลื่นโถมเข้ามาไม่ได้อยู่ดี สิ่งที่เราสามารถทำได้มีแค่ 2 อย่าง คือปล่อยให้คลื่นซัดเราจมน้ำ หรือกระโดดขึ้นขี่คลื่นแล้ว RIDE ไปกับมัน

หลายคนอาจสงสัยว่าแล้วถ้าอยากขี่คลื่น เราต้องทำยังไงบ้าง คุณเก่งเลยให้คำจำกัดความของการ ‘RIDE’ กับเราในเซสชันเปิดงาน CTC 2023 FESTIVAL ว่า

• Respond – ตอบรับสิ่งใหม่ ๆ ที่เข้ามา เปิดใจและให้ความสนใจกับมัน

• Intellectual – เมื่อเราตอบรับแล้ว เราต้องพยายามเรียนรู้และศึกษาสิ่งนั้น ๆ ด้วย

• Dare to Do – หลังจากที่ได้รู้จักและทำความเข้าใจกับมันแล้ว เราก็ต้องมีความกล้าที่จะทดลองและลงมือทำ

• Evaluate – สุดท้ายคือการวัดผล ทุกสิ่งจะพัฒนาต่อไปได้ก็ต่อเมื่อมีการวัดผล ดูว่าทำแล้วผลลัพธ์ออกมาเป็นยังไง จะได้เอาไปปรับปรุงให้ดีขึ้น

แน่นอนว่าในอนาคตย่อมมี The Next Big Things โผล่มาอีกเรื่อย ๆ ถ้าเราไม่อยากจมหายไปในหมู่คลื่นที่โถมเข้ามา เราก็ต้องเปิดใจยอมรับความเปลี่ยนแปลง โอบรับสิ่งใหม่ ๆ และคอยพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้น สามารถตามสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ทัน เมื่อถึงตอนนั้นตัวเรานี่แหละที่จะกลายเป็น The Next Big Thing

สำหรับคนที่พร้อมตอบรับและกระโดดขึ้นขี่คลื่นลูกใหม่ไปด้วยกันแล้ว JobThai สรุปเทรนด์และเนื้อหาที่น่าสนใจจากงานทั้ง 3 วันมาฝาก ใครอยากรู้ว่า The Next Big Things จะมีอะไรบ้าง ตามไปอ่านกันได้เลย